ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557
งง
สิ่งที่เราท่านมักจะเห็นก็คือ การคุยกัน หากแต่ที่เราสงสัยก็คือ ทำไมเรื่องที่คุย จึงไม่ใช่เรื่องของการทานสมุนไพร การเรียนรู้ว่าทานอย่างไรแล้วจึงหาย
ผลก็คือ หลายคนที่มา ก็จะเวียนมาถามเจ้าหน้าที่ ถามวิทยากร บ่นว่าทานสมุนไพรมาพักนึงแล้วทำไมไม่ดีขึ้น ก็ถูกถามว่าทานยังไง
คำตอบที่ต้องอึ้ง อาทิ นำยาเขียวไปอุ่นทาน ทานยาต้ม เช่นยาปอด ยาเบาหวาน ทั้งที่ยังไม่ได้อุ่น คำอธิบายก็คือ ทานง่ายดี หรือ ตัวไหนทานง่าย ชอบ ก็ทาน ตัวไหนไม่ชอบก็ไม่ทาน เหลือทิ้งไว้ที่บ้านบานเบอะ ของเก่าก็ทานไม่หมด ของใหม่รับมาสมทบอีก
สมุนไพร แม้นจักไม่ได้มีไว้เพื่อรักษาโรค หากแต่มีไว้เพื่อฟื้นฟูโรงซ่อม หรือ กระตุ้นให้โรงซ่อมทำงาน
ด้วยเหตุนี้ การทานสมุนไพร จึงไม่จำเป็นต้องสนเรื่องว่า เป็นโรคอะไร
สิ่งที่ต้องสนใจ และเรียนรู้ นั่นคือ อาการที่เกิด เกิดกับอวัยวะใด และอาการปัจจุบันทันด่วน ประเภทไหน ควรทานสมุนไพรประเภทใด ที่ซึ่งจะแก้ปัญหาได้เร็วที่สุด
เรื่องเหล่านี้ เป็นเรื่องที่น่าศึกษา น่าคุย แต่กลับไม่ การมาจึงเสียเวลาเปล่า เพราะกลับไป ไม่ได้ความรู้อะไรไปช่วยตนเลย สมุนไพรที่รับไป จึงกลายเป็นกินตามมีตามเกิด หวังผลอะไรไม่ได้
หลายคน พอทราบสรรพคุณสมุนไพรบางชนิด เห็นญาติเป็น หรือ มีอาการตรงตามนั้น ก็อยากให้ทาน บังคับให้ทาน ผลคือ คนป่วยแหยงยา ในที่สุดก็ไม่อยากทานยานั้น เผลอก็เททิ้ง ขว้างทิ้ง กินไม่ได้ในที่สุด
หลวงพ่อนิพนธ์ ยกตัวอย่าง ให้เจ้าหน้าที่พึงระวังเสมอในการจ่ายยาสมุนไพร โดยเฉพาะคนไข้ใหม่ และคนที่มีอาการหรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร กระเพาะเป็นแผล หรือ รั่ว คนเหล่านี้ ห้ามจ่ายยามะกรูด ยามะพร้าว เด็ดขาด เพราะสมุนไพรเหล่านี้ มีฤทธิ์แรง เมื่อทานเข้าไป ผู้ทานจะมีอาการทรมาน แสบร้อนบริเวณแผลมาก ทำให้ไม่อยากทาน แหยง จนทานไม่ได้ โอกาสการฟื้นฟูตนก็ปิดลง
การฟังวิทยากร และหลวงพ่อนิพนธ์ จึงสำคัญ หากมีข้อสงสัย ก็ควรถามวิทยากร อยาคิดนึกเอาเอง มโนเอาเอง ว่าอย่างนี้ได้ อย่างนั้นได้
มาถึงสถานที่นี้แล้ว เรื่องอื่นเก็บไว้คุยวันหลัง เปลี่ยนมาคุย เรื่องของชีวิตดีกว่าไหม
สิ่งที่เห็นเป็นประจำ นั่นคือ การขอสมุนไพรเฉพาะตัว หลายท่านมีอาการเกิด แล้วได้ยินคำบอกจากคนโน้นคนนี้ ให้ไปขอสมุนไพรเฉพาะตัว ที่คุณปุ้ม หรือคุณดา ประเด็นก็คือ ได้ตามความประสงค์ แล้วก็ดีใจ กลับบ้านเลย ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า วิธีทำ วิธีใช้ ต้องทำอย่างไร วิธีเก็บรักษา เป็นอย่างไร ...
ก็เวลาคุยเรื่องอื่น มีเวลาเหลือเฟือ แต่เรื่องของชีวิต ไม่มีเวลาให้สักหน่อยหรือ คุยสักนิด ถามสักนิด ว่า สมุนไพรที่ได้มา ต้องทำอย่างไร ต้องใช้อย่างไร
หลวงพ่อนิพนธ์จึงเตือนเสมอว่า เรื่องทำกิน เรื่องหาเงิน รู้จักวางแผน ศึกษา ทำอย่างพิถีพิถัน หากแต่เรื่องของชีวิต หยาบเป็นกระด้ง ...
เรื่องของชีวิต เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แม้นแต่วิทยาศาสตร์ ยังเข้าไม่ถึง แก้ไม่ได้ ขืนทำหยาบ แล้วจะหวังผลเลิศ ... ดูแล้วคงยาก
ถามตัวเองก่อนซิ แค่สมุนไพรเขียว ที่ อ.อร่าม มักเรียกว่า "ยาครู" นั้น ใช้แก้อาการใดบ้างรู้ไหม ทานทำไม สำคัญอย่างไร ยามปกติ ทานอย่างไร ยามวิกฤติ ทานอย่างไร ... รู้เรื่องนี้ ดีกว่า รู้เรื่องอื่นๆ ในโลกทั้งหมด
หากยังไม่รู้ ไปหาความรู้ซะ
ประเภทอุ่นยาเขียวทานมาตลอด เราก็เลยไม่รู้ว่าท่านมาทำอะไร