แม่ชีเมี้ยนนำศาสน์ของพระภูมีมาให้ และกล่าวว่า ศาสน์ มีไว้เพื่อ "พัฒนามนุษย์" ไม่ใช่มีไว้เพื่อพัฒนาวัตถุ
หากแต่ ความเป็นจริง คือ กรรมเขามาก่อน กรรมเขาจึงเป็นพี่ ธรรมมาทีหลัง ธรรมจึงเป็นน้อง
และคนจะเอาธรรมคำสอนไปทำ โดยวิธีใด
หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า ก็อาศัยให้คนซาบซึ้งในอำนาจเบื้องต้นของผู้มีธรรมก่อน นั่นคือ ทำให้เขาได้สัมผัส "ความไม่มีโรค" นั่นเอง
เมื่อคนได้สัมผัสบุญเบื้องต้น จึงก่อให้เกิดศรัทธาในบุญ และเชื่อมั่นในบุญ จึงมีศรัทธา ก่อให้เกิด ขันติ อดทน ที่จะสร้างบุญไว้ช่วยตน
แต่โบราณ เราท่านได้ยินคนพูด ดอกบัว ๔ เหล่า อย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไม่รู้ที่มาที่ไป
อันความหมายก็มาจาก ผู้คนเมื่อหลั่งไหลมาในเขตของพระพุทธศาสนา ได้สัมผัสบุญ พ้นจากโรค ก็อยากทำตน พัฒนาตน ตามธรรมคำสอนของพระภูมี นั่นเอง
หากแต่ว่าบุญเขาเป็นน้อง กว่าจะสร้างเป็นตนก็ต้องใช้เวลา นั่นคือ ความช้าเร็ว ตามแต่ละบุคคล ก่อให้เกิดเป็นกลุ่มดอกบัว
คนใดที่ฝึกไม่ได้ สอนไม่ได้ ก็เป็นดอกบัวเหล่าที่ ๔ นั่นเอง
เมื่อคนเราฝึกได้ช้าเร็วไม่เท่ากัน แต่เขาก็กำลังทำ กำลังสร้างบุญมาเกื้อหนุน เพื่อเปลี่ยนนิสัยกรรมของตน เป็นนิสัยธรรม
เราจึงไม่แปลกใจว่า ทำไมหลวงพ่อนิพนธ์ จึงมีน้ำอดน้ำทน พูดสอน มาได้เป็นเวลา หลายสิบปี ก็เพื่อรอให้คนเหล่านั้น คอยๆ สะสมบุญ เปลี่ยนนิสัยกรรม เป็นนิสัยธรรม ทีละน้อย ช้าเร็วตามแต่ละบุคคล
วันนี้ คนหลั่งไหลมามากมาย หลายคนสัมผัส และผ่าน บุญเบื้องต้น นั่นคือ การหายโรค ก็อยากพัฒนาตน จึงกลายมาเป็นจิตอาสา
หากแต่บุญที่ทำเพิ่งเริ่มต้น นิสัยกรรมยังอยู่เพียบ และต่างคนก็ล้วนมีกรรม จึงเป็นเหตุซึ่งกันและกัน
หลายคน ไม่เอาเหตุเอาผล อยากให้ดีได้ในวันเดียว เมื่อกลายเป็นจิตอาสาแล้ว ต้องเป็นคนดีในทันที ไม่มีนิสัยกรรมเหลืออยู่เลย ซึ่งมันเป็นไม่ได้
เลขพาลไปหาเจ้าอาวาส ไม่ยอมสั่งสอน จิตอาสากิริยาใช้ไม่ได้ รับไม่ได้ ไปโน่นเลย
ในขณะที่ความเป็นจริง แต่ละคน เพิ่งจะเริ่มปฏิบัติ ต้องใช้เวลา รอบุญที่ทำ มาเกื้อหนุน ค่อยๆ เปลี่ยนนิสัยกรรมเดิม
อย่างน้อยในจุดเริ่ม ไม่เคยทำให้คนอื่น ก็มาเริ่มมีนิสัยทำให้คนอื่น
ทุกสิ่งอย่างต้องใช้เวลา และตั้งอยู่บนพื้นฐาน ความเมตตา เพราะคู่ต่อสู้เราท่านคือ กรรม
ดังนั้น ถนนสายนี้คงไม่ราบรี่นแน่นอน
หากแต่เราท่าน นำสติดั่งหลวงพ่อนิพนธ์มาควบคุมตัว ก็จะทำให้ทุกคน ไม่กระทบกระทั่งกัน จนเกินเหตุ เพราะต่างคนต่างหยุด เมื่อคิดได้
ทุกคนที่มา กำลังทำตน และอยู่ในสถานะใด สถานะหนึ่งของดอกบัว และก็ต้องมี บัวเหล่าที่ ๔ รวมอยู่ด้วย เช่นกัน
การพัฒนาตน ต้องใช้เวลา นั่นจึงเป็นเหตุว่า ทำไม เราท่าน จึงต้องขันติ อดทน ทั้งต่อตัวตนของเราเอง และต่อผู้อื่น
อาศัยเมตตาตน และผู้อื่น นั่นคือ ต้องให้โอกาส ให้เขาได้ทำ จนเขามีบุญมาพัฒนาตน กลายเป็นคนมีธรรม
เมื่อผลของการปฏิบัติมาถึง จิตอาสาคนนั้น ก็จะเปลี่ยนพฤติกรรม ทั้ง กาย และ วาจา ดีขึ้น
เพียงแต่มันไม่ใช่ในเร็ววัน อย่างที่หลายคนอยากให้เป็น
จึงต้องอาศัยเมตตา ให้โอกาสเขาได้พัฒนาตน ไม่ใช่เห็นวันนี้ แล้วปิดโอกาสคนคนนั้นเลย
หลวงพ่อนิพนธ์จึงมักกล่าวว่า เพราะเราท่านมีกรรม จึงอาศัยนิสัยของคนๆนั้น มาเป็นเครื่องมือ ทำกับเรา เพื่อผลคือ เราท่านจะได้กระเด็นจากแผ่นดินนี้
รู้ทันกรรม ต่างคนต่างคุมตนเอง ช่วยกันพัฒนา คนที่พัฒนาไม่ได้ พวกเหล่าที่ ๔ ก็เฉกพวกเทวทัต ท้ายที่สุดไม่ต้องไล่ ผลก็เดาได้
ย้อนอดีตถ้ำกระบอก แม่ชีเมี้ยนสอนพระ เกือบแปดสิบรูป ใช้เวลาสิบปี ได้หลวงพ่อนิพนธ์มาให้เราท่านพึ่งเพียงคนเดียว ฉันใดก็ฉันนั้น