วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ประตูเป็น ประตูตาย


คนมักจะถามหลวงพ่อนิพนธ์ว่า คนไข้อาการหนัก ท่านจะรับไหม

หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า หนักไม่หนัก ไม่ได้อยู่ที่คำวินิจฉัยของหมอ หรืออาการที่ปรากฎ

สิ่งที่กำหนด อุปมาประตูเป็น ประตูตาย นั่นคือ เครื่องมือที่ใช้ในการรักษาตนเองนั้น ยังคงทำงานอยู่หรือไม่ต่างหาก

นั่นคือ ท้อง หรือ ระบบการย่อย ของทุกคนที่ธรรมชาติให้มานั่นเอง หากแม้นคนดังกล่าว เล็บยังยาว ผมยังต้องตัด นั่นหมายความว่า ระบบมันยังทำงานอยู่ ประตูรอดก็ยังเปิดอยู่เช่นกัน

ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำคือ การทดสอบการตอบรับสมุนไพรของระบบร่างกายนั่นเอง ท่านจึงมักบอกว่า "ลองเอายาเขียวไปทานดู"

หากระบบของคนไข้ตอบรับ ทำให้เกิดอยากกิน หรือมีสภาพดีขึ้น หลวงพ่อนิพนธ์ เรียกว่า "ประตูเปิด นาทีทองมาแล้ว"

หากระบบของคนไข้ไม่ตอบรับ ก็หมายความว่า ประตูปิดเสียแล้ว สมุนไพรไม่มีประโยชน์ต่อบุคคลนั้น

และการที่คนไข้เก่า จะนำสมุนไพรเขียว ไปลองให้ผู้ที่หมอว่าอาการหนัก ทานนั้น หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า "ก็ทำได้" ไม่ผิดแต่อย่างใด เป็นการดีเสียอีก ดีกว่าพาคนไข้มารอเป็นวัน กลับถึงบ้านแล้ว ปรากฎว่าคนไข้ทานสมุนไพรไม่ได้ เสียเงิน เสียเวลาเปล่า

คนที่ยังเดินเหิรปกติ แต่มาโดยผิดวิธี ถึงแม้นจะได้สมุนไพรไปทาน หลวงพ่อนิพนธ์ก็กล่าวว่า ประตูของเขาปิดแล้วเช่นกัน การทานสมุนไพรของบุคคลเหล่านั้น ไม่มีผลใดๆ เลยเช่นกัน

ปัจจัยในการเปิดปิดประตู คือพฤติกรรมของผู้ทาน ด้วยเหตุนี้ หลวงพ่อนิพนธ์ จึงย้ำเสมอว่า "สมุนไพร เป็นเครื่องลางธรรมชาติ รู้ใจผู้ทำ และผู้ทาน" ..... ทำอย่างไร จึง ได้อย่างนั้น

คนเหล่านั้น จัดเป็นคนกลุ่มเดียวกัน ประเภทเดียวกัน คือ ทำตนเป็นที่พึ่งของผู้อื่น ทำตนว่ามีของดี ยาดี ช่วยคนอื่นได้ ท้ายที่สุด บทจบ คนเหล่านั้น ก็ล้วนแต่เป็นโรคด้วยกันทั้งสิ้น แล้วจบชีวิตลง อันเป็นที่มาของสำนวน หมองู ตายเพราะงู นั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44