จากศรัทธา และความมุ่งมั่น ของพระผู้พี่คือท่านจำรูญ ท่านเจริญ และพระผู้น้องคือ ท่านนิพนธ์ ที่ได้ตั้งปณิธาน เสียสละ ทุ่มเทเพื่อการฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ต่อจากยุคพระโคดม กลับมาให้ชาวโลกได้เห็นอีกครั้งเมื่อปี 2500
การแสดงให้เห็น วินัยของพระพุทธศาสนา โดยการนำนิสัยของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติ คือ การกินมื้อเดียว รถเรือไม่ขึ้น เงินทองไม่รับ และใช้สมุนไพร เพื่อเป็นใบเบิกทางในการมีกิจกรรมช่วยเหลือมนุษย์ และมีโอกาสได้เข้ามาสัมผัส ได้เห็น ความสวยงามของพระพุทธกาล ก่อให้เกิดศรัทธา และน้อมนำธรรมของพระพุทธเจ้าที่แท้จริงไปปฏิบัติ
กิจกรรมต่างๆ ในระยะแรกก็ดำเนินไปด้วยดี สมความตั้งใจของแม่ชีเมี้ยน จวบจนกระทั่ง วันหนึ่งก็มีคำถามเกิดขึ้นในใจของผู้ปฏิบัติ ด้วยเหตุแห่งเจตนาที่อยากจะช่วยเหลือนั้นเอง และเหตุแห่งการมีวินัยไม่รับเงินรับทอง ทำให้พระผู้นำต้องใช้ความวิริยะมากยิ่งขึ้น เพื่อโน้มน้าวให้ผู้ที่มา เข้าใจและเสียสละ เพื่อให้กิจกรรมดำรงอยู่ได้
ด้วยมนุษย์มีสันดานเป็นของตนเอง ทำให้การดำเนินกิจกรรมย่อมไม่ราบรื่น ดั่งใจพระที่ตั้งไว้ จนในที่สุด ท่านจำรูญก็พ่ายแพ้ต่อนิสัยของคลื่นมหาชนที่หลั่งไหลมา จนเกิดความคิดที่จะตัดปัญหา ในการต้องใช้วิริยะ มานะ เพื่อให้เกิดกระแสมาหนุนเนือง ในกิจกรรมที่ดำเนินอยู่อย่างไม่ติดขัด ความคิดที่จะรับเงินในการรักษาผู้บำบัด จึงอุบัติขึ้น กลายเป็นจุดด่าง หรือ นาทีประวัติศาสตร์ แห่งการล่มสลายของถ้ำกระบอกในอดีต
กลับมาในยุคปัจจุบัน รอยประวัติศาสตร์กำลังเริ่มกลับมาอีกครั้ง ด้วยสิ่งที่หลวงพ่อนิพนธ์ยืนหยัด และพยายามทำมาตลอด เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยประวัติศาสตร์ คือ การพยายามยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง เพื่อแสดงเอกลักษณ์ของ หลักตนพึ่งตน ของพระพุทธเจ้าให้เด่นชัด
การพูดโน้มน้าว ให้เกิดความเข้าใจ และรวมพลังกัน เพื่อขับเคลื่อนชมรมคนรักสุขภาพ ด้วยพลังของสมาชิกเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาแหล่งทุนจากภายนอก จึงต้องมีกิจกรรมที่เป็นแหล่งทุนของตนเองเกิดขึ้น มาจนบัดนี้ ที่เห็นได้ชัด คือ กิจกรรมในการขายอาหาร และกิจกรรมในการขายน้ำ ให้แก่สมาชิก แล้วนำรายได้ทั้งหมด มาเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาสมุนไพร ที่แจกจ่ายให้แก่สมาชิก
ด้วยคำยืนยันและหนักแน่น หลวงพ่อนิพนธ์ ได้กล่าวเสมอ สถานที่นี้ มีแม่ชีเมี้ยน คำสอนของพระพุทธเจ้า และสมุนไพร ทั้งสามสิ่ง เป็นสิ่งที่ดึงดูดคนให้มาในสถานที่นี้ คนที่มาจึงมาเพื่อสิ่งนี้ และได้รับกลับไปด้วยการให้ฟรี
แต่กิจกรรมจะดำเนินไปไม่ได้เลย หากไม่มีพลังขับเคลื่อน และก็คงไม่ใช่มาจากบุคคลภายนอก ที่ไม่ได้มารับประโยชน์จากสถานที่นี้เลย ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่ต้องให้สมาชิกทุกท่าน ร่วมในกิจกรรมทั้งสองดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ ... ประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอยแล้วหรือ ตบะของผู้ให้กำลังจะแตกอีกครั้งหรือ ภาพที่เราเห็น ก็คงอดคิดไม่ได้ว่า แม้แต่ผู้มีความมุ่งมั่น ศรัทธา อันแรงกล้า เมื่อเจอนิสัยมนุษย์เข้ามากๆ ก็ท้อได้ จึงไม่แปลกใจที่ท่านจำรูญ จะเกิดความเบื่อหน่าย และใช้วิธีเรียกรับเงินแทน
วันนี้ ภาพที่เราเห็น แม้หลวงพ่อนิพนธ์จะพูดสักฉันใด ความร่วมมือจากสมาชิก ก็ยังได้รับการตอบสนองน้อย จนทำให้รอยประวัติศาสตร์รอยนี้กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง แต่มันคงไม่เกิดหรอก เพราะเราคิดว่า หลวงพ่อนิพนธ์ท่านคงไม่เลือกทางที่จะรับเงินจากสมาชิก แต่วันใดที่รายได้จากกิจกรรมทั้งสอง ไม่พอที่จะเลี้ยงชมรมคนรักสุขภาพ และหลวงพ่อท่านไม่สามารถแบกรับไหว ก็คงต้องยอมรับสภาพ คือ "ปิดชมรมคนรักสุขภาพ"
สภาวะเช่นนี้ไม่ใช่ไม่เคยเกิด เพราะในช่วงที่เปิดสำนักอีกครั้งในปี 30 ก็มีผู้คนแห่แหนกันมาอย่างถล่มทลาย ในที่สุด เมื่อเกินกำลังของท่านจะรับไหว ท่านก็ต้องปิดและย้ายหนี เป็นอย่างนี้หลายครั้ง หลายหน
แต่วันนี้ไม่เหมือนวันวาน เพราะภัยพิบัติกำลังจี้เข้ามาใกล้ตัวทุกขณะ ท่านจึงพยายามโน้มน้าวให้สมาชิก เห็นดี เห็นงาม และช่วยกันประคับประคองกิจกรรมนี้ให้อยู่ได้ด้วยตนเอง
คำรำพึงที่ท่านเอ่ย ในเมื่อสถานที่นี้มี แม่ชีเมี้ยน มีธรรม มีสมุนไพร แล้วอยู่ไม่ได้ ต้องอาศัยนักร้อง มาเปิดคอนเสิร์ต หรือไปแบมือขอ เพื่อระดมทุนให้อยู่ได้ ท่านก็คงรับไม่ได้ และยอมที่จะปิดมันเสียดีกว่า อีกทั้งคงไม่เดินตามรอยพี่ชายเป็นแน่แท้
นาทีชี้ชะตา ของชมรมคนรักสุขภาพ มาถึงแล้ว จะอยู่หรือไปขึ้นกับความร่วมมือในกิจกรรมของมวลหมู่สมาชิก ถ้าภาพอาหารเหลือ กองน้ำเหลือ ยังปรากฏอยู่ร่ำไป สิ่งที่จะไม่เหลือคือ "ชมรมคนรักสุขภาพ" อย่างแน่นอน
เราคงไม่เห็นภาพการรับเงินอย่างในอดีตอย่างแน่นอน และหากต้องพึ่งผู้อื่นในการดำรงอยู่ของชมรมคนรักสุขภาพ เราก็เห็นดีด้วยกับหลวงพ่อนิพนธ์ ปิดมันเถอะ ........ และทำใจยอมรับ ว่าเราเปลี่ยนนิสัยมนุษย์ยุคนี้ไม่ได้ คนไทย เขาไม่เอาหลักของแม่ชีเมี้ยน แม้นจะดีเลอเลิศสักเพียงใด ใครจะเถียง ในเมื่อภาพมันฟ้องอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
นาทีชี้ชะตานี้กำลังใกล้มาถึงทุกขณะ แล้วเราจะได้พิสูจน์ว่า คนไทยคิดอย่างไร กับสิ่งดีๆ ของแม่ชีเมี้ยน ที่หลวงพ่อนิพนธ์นำมาให้ กันแน่.....