ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557
สุดแต่ใจ
แม่ชีเมี้ยนทรงอุปมาศาสนาไว้ว่า "เสมือนไม้ไผ่ลำเดียว"
นั่นหมายความว่า หนทางการช่วยตน โดยหลักของพระภูมี มีเส้นทางเดียวให้เลือกเดิน ฟังแล้วพิจารณา ท้ายสุดก็ตัดสินใจ
แม้นธรรมจะมีอำนาจเหนือกรรม แต่กฎกติการ ของกรรมกับธรรม ก็มีเส้นกำกับที่กรรมจะยอมให้ธรรมมาก้าวก่ายและมีอำนาจเหนือ นั่นคือ ธรรม ช่วยใครไม่ได้เลย หากแต่คนที่อยากได้ ต้องมาเรียนรู้ แล้วทำเอง
ยิ่งไปกว่านั้น เส้นทางของธรรม ก็ดูจะลำบากเหลือแสน หากแม้นปราศจากเหตุและผลแล้วไซร้ ก็ยากยิ่งที่ใครอยากจะเดินตาม แต่ผลที่ได้รับ คือ ความสุขที่แท้จริง หลวงพ่อนิพนธ์อุปมาไว้ว่า เสมือนเดินผ่านนรกก่อน แล้วจึงได้ขึ้นสวรรค์
ความจริง ข้อนี้เอง ทำให้สงฆ์สาวกของพระโคดม มีเพียงหลักแสน แม้นคนในอินเดียยุคนั้นจะมีนับร้อยล้านคนก็ตามที
เมื่อหนทางรอด ของคนที่มาก่อนหน้าบุกเบิกให้เห็น ว่าทำได้จริง หลวงพ่อนิพนธ์จึงมักเสนอ ให้คนป่วยพิจารณา แล้วตัดสินใจ
นับตั้งแต่ ท่านตอง ที่มาหาหลวงพ่อนิพนธ์ในช่วงเปิดสำนัก ครั้งปี ๓๐ และให้พระทำกิจธุดงค์ ท่านต้องนั่งรถผ่านมาเห็น จะด้วยเหตุใดก็ตาม จึงลงรถมา เข้ามาถามไถ่
ด้วยเหตุที่ตนเองเป็นมะเร็งสมองขั้นสุดท้าย เมื่อได้คุยกับพระ แลตนเองครั้งนั้นก็บวชอยู่แล้ว จึงขอตามติดคณะสงฆ์ไปด้วย หลวงพ่อนิพนธ์ก็อนุญาต
ทางเลือกหนึ่งที่หลวงพ่อนิพนธ์เสนอให้ท่านตองในยุคนั้น ด้วยเห็นว่าเป็นชาวสวนชาวไร่ ดังนั้น จึงกล่าวกับท่านตองว่า ให้ดูแลมะพร้าวที่ปลูกไว้ เพื่อที่จะนำผลไว้ทำสมุนไพรแจกจ่ายญาติโยม ต้นไม้รอด ท่านก็รอด
ท่านตองก็ดูแลต้นมะพร้าวเหล่านั้นเป็นอย่างดี จนหายจากมะเร็งสมอง ในขณะที่พี่น้องอีกสี่คน ตายไปกับมะเร็งหมดแล้ว ท่านตองยังอยู่เป็นราษฏรอาวุโสที่เขาค้อ จนทุกวันนี้
เมื่อเส้นทางนี้ใช้ได้ ผ่านการพิสูจน์จากท่านตอง ก็ถูกนำมาใช้ในคนป่วยรุ่นต่อไปอีกมากมาย
มาวันนี้ เมื่อเริ่มรับคนป่วยเข้ามาอีกครั้ง ปฐมฤกษ์ของมะเร็งคนแรก ที่รับมา ก็เริ่มจากมะเร็งสมอง ชื่อต้อม ชายวัยสามสิบกว่า ก้อนมะเร็งเบียดประสาทจนตาเริ่มมองไม่เห็น การทรงตัวเริ่มเสียไป
สวนสมุนไพร จึงเป็นที่ที่ให้เลือก แล้วเขาก็คว้าไว้ ฝากชีวิตไว้กับต้นสมุนไพร นับพันต้นที่นั่น พร้อมด้วยสติที่หลวงพ่อนิพนธ์ให้ สมุนไพรเหล่านี้ ให้ชีวิตคน เมื่อท่านดูแล ผลแห่งการให้ ก็จะกลับมาเป็นชีวิตตน
มาวันนี้ ต้อมกลับมามองเห็น ขับรถได้ รดน้ำดูแลต้นสมุนไพรได้ทั้งวัน
คนที่สอง ที่สาม ... ก็ตามไป มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ใหญ่ ... ทางเลือกนี้ ก็ทำให้มะเร็งดีวันดีคืน
แต่มันดีกับเฉพาะคนที่อยากได้
พฤหัสที่ผ่านมา มีมะเร็งขั้นสุดท้าย คีโมจนหัวล้าน หลวงพ่อนิพนธ์ก็เสนอทางเลือกนี้ให้ เขาไปอยู่สวนสมุไพรได้สองสามวัน ก็มาเรียนหลวงพ่อนิพนธ์ว่า เขารู้สึกผิดหวังกับที่นี่
เพราะเขาคิดว่า หลักของพระภูมี ที่ทำแล้วเป็นบุญ นั่นคือ การนั่งวิปัสสนา กรรมฐาน ทำจิต ทำใจ และจะช่วยอาการของเขาได้
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า นั่นมันหลักเห็นแก่ตัว ของฤาษี เมื่อทำแล้ว ก็หาบุญไม่ จึงไม่เห็น ไม่มีฤาษี ตนใด เข้านิพพานได้เลยแม้นแต่คนเดียว
เมื่อชอบแบบนั้น ที่นี่ไม่มี แลสมุนไพรเพียงอย่างเดียว ก็คงช่วยไม่ได้ ดังนั้น ก็ขอให้ไปหาที่อื่น ที่ที่ตัวเองชอบ ไม่ว่ากัน ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องฝืนใจ แลผิดใจกันในตอนหลัง เพราะผลมันเห็นแน่ว่า ไม่มีทางสำเร็จในการช่วยตน
บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์ จึงกล่าวว่า การมาลอง ไม่ว่ากัน เปิดโอกาสให้ทุกคน ทุกท่าน ทุกอาการ หากแต่เมื่อลองแล้ว ก็ตัดสินใจ พิจารณา ทางเลือกนี้ ชอบก็ทำตาม ไม่ชอบก็ไปหาที่อื่น
แลก็ด้วย เป็นหลัก ตนพึ่งตน ใครก็ช่วยใครไม่ได้ อยากได้ต้องทำเอง ดังนั้น จึงเป็นภาคบังคับ ให้ต้องนั่งฟัง วิธีการ หรือ หลักการดำเนินการเพื่อช่วยตน แล้วนำไปใช้
ใครที่ใจร้อน ไม่อยากฟัง เบื่อฟัง ก็จึงไม่ควรมาเสียเวลากับสถานที่นี้เช่นกัน
แลบทสุดท้าย แห่งการหวังผล นั่นคือ ต้องมีมาตรฐาน เหมือน กรรม ทำงานก็ต้องมีเวลาเข้า ออก เมื่อจะทำธรรม ก็ต้องมีวันเวลา เช่นกัน ทำงาน อยากมา ก็มา อยากหยุด ก็หยุด ไม่ได้ฉันใด งานชีวิต ก็เฉกเช่นกัน ไม่ใช่อยากมาก็มา อยากหยุดก็หยุด เมื่อมาๆหยุดๆ เขาก็ไล่ออกจากงาน เฉกเช่นกัน งานชีวิต มาๆหยุดๆ ก็ต้องกันออกไปก่อน ทุ่มเทให้กับคนที่พร้อมดีกว่า
นั่นหมายความว่า เมื่อเปิดม่าน สมุนไพรที่สูญเสียไปกับคนกินเล่น จะถูกรวบรวมกลับมา ให้คนที่มุ่งมั่น ทุ่มเท ใช้ในการกอบกู้ตน แทน เมื่อนั้น จะเห็นคนหาย เดินให้เกลื่อน แลไม่มีที่สำหรับพวกที่มาทานเล่น เขาฟังธรรม ข้านั่งเล่นไลน์ อ่านหนังสือ คุยกัน ไม่มีที่สำหรับคนพวกนี้แล้ว
ที่นี่ รับผิดชอบชีวิต ให้ค่าแก่กิจกรรมการกอบกู้ชีวิต จึงเปิดโดยไม่มีวันหยุด ฉันใดก็ฉันนั้น ผู้ที่มา ก็ต้องไม่มีวันหยุด ในชั่วขณะที่ฟื้นฟูตน หากแต่เมื่อหายแล้ว จะไม่มาอีกเลย ไม่ว่ากัน แต่ช่วงฟื้นฟู ไม่มา ก็ขาดกัน เพราะนั่นบ่งชี้ว่า ท่านกำลังเห็นสิ่งอื่นดีกว่าชีวิตตน อันเป็นการขาดคุณสมบัติที่ร้ายแรง ของหลักพระภูมี
อยากหายโรค หาวิธีให้ตายในโลก คิดพึ่งคนอื่น ไม่มีทางสมหวัง ทางเลือกเดียว ที่จะพิชิตโรคได้ คือ "พึ่งตนเอง" นี่แหละไม้ไผ่ลำเดียว ที่จะทำให้เราท่านสมหวัง