วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555

วาง

ศาสนา มีขอบเขต มีข้อจำกัด ไม่เกลื่อนกลาด หรือ กระจายทั่วไป

หรือที่หลวงพ่อนิพนธ์ มักใช้คำว่า เป็นเรื่องของชนกลุ่มน้อยๆ และเปรียบภาพของศาสนาได้ ดั่งคำ ร่มโพธิ์ร่มไทร ให้ได้มาพักอาศัย

ก็ด้วยเหตุที่ต้องแยกพื้นที่กัน ก็เพราะพื้นที่ของศาสนานั้น เป็นพื้นที่ที่จัดว่ากรรมเขายกให้ เว้นให้ นั่นเอง

คนโบราณ เรียกพื้นที่ของศาสนาว่า เขตพัทธสีมา

และรู้กันว่า หากเมื่อใดที่เข้ามาในเขตนี้แล้ว ไม่ว่ากฎแห่งกรรม หรือ กฎหมาย ก็เป็นอันว่ายกเว้น

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงกล่าวว่า เมื่อเข้ามาในบริเวณของแม่ชีเมี้ยน จัดว่าเข้ามาในเขตศาสนา เขตของพระภูมี ที่ทรงรับผิดชอบ นั่นคือห้องสวดมนต์

ในเมื่อเขตนี้ หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า กรรมเขาเว้น เป็นเขตบุญ

แต่คนที่เข้ามา แล้วหวังในบุญ เอามาช่วยตน กลับไม่มีสติ ไม่ลดกิริยา ยังคงใช้นิสัยเดิม ก็เพราะมองไม่เห็น มองไม่เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ มองไม่เห็นเป็นวิหาร แต่มองเห็นเป็นอาคารปกติ ทั่วไป จึงบรรเลงตามนิสัย

ภาพที่ปรากฎ ความมหัศจรรย์ที่ได้เห็น กลับมองไม่เห็น กลายเป็นตาบอดมืดมัว ไม่ซาบซื้งในอำนาจบุญ

เราท่านก็ลองไปหาแผ่นดินที่ไหนในโลกนี้ แล้วนำคนป่วยเป็นพันคน ที่ส่วนใหญ่หมอไม่รับ มาอยู่รวมกัน ในห้อง วันละสองสามชั่วโมง ดูซิจะเกิดอะไรขึ้น

โรงพยาบาล ยังไม่กล้าเลย กลัวติดเชื้อ กลัวคนไข้น็อค กลัวเป็นลม และที่สำคัญ กลัวคนไข้ตาย

แต่ห้องสวดมนต์ของแม่ชีเมี้ยน หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า เป็นห้องที่ใช้เพื่อสร้างบุญ มีกำแพงบุญ เมื่อเข้าไปแล้วย่อมปลอดภัย แม้นคนเข้าจะมีอาการไอ ระยะแพร่เชื้อ ก็ไม่มีอันตราย เพราะสู้ภาษาบุญที่ทุกคนสวดไม่ได้หรอก

สิ่งที่น่าเสียดาย พื้นที่ที่ไว้สร้างบุญเพื่อช่วยตน จะเกิดเป็นบุญได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการทำเช่นใดของเราท่าน มองเป็นสถานที่บุญ เป็นของสูง ก็ช่วยเราได้ มองเป็นอาคาร เหมือนศาลาหมู่บ้าน ทำเหมือนตลาด ไม่ลดกิริยา สถานที่เหล่านั้น ช่วยเราท่านไม่ได้เลย ฉันใดก็ฉันนั้น

สมุนไพร และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีสิ่งหนึ่งคือ ญาณรับรู้คนที่ทำได้

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงมักย้ำว่า "ทำอย่างไร ได้อย่างนั้น"

สถานที่บุญ หรือ พระภูมีก็ไร้ค่า เพราะตบมือข้างเดียวไม่ดัง คนที่มาเขาไม่ยื่นมือมา ได้แต่ร้องให้ช่วย แล้วฝันว่า มีคนฉุด แต่ความจริงแล้ว กำลังจมลง

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงกล่าวว่า นี่แหละกรรม แม้นมาถึงที่ ก็ยังมองไม่เห็น เพราะสถานที่นี้ไม่ได้เห็นด้วยตา แต่เห็นด้วยเหตุและผล เมื่อดูด้วยตา มันเลยกลายเป็นอาคารเหมือนทั่วไป พฤติกรรมจึงไม่เปลี่ยนแปลง ผลก็คือ แม้นจะอยู่ในสถานที่บุญ ก็ไม่ได้สัมผัส คนส่วนใหญ่จึงไม่ประสพผล ก็ด้วยเหตุแห่งใช้ตามอง ใช้นิสัยเดิมนำนั่นเอง

บุญ จึงเห็นไม่ได้ด้วยตา แต่ด้วยเหตุและผล สัมผัสได้

เราท่านจึงควรวางนิสัยกรรมไว้นอกอาคาร เมื่อเข้ามาในเขตบุญ แล้วใช้นิสัยบุญ ซึ่งกรรมมันกลัว นั่นคือ ความสงบ โดยการลดกิริยา รักษาสติ เพื่อทำกรรมฐาน คือ การสวดมนต์

เวลาทำกรรม กาย วาจา ใจ พร้อม แล้วเวลาสร้างบุญ ขาดโน่น ขาดนี่ ไม่ครบองค์ ผลที่ได้ก็แค่ไม้ซีก จะไปงัดกรรมที่เป็นซุงทับวิญญาณอยู่ คงเป็นไปไม่ได้

วางไว้ก่อนเถอะ หนังสือพิมพ์ หนังสือละคร แชทกับเพื่อน คุยกันอย่างตลาด เพราะไม่มีใครช่วยเราได้ นอกจากตัวเราเอง

วางนิสัยสร้างกรรม แล้วทำนิสัยบุญ แบกบุญกลับบ้านดีกว่า

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงมักพูดว่า ที่นี่เป็นของจริง ใครทำใครได้ หากคิดว่าที่อื่น่ช่วยได้ ก็ไปเถอะ เพราะที่นี่กว่าจะได้บุญมันลำบาก ต้องทำเอา ขอให้ตายก็ไม่ได้หรอก

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44