หลวงพ่อนิพนธ์ ได้เล่าคำสั่งเสียของ พ.ญ.แสงจันทร์ ที่ฝากมาบอกก่อนเสียว่า ขอกราบขอบคุณหลวงพ่อ และสมุนไพร ที่ทำให้ไม่มีอาการปวดใดๆ แม้มะเร็งจะลามจากตับเข้าต่อมน้ำเหลือง กระจายไปทั่วตัวก็ตาม
ตำนานอีกหน้าหนึ่งที่ได้เป็นประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้พิจารณา เริ่มจากการเป็นเป็นมะเร็งตับ และเข้าบำบัดด้วยเคมี คีโม จนร่างกายรับไม่ไหว ผมร่วงหมดศรีษะ ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ จนต้องนั่งรถเข็น พร้อมคำกล่าวของหมอ ผู้ซึ่งเคยเป็นลูกศิษย์ว่า "หมดทางรักษาแล้ว ถ้าจะลองแนวทางไหนได้ก็ตามแต่"
ด้วยคำแนะนำจากคนรู้จัก คุณหญิง หรือ ที่คนชมรมมักเรียกกันว่า "อาหมอ" ก็พาร่างกายที่บอบช้ำ มาหาหลวงพ่อนิพนธ์ เพื่อเดินในแนวทางสมุนไพรของแม่ชีเมี้ยน
ใครจะเชื่อ เพียงเวลาไม่เท่าไร อาหมอก็สามารถช่วยตัวเองได้ ทิ้งรถเข็นมาเดินเองได้ ผมก็เริ่มงอกกลับมาจนเต็มศรีษะ เดินมาทุกสัปดาห์พร้อมรอยยิ้ม และความหวังเต็มเปี่ยม และมักพูดเสมอๆว่า "ฉันมั่นใจว่า ฉันต้องหาย"
สภาพร่างกายของอาหมอ ดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป แต่ผลจากการเป็นคนชอบพบปะพูดคุย ก็ทำให้อาหมอพบคนไข้ที่มารักษาที่ชมรมเช่นกัน และคุยกันอย่างถูกคอ
ด้วยความถูกคอกันนั้นเอง คนไข้ท่านนั้นจึงได้เชิญชวนให้อาหมอ ไปนั่งวิปัสสนากรรมฐาน และชี้ให้เห็นว่า สามารถทำให้หายจากโรคมะเร็งได้
อาจจะเป็นเพราะกรรม ดลบันดาลให้อาหมอเห็นชอบ และไปร่วมกิจกรรมนั้น โดยยังคงทานสมุนไพรอยู่ ผลที่ปรากฎให้เห็น คือ สภาพดีวันดีคืน
วันหนึ่ง อาหมอเชื่อว่า ผลที่เกิดมาจากการได้นั่งทำจิต ทำใจนั้น เป็นสาเหตุหลัก และตรงกับความชอบของตน จึงขออนุญาติหลวงพ่อนิพนธ์หยุดทานสมุนไพร และเลือกที่จะเชื่อคำของคนที่มาชวน ไปปฏิบัติอย่างเป็นจริงเป็นจัง
ผลที่ปรากฎ อาการมะเร็งตับ ที่เคยถูกคุมให้อยู่เฉพาะในตับ เมื่อครั้งทานสมุนไพร ก็ได้ลุกลามเข้าระบบน้ำเหลืองกระจายไปทั่้วตัว
ดัวยเหตุอันใดก็ตาม อาหมอก็ไม่กล้าที่จะกลับมาทานสมุนไพรอีกครั้ง จึงพาตัวเองเข้าโรงพยาบาล
จนวาระสุดท้าย ก็ได้ฝากคำสั่งเสียมายังหลวงพ่อนิพนธ์ อันเป็นการแสดงความเสียใจในการตัดสินใจของตน ที่หลงเชื่อคนไข้คนนั้น
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวสอนสมาชิกว่า "ทำไมไม่เชื่อพระพุทธเจ้า" กลับไปเชื่อใครก็ไม่รู้ และเมื่อถึงเวลา ชีวิตต้องดับไป ใครคนนั้นเขามารับผิดชอบอะไร
ชีวประวัตินี้ เจตนาเขียนขึ้นเพื่อระลึกถึง และยกไว้เป็นอุทาหรณ์ ให้แก่สมาชิก ได้พิจารณา และเก็บไว้เป็นประโยชน์ โดยหวังว่า การสูญเสียนี้คงไม่สูญเปล่า สิ่งที่อาหมอทิ้งไว้เป็นสติ แลกมาด้วยชีวิตของท่านเอง
อุทาหรณ์นี้ทำให้เราได้คิดในคำพูดของหลวงพ่อนิพนธ์ได้เป็นอย่างดีว่า "อย่าเหยียบเรือสองแคม" สมุนไพรเขาต้องการคนรักเดียวใจเดียว ด้วยเหตุด้วยผล
เชื่อเถอะ แม่ชีเมี้ยนมักย้ำนักย้ำหนาว่า "กรรมมีอำนาจ บังจิตบังใจ" คนที่จะรอด จึงต้องเรียนรู้ และเอาเหตุเอาผล ของพระพุทธเจ้ามาพิจารณา
ก็ใครจะรู้ได้ โดยไม่เรียน ไม่มีหรอก