การกล่าวคำอธิษฐานก่อนทานสมุนไพรของมูลนิธิไทยกรุณา มีเหตุผลอะไร จำเป็นต้องกล่าวทุกครั้งหรือไม่?
ศาสตร์ของพระภูมี เป็นศาสตร์ของศาสนาทำ เมื่อทำได้จึงอธิษฐานขอผลจากสิ่งที่ทำ นั่นแหละเป็นการพึ่งการกระทำของตน
การกระทำที่เห็นกันดาษดื่น คือ ถือดอกไม้ ธูปเทียน มากราบไหว้ และขอ ซึ่งพระภูมีตรัสว่า "เป็นไปไม่ได้" เพราะเป็นการล่วงละเมิดกรรม ผู้ใดทำ ผู้นั้นย่อมรับ ผู้ใดผูก ผู้นั้นย่อมต้องเป็นผู้แก้
ศาสตร์ของท่าน จึงกล่าวว่า "ท่านมีธรรม ให้มาเรียนรู้ แล้วไปทำเอง"
เมื่อทำได้ จึงนำสิ่งที่ทำได้นั้นมาอธิษฐาน ตั้งปรารถนาในสิ่งที่อยากได้
ดังนั้น ทุกการกระทำที่ทำแล้ว แม่ชีเมี้ยนจึงมีบทสอน ในปรารถนานั้นๆ ตามแนวของพระพุทธเจ้า
เราจึงได้ยินคำสอนของหลวงพ่อนิพนธ์ ให้ทำเช่นนี้ หลังจากได้ทำตามคำสอนของแม่ชีเมี้ยน ตามรอยของพระพุทธํเจ้าแล้ว
ที่หิ้งของแม่ชีเมี้ยน เราจะเห็นบทดังกล่าว เขียนอยู่แล้วให้เรากล่าวในขณะที่ถวายของนั้นเอง
หลังจากสวดมนต์ วิทยากร ก็จะนำให้เรากล่าวคำปรารถนาตาม ท่อนหนึ่งที่สำคัญท่ได้ยินเสมอ คือ "ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ให้เจ้ากรรมนายเวร"
แม้แต่ตอนใส่บาตรพระ ก็จะมีบทกล่าวเช่นกัน
สิ่งที่เห็นได้ชัด คือ ต้องทำก่อน แล้วจึงขอ สะท้อนให้เห็นความจริงว่า "ใครทำใครได้ ไม่ทำก็ไม่ได้" นั่นแหละความจริงของหลัก "ตนพึ่งตน"
ผู้ป่วยที่มาสถานที่นี้ หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า พวกหัวหมอ จะมารับแต่สมุนไพร อย่างอื่นไม่สน สวดมนต์ไม่เอา นอนเล่นดีกว่า คำสอนแม่ชีเมี้ยนที่ถ่ายทอดมาให้ฟัง พิจารณา แล้วทำ ก็กลายเป็นของน่าเบื่อสำหรับคนพวกนี้ ท่านจึงเน้นย้ำว่า "ไม่มีทาง หายจากโรค ด้วยการกระทำเช่นนี้แน่"
และที่สำคัญ เมื่อทำแล้วไม่ตั้งปรารถนา ผลนั้นก็จะล่องลอยไป ไม่เกิดประโยชน์
และปรารถนาสูงสุด ที่พระพุทธเจ้าสอนให้ทำ คือ "ปรารถนา มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑"
พวกที่เป่า เสก ทานยา แล้วจะให้หายโรค โดยไม่ต้องทำอะไรเลย บทลงเอย จึงเหมือนกัน คือ "เป็นไปไม่ได้"
เมื่อพิจารณาคำสอนแล้ว เห็นได้ว่า ที่ท่านกล่าวว่า "โรคไม่น่ากลัว เพราะธรรมเขาชนะกรรมอยู่แล้ว แต่ที่กลัวคือ ผู้ทำไม่ยอมน้อมนำธรรมที่ได้ยิน ได้ฟัง ไปทำต่างหาก"
คำอธิษฐานก่อนทานสมุนไพร จึงมีความจำเป็นที่ต้องเรียนรู้ แล้วกล่าวทุกครั้ง หลวงพ่อนิพนธ์สอนว่า เหมือนเราสั่งให้เขาทำ มิฉะนั้นแล้วเขาก็ทำอะไรไม่ถูกนั่นเอง แล้วท่านหละ รู้แล้วหรือยังว่า แม่ชีเมี้ยนเขาสอนให้กล่าวเช่นไร
ไม่เรียน ก็ไม่รู้ ไม่รู้ ก็ทำผิด ทำผิด ผลก็ไม่ได้ แล้วจะไปโทษใคร
ทานสมุนไพรหวังผล ท่านจึงสอนว่า ต้องทานให้เป็นนั่นเอง...
พิจารณาให้เห็น แล้วก็จะเข้าใจได้ว่า ทำไม จึงต้องใช้สองสิ่งคู่กัน ดั่งคำขวัญ "สมุนไพรล้างโรค ธรรมล้างกรรม" พิจารณาได้ ก็จะเห็นตามหลวงพ่อนิพนธ์ว่า ไม่ว่าโรคจะสาหัส ดังคำของหมอสักเท่าใด เมื่อทำได้ตามคำสอนของแม่ชีเมี้ยน มองข้ามโรคได้เลย มาดูนิสัยเราท่านกันดีกว่า