ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
ภูมิปัญญาของใคร
โลกปัจจุบัน กำลังสอนให้คนรุ่นใหม่เป็นนักคิด นักประดิษฐ์ ใครที่คิดได้ ทำได้ แล้วคนชอบ นั่นคือมหาเศรษฐีคนต่อไป
แต่ธุรกิจใดเล่าจะดีไปกว่า ธุรกิจชีวิต ด้วยทุกคนบนโลกนี้ล้วนแล้วแต่รักตัว กลัวตาย กันทั้งหมดทั้งสิ้น
แต่ละวัน เราท่านจึงเห็น ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และยาเวชภัณฑ์ ทั้งแบบสมัยใหม่ หรือสมุนไพร ออกมาวางขายกันเกลื่อน
หากสิ่งที่น่าคิด ที่แม่ชีเมี้ยนได้ถ่ายทอดมาจากพระภูมี ให้ไตร่ตรอง นั่นคือ คำสอนที่ว่า สรรพสิ่งในโลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ในเมื่อสรรพสิ่ง กรรมเป็นผู้สร้าง ผู้ดลบันดาล ก็แล้วความคิดมนุษย์ จะไปเหนือลิขิตกรรม ที่บันดาลให้มนุษย์ต้องรับโทษ จากกรรมที่เป็นมาด้วยการเป็นโรคได้อย่างไร
หลวงพ่อนิพนธ์ จึงกล่าวว่า สมุนไพรที่นำมา ท่านย้ำนักย้ำหนาว่า ไม่ใช่ของท่าน ท่านไม่ใช่เป็นผู้คิด
เมื่อย้อนไปหาแม่ชีเมี้ยน ท่านก็ตรัสว่า ไม่ใช่ ไม่ใช่ สมุนไพรไม่ใช่ท่านเป็นผู้คิด แต่ท่านรู้ ท่านเห็น ท่านจึงนำมาให้ผู้มีคุณธรรม ได้นำมาใช้
ก็แล้วสมุนไพรที่ใช้ เป็นของใคร แม่ชีเมี้ยนตรัสว่า เป็นของพระพุทธเจ้า
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกที่ว่า ในเมื่อต้นมาจากพระพุทธเจ้า ที่ทำรอยทุกอย่างด้วยการทำให้ แม่ชีเมี้ยนจึงกล่าวว่า ผู้ที่จะนำไปใช้ ก็จึงต้องเดินรอยเดียวกัน คือ "ทำให้"
ก็ไม่น่าแปลก ที่ทำไมจึงไม่ค่อยมีคนอยากเรียน อยากทำ
ใครเขาว่า ตัวเขาเจ๋ง วิทยาการเขาเลิศ คิดยาได้ ทำยาได้ รักษาโรคได้ ก็ว่ากันไป
แต่สถานที่นี้ หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า วันเวลาจะพิสูจน์ ว่าการจะรักษาตน ต้องพึ่งภูมิปัญญาของพระพุทธเจ้า เท่านั้น
หลวงพ่อนิพนธ์ จึงกล่าวว่า เมื่อฟังเหตุและผล ก็เลือกเอา ชอบก็ทำตาม ไม่ชอบก็ไปแสวงหาในแนวที่ชอบ ไม่ว่ากัน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น