วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ศาสน์ที่เหนือมนุษย์


สิ่งดีๆ ในโลก เมื่อมีมนุษย์ผู้หนึ่งผู้ใดคิดค้น และเป็นที่ชื่นชอบของคนทั้งโลก ในไม่ช้าสิ่งที่ตามมานั่นคือ การลอกเลียนแบบ

เช่นกัน ครั้งเมื่อหลวงพ่อนิพนธ์เรียนตำราสมุนไพรกับแม่ชีเมี้ยน คำถามหนึ่งที่ถามแก่แม่ชีเมี้ยน จึงหนีไม่พ้นว่า คนนั้น คนนี้ ก็ล้วนแต่รู้สูตรสมุนไพร กันทั้งหมดทั้งปวง ไม่กลัวเขาเอาไปทำหรือ

แม่ชีเมี้ยนตรัสตอบว่า ไม่จำเป็นต้องกลัว เพราะถึงรู้สูตรก็ไปทำไม่ได้ ด้วยปัจจัยหลายประการ

ประการที่หนึ่ง สูตรที่นำมา เป็นของพระภูมี ที่มาพร้อมคำพร และคำสาป "ใครทำให้ ยิ่งให้ ยิ่งเจริญ ใครทำขาย ยิ่งขาย ยิ่งฉิบหาย" เป็นประการแรก

ประการที่สอง สมุนไพรที่นำมาเป็นธรรมหมวดหนึ่งของพระภูมีที่ทรงบัญญัติ หากแต่สมุนไพรแต่เพียงอย่างเดียว ก็อุปมาเหมือนกายมนุษย์ จะหามีฤทธิ์เดช สร้างบุญสร้างบาปไม่ได้เลย หากไม่มีวิญญาณ สิงสถิตย์ในกายนั้น แลวิญญาณของสมุนไพร ก็คือ การปฏิบัติธรรมของพระภูมีนั่นเอง

ด้วยชนักอันนี้ จึงทำให้ผู้ทาน ต้องมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เป็นบางสิ่งบางอย่าง โดยต้องน้อมนำธรรมมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต พูดง่ายๆ ก็คือ คนที่จะทานสมุนไพรแล้วประสพผล ต้องเป็น "คนดี" นั่นเอง

หากแม้นคนใดที่อวดตนว่าชาญฉลาด เมื่อพ้นกรรมเดิมที่ทำมา ก็เลิกเสียพฤติกรรมที่ทำดี ที่ช่วยตนมาจนหมดสิ้น หันไปมีพฤติกรรมทำบาปอีก เรียกว่ามีพฤติกรรม ลิงหลอกเจ้า แม้นจะหลบตาของผู้ทำให้ได้ หากแต่หลบกรรมไม่ได้ วันหนึ่ง ก็ต้องตำรา "หนีเสือปะจรเข้" พ้นมะเร็ง ก็ไปเจออุบัติเหตุ ตายเหมือนกัน ... เป็นต้น

ประการที่สาม คือสิ่งที่ไม่มีนักวิทยาศาสตร์ผู้ใดรู้ และทำได้ นั่นคือ พระภูมีทรงตรัสรู้ว่า มนุษย์ทุกผู้ทุกนาม จักมีเขี้ยวที่ทำหน้าที่สองอย่าง อันมีหน้าที่หลั่งสารที่กำหนดคุณโทษ เมื่ออาหารผ่านเข้าสู่ร่างกาย ยามใดที่อยู่ในปล้องบุญ ไม่ว่าจะทานอะไรก็ให้คุณ ยามใดที่อยู่ในปล้องบาป ไม่ว่าทานอะไรก็จักเป็นโทษ ไม่ว่าจะทำความสะอาด อนามัย ฆ่าเชื้อโรคสักฉันใดก็ตาม

สูตรของพระภูมี จึงจักทำแล้วสัมฤทธิ์ผล ก็ต้องอาศัยผู้มีคุณธรรมเท่านั้นเอง ซึ่งมองแล้วทำยาก เพราะทำให้ผู้อื่นไม่พอ แถมยังต้องทำฟรีอีกต่างหาก ดังนั้น คนไม่ดีก็ไม่สามารถดำเนินตามรอย เพือทำให้สมุนไพรมีฤทธิ์ได้ จึงไม่ต้องกลัวคนแย่งทำ

คนที่เอาแต่สมุนไพรไป ไม่สนธรรมของพระภูมี จึงหาความประสพผลในการช่วยฟื้นฟูไม่ได้เลย

จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมที่ชมรมคนรักสุขภาพ จึงแจกฟรี และต้องบังคับให้สวดมนต์ นั่งสงบอยู่ในกรรมฐาน ที่ดัดนิสัย อยากทำตามใจตน เพราะอย่างน้อย หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า การทำเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าเดินตามรอยธรรมของพระภูมี ฝืนนิสัย แม้นจะเป็นชั่วครู่ชั่วยาม ก็เข้าตำรา "กำขี้ ดีกว่ากำตด" เพื่อผลในการฟื้นฟูตน จะมากน้อยก็แล้วแต่การกระทำของแต่ละบุคคล อย่างน้อยก็ให้ผลในระดับหนึ่งแน่นอน

และด้วยเหตุนี้ คนที่จะกล่าวอ้างว่า สมุนไพรดี ต้องช่วยให้หายโรคทุกคน จึงใช้ไม่ได้กับที่นี่ เพราะสมุนไพรที่นี่ ช่วยใครไม่ได้เลย หากแต่คนที่ทานเท่านั้นเอง ที่จักต้องช่วยตนให้พ้นจากโรคภัย ด้วยการเรียนรู้ ธรรมคำสอนของพระภูมีที่แท้จริง นำไปปฏิบัติ ควบคู่กับการทาน มาตรฐานของสมุนไพรจึงวัดกันที่ คำว่า "ใครทำ ใครได้" ต่างหาก

หลวงพ่อนิพนธ์จึงตอกย้ำเสมอ ผู้ใดเชื่อ ฟังเหตุและผล และทำตาม ย่อมประสพผลในการหายโรคอย่างแน่นอน แม้นจักถึงพรหมลิขิต ก็ไม่ตายด้วยโรค หากแต่จะจากไปเหมือนคนแก่ ที่ตะเกียงหมดน้ำมัน ถึงเวลาง่วงนอน แล้วก็จากไป นี่จึงเป็นลาภที่พระภูมี ทรงตรัสสอนและทิ้งไว้ให้ ให้มนุษย์ผู้ที่อยากได้ นำไปทำ

เพราะฉะนั้น ต้องยอมรับความจริงที่ว่า แนวทางของพระภูมี ทำได้ยาก ผู้นิยมน้อย จึงไม่กะเกณฑ์อยู่แล้วว่า ต้องเป็นที่นิยมกันในคนหมู่มาก เพราะพุทธประวัติเป็นเครื่องยืนยันให้เห็นแล้วว่า ธรรมของพระภูมีที่เลอเลิศ พาไปนิพพานได้ คนอินเดียเป็นร้อยล้านคน ยังมีคนชอบไม่ถึงแสนเลย

นั่นหมายความว่า ผู้ที่จะผ่านเข้ามาในวังวนนี้ ย่อมต้องทวนกระแสโลก กระแสสังคม ฝ่าคำด่า คำเสียดสี ไม่มากก็น้อย เป็นธรรมดา

ตัวอย่างอาทิเช่น คนไข้ที่มีดีกรีด๊อกเตอร์ทางกฎหมาย ที่ป่วยด้วยโรคไตวาย ขั้นสุดท้าย หมอกล่าวคำอมตะว่า มีชีวิตได้สูงสุดไม่เกินสามเดือน ที่ตัดสินใจมาหาทางเลือกสมุนไพร และเมื่อฟังคำสอนจากหลวงพ่อนิพนธ์ครั้งแรก ก็ตัดสินใจเด็ดขาดในทางเลือกนี้ ผลก็คือ คำด่าจากญาติทั่วสารทิศ คำอ้อนวอนจากบิดา ที่ชักชวนให้ไปใช้ในหนทางอื่นที่ตัวเองเชื่อ คำติติงจากหมอ เพื่อน... ผู้ซึ่งล้วนแต่ทางโลกเรียกว่าผู้หวังดี มีความรักใคร่ หรือ...

คำตอบจากเขาที่มีให้แก่คนเหล่านั้น แม้นว่าตัวเขาจะอายุเพิ่งวัยกลางคน คือ การนำคำสอนไปตอบว่า หากคำพยากรณ์ของหมอเป็นจริง นั่นก็หมายความว่า พรหมลิขิตของเขามีมาแค่นี้ ตัวเขาเองจะไม่โทษใคร ไม่อุทธรณ์ใดๆ หากแต่สิ่งที่ทำให้ผล ทุกวันที่เกินจากสามเดือนนี้ไป ก็ถือว่าเป็นกำไรชีวิต และเป็นการเริ่มต้นที่จะเป็นคนดี ตามคำสอนของพระภูมี ที่หลวงพ่อนิพนธ์ได้สอน

วันนี้ของด๊อกเตอร์ กลายเป็นจิตอาสา และมีอายุผ่านสามเดือนมาปีกว่าแล้ว โดยไม่มีวี่แววว่าจะสิ้นอายุขัยเลย แข็งแรง ทำงานได้ และมาเป็นจิตอาสาให้ชมรมทุกวันพฤหัส

ก็แล้วจะมีสักกี่คนที่ฝ่าด่าน ทวนกระแสเหล่านั้น มาได้ตั่งด๊อกเตอร์ท่านนี้

ใครที่จะมาเดินแนวทางนี้ แล้วนำความคิดเอาเปรียบผู้อื่น เห็นแก่ตนมาใช้ในสถานที่นี้ สมุนไพรฟรี น้ำฟรี ไฟฟรี .... เอามือซุกกระเป๋า ไม่ยอมแม้นแต่รับผิดชอบในส่วนของตนใดๆเลย ขวดสักใบก็ไม่เคยหิ้วมา มะพร้าวสักลูกก็ไม่เคยแล พริกไทยสักขีด ... ทุกอย่างล้วนแต่วางเฉย คิดว่าตนได้ ... ท่านคิดผิดแล้ว และไม่มีวันประสพผล เพราะทางที่ท่านเดิน ... มันเป็นทางของชูชก มีแต่รอท้องแตกตาย

ห้องแลปของฝรั่ง อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส ที่ตรวจแล้วตรวจอีก ก็ทำเลียนไม่ได้ ล่าสุด ห้องแลปของจีน ที่นำยาตาไปตรวจ ก็ต้องยอมรับว่า ทำไม่ได้ เขาจึงต้องยอมไง

ที่สำคัญ สมุนไพรและธรรมของพระภูมี ยิ่งไม่มีผลต่อมนุษย์ ที่พึ่งหาแต่พระเจ้า ให้ช่วยตน และปฏิเสธสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัส นั่นคือ เรื่องกรรม ที่ทำให้ได้รู้ว่า ตายแล้วต้องเกิด คนเหล่านั้นจึงไม่สน ชีวิตนี้ทำอย่างไรก็ได้ ตายแล้วแล้วกัน .... พระพุทธเจ้าจึงให้ผู้ปฏิบัติ เป็นทางเลือกสำหรับคนเหล่านี้ นั่นคือ "อุเบกขา"

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44