แม้นจักฟังสักกี่ครั้ง หากแต่ไม่ปฏิบัติ ก็ไร้ค่า ทำให้เราซึ่้งในคำของพระภูมีว่า หลักของท่าน ใครทำ ใครได้ และที่สำคัญ ไม่มีทางเลยที่จะหาสุขหรือมีสุข เมื่อตัวของเรามัวแต่มองตัวเรา เอาใจใส่ตัวเรา พยายามหาสุขให้ตัว แต่สุขไม่เคยมาถึงเลย
ตัวอย่างที่เด่นชัด นั่นคือภาพที่มองเห็นทุกวันพฤหัส และอาทิตย์ ของชายชราคนหนึ่ง ที่ช่วยตัวเองไม่ได้ ต้องมีชายหนุ่มอายุประมาณสี่สิบกว่า เข็นให้ทุกครั้ง
ชายชรา อยู่ ณ สถานที่นี้ ไม่มีญาติ ไม่มีเมีย ไม่มีลูก มาดูแล ทั้งๆ ที่ตัวของเขามีครบ และยังอยู่ครบ
เป็นชายชราที่ครั้งหนึ่งเคยมารักษาตัว ที่ชมรมแห่งนี้ จนหายเป็นปกติ แล้วก็เลือกไปอยู่กับภรรยา หาเลี้ยงครอบครัว ลูกเต้า ผ่านมาสิบปี เกิดอาการช่วยตัวเองไม่ได้ หนักกว่าอัมพฤกต์ อัมพาตเสียอีก เพราะแม้แต่จะพลิกตัว หรือขยับก็ทำไม่ได้เลย
ครอบครัวเขาติดต่อว่าจะให้มาอยู่รักษาที่ชมรม หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า ตอนนี้บ้านพักได้ถูกรื้อเพื่อสร้างใหม่ และที่สำคัญ ไม่มีพี่เลี้ยง ขอให้รอไว้ก่อน
ภรรยาและลูก จึงนำเขาไปทิ้งไว้ที่ วัดดังที่คนไข้อัมพฤกต์นิยมไปแช่น้ำแร่ ใกล้ๆ ชมรม แล้วโทรมาบอกหลวงพ่อนิพนธ์ว่า พาไปทิ้งไว้ที่นั่น ให้คนช่วยเอาสมุนไพรไปส่งให้ทานด้วย
หลวงพ่อนิพนธ์ ก็ให้คนนำสมุนไพรไปส่งให้ หากแต่คนส่งสมุนไพรกลับมารายงานว่า คนไข้ถูกปล่อยให้นอนกับพื้น และพระก็เอาข้าวใส่ถาดวางกับพื้นให้คลานไปกินเอง หากแต่คนไข้เคลื่อนไหวไม่ได้ วางจนข้าวบูด และก็ไม่มีคนดูแล
บังเอิญมีคนไข้มะเร็งที่คอ ซึ่งปูดออกมาขนาดผลส้มโอย่อมๆ มารักษาตัว หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวกับคนไข้มะเร็งว่า ถ้าอยากหายอย่ามองที่ตัว ให้ลืมสิ่งที่เป็น แล้วใช้กำลังที่เหลือ ไปช่วยคนอื่น เพื่อให้สุขนั้นย้อนกลับมาหาตน จะทำได้หรือไม่
คนไข้มะเร็งก็บอกว่าทำได้ ในขณะที่คนไข้สะเก็ดเงินที่เป็นขั้นรุนแรง คือ เป็นตั้งแต่หัวจรดเท้า ที่รับไว้เฝ้าสวนสมุนไพร ทั้งสองคน ก็รับอาสาดูแลคนไข้คนนี้ อุ้มขี้ อุ้มเยี่ยว อุ้มนอน ป้อนข้าวให้
หลวงพ่อนิพนธ์ จึงให้คนไปรับคนไข้ชราท่านนี้มาจากวัดนั้น แล้วพาไปอยู่ที่สวนสมุนไพร โดยมีพี่เลี้ยง ๒ คน ช่วยกันดู คือ สะเก็ดเงินหนึ่ง มะเร็งหนึ่ง
ย้อนประวัติคนไข้ชราท่านนี้ ซึ่งมีความคุ้นเคยกับหลวงพ่อนิพนธ์ดี และหลวงพ่อนิพนธ์ก็เคยกล่าวว่า อย่ามัวแต่ทำกินเพียงอย่างเดียว หากแต่ความรักเมียรักลูก ก็เพียงแต่ได้ฟัง อาศัยฝีมือทางช่างศิลป์ ได้ไปทำงานตบแต่งวังของสุลต่าน หลายประเทศในย่านอาหรับ ส่งเงินทองมาให้เมียและลูกมากมาย มาวันนี้ผลที่ได้คือ การนำพาเขาที่หมดสภาพ ทำอะไรไม่ได้แล้ว กลายเป็นขยะของบ้าน และถูกนำไปทิ้ง
หลวงพ่อนิพนธ์ จึงมักกล่าวเสมอว่า หน้าที่ของท่านคือ การรีไซเคิลขยะมนุษย์ ที่เขาทิ้งมาพัฒนา ให้กลับมีคุณค่า คืนกลับสังคมอีกครั้ง
ผ่านไปสองเดือน ของสามมนุษย์ คนไข้ชราเริ่มกลับมาช่วยตัวเองได้ ลุกเข้าห้องน้ำเองได้ คนไข้สะเก็ดเงิน อาการก็ดีขึ้น คนไข้มะเร็ง อาการบวมที่คอก็ยุบ แผลที่ประทุขนาดลูกมะนาวยัดได้ ก็แห้งลง และทิ้งไว้เพียงรอยจางๆ
บทสรุป จึงชี้ให้เห็นว่า แม้นจักเป็นเพียงเสี้ยววลี หากนำไปปฏิบัติ ก็เกินพอที่จักให้ผลในการช่วยตนแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า คนที่มาแล้วไม่สนอะไร จะเอาแต่สมุนไพรอย่างเดียว ทำไมผลมันจึงช้านัก ในขณะที่คนที่ดูว่าสาหัสสากรรจ์ แล้วเลือกใช้แนวทางนี้ ใช้กำลังที่มี ในการช่วยผู้อื่น ผลที่ได้ กลับย้อนมาให้ตนเองหายวันหายคืน
ก็ดูอย่างหลานภรรยาท่านชาติชาย ที่เป็นรูมะตอยด์ ขั้นรุนแรง หมอบอกได้แต่นั่งรอจนวาระสุดท้าย หลวงพ่อนิพนธ์บอกว่า มีฝีมืออะไรงัดมาให้หมด ก็อาศัยความรู้ด้านเบเกอรี่ จากนั่งสอนให้จิตอาสาทำ นั่งคอยดู มาบัดนี้ ลุกขึ้นยืน หัดเดิน จนจะกลับมาทำเองได้แล้ว
ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว .... อยากหาย ... ก็ได้แต่อยาก เมื่อฟังแล้วเฉย .. อยากหาย ได้หาย เมื่อฟังแล้วทำตามธรรมคำสอนของพระภูมี
นั่งดู นั่งเฝ้าตนเอง ทุกวัน ดูสักฉันใด ก็ช่วยให้ตนหายไม่ได้หรอก