ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2557
เปิดม่าน
นับถอยหลังการเปิดม่าน เพื่อสู้ศึกมะเร็งเต็มตัว ด้วยสูตรสมุนไพรพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยนนำมา กำหนดปฐมฤกษ์ วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๘
นั่นหมายความ คนไข้มะเร็งที่เข้าคอร์สทุกท่าน จักได้รับสมุนไพรเต็มพิกัด โดยหลวงพ่อนิพนธ์จะพิจารณาเป็นรายบุคคล และติดตามทุกสัปดาห์
รายใดจำเป็นต้องกอบกู้วิกฤตเฉพาะหน้า ก็จะอนุญาติให้มาพักฟื้นฟู เพื่อให้พ้นช่วงวิกฤตได้ที่มูลนิธิ
หลังจากฟื้นฟูจนเห็นว่าพ้นวิกฤต ก็จะให้กลับไปฟื้นฟูที่บ้านเหมือนปกติ
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า เมื่อเป็นการทำเอาผล ก็ต้องคัดสรรบุคคลที่พร้อม มาจับมือร่วมกัน เพื่อให้ผลเกิด
นั่นหมายความว่า คนไข้มะเร็งจะถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม โดยกลุ่มแรก จะเป็นคนไข้ที่มาแบบไม่หวังผล ไม่อยากมีกฎเกณฑ์ข้อบังคับใดๆ ก็ให้รับสมุนไพรเหมือนคนไข้ปกติ ได้แค่ไหนก็แค่นั้น
กลุ่มที่สอง คือคนไข้ที่พร้อมรับกฎเกณฑ์ และหวังผลในการฟื้นฟูตน หลวงพ่อนิพนธ์ก็จักให้โอกาสทุกคน คนละครั้ง
นั่นหมายความว่า คนไข้มะเร็งกลุ่มนี้ ต้องมีวันเวลา ต้องสามารถมาทำกิจกรรมได้ทุกสัปดาห์ หากติดธุระจำเป็นต้องแจ้งก่อน และพร้อมที่จะทำตามที่หลวงพ่อนิพนธ์กำหนด คนไข้กลุ่มนี้ หลวงพ่อนิพนธ์จะเป็นผู้ดูแลด้วยตนเองทุกคน และสั่งจ่ายสมุนไพรให้ พร้อมคำแนะนำ ทุกสัปดาห์
และเมื่อคนไข้กลุ่มนี้ คนไหนมีสภาพความพร้อม นั่นหมายถึงได้รับการปูพื้นสภาพร่างกายมาถึงระดับ ก็จะจัดสมุนไพร "ยาตัด" ให้ทาน ทั้งนี้เพื่อความไม่ประมาท ในอาการที่อาจเกิด เช่น เสลดพันคอ การทานนี้ได้รับความร่วมมือจากแพทย์ที่มีใจมาดูแลเสริม ในกรณีที่ต้องใช้เครื่องมือ เพื่อแก้ไขอาการปัจจุบันทันด่วนเช่นนี้ เพื่อให้ความปลอดภัยสูงสุด
หลวงพ่อนิพนธ์ จึงคาดการณ์ว่า คนไข้มะเร็งกลุ่มนี้ ก็น่าจะเห็นผลได้ภายในไม่เกิน ๖ เดือน
หากคนไข้ท่านใด ที่แสดงคุณสมบัติความไม่พร้อมออกมา อาทิเช่น ไม่พร้อมจะมา หรือ มาได้บ้างไม่ได้บ้าง ทางมูลนิธิจะตัดสิทธิ์ และให้ออกจากสมาชิกทันที ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่มีความพร้อม ที่รออยู่เข้ามาแทน
อนึ่ง สมุนไพรที่ได้มาจากความร่วมมือของสมาชิกไม่ว่าทางใด ย่อมหมายถึง ผู้ให้ย่อมรอซึ่งผลบุญอันเกิดจากผลที่จะบังเกิดแก่สมาชิก ดังนั้น การเสียเปล่ากับสมาชิกที่ไม่มีความพร้อม นั่นหมายถึง การสูญเสียสมุนไพรโดยไม่ได้อะไรตอบกลับมาเลย ซึ่งผลก็คือ ผู้ให้ เหมือนข้าวรอฝน เพราะผลบุญแห่งการให้ไม่เกิด สิ่งนี้ทางมูลนิธิถือว่าเป็นความสูญเปล่า จึงจำเป็นต้องตัดสิทธิ์สมาชิกที่ไม่มีความพร้อมออก
บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์ กล่าวว่า ในอดีตอยากให้คนได้มาทานสมุนไพร จึงเชิญชวนทุกรูปแบบ ให้คนได้มาลอง ธรรมที่ใช้ จึงเป็นการ เมตตา กรุณา มุทิตา มาตลอด มาวันนี้ ผลของสมุนไพร เป็นที่ประจักษ์ ถึงเวลาที่ต้องทำเอาผล ใช้สมุนไพรให้คุ้มค่า ให้แก่คนที่มีความพร้อม ธรรมที่ใช้ จึงมาถึงหมวด อุเบกขา แล้ว ... ใครไม่พร้อม ใครไม่เอา ถอยไป
ใครจะอยู่กลุ่มไหน วันที่ ๑ มกราคม ก็จะเปิดให้ลงทะเบียนยืนยันการเลือกกลุ่มอีกครั้ง ... ไม่บังคับ คนไข้มะเร็งนับพันคน เลือกคนที่พร้อม ... มีแค่ไหน แค่นั้น ส่วนที่เหลือ คนที่ไม่พร้อม อยากทาน ก็อนุญาติให้ทาน ได้แค่ไหน แค่นั้น อย่ามาคาดหวังผลการทานใดๆ
นั่นคือ ผลแห่งการฟื้นฟูตน หากแม้นมิใช่พรหมลิขิตแล้วไซร้ คนที่เชื่อ ศรัทธา แล้วทำตาม เท่านั้น จึงรับรองผลว่า รอด และหายแน่