วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

หมูไม่กลัวน้ำร้อน


หลังจากการวางศิลาฤกษ์ที่รัฐทวาย ของพม่าแล้วเสร็จ และก่อสร้างบ้านหลังที่สอง ต่อจากบ้านกรุณา นั่นคือ บ้านเมตตา ที่ทางพม่ารับปากว่าจะสร้างให้แล้วเสร็จเร็วที่สุดที่จะทำได้

หลวงพ่อนิพนธ์จึงดำริว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็หมายความว่า นับจากนี้ไปท่านก็จะมีทางหนีทีไล่ ดังนั้น จึงตัดสินใจ รับคนไข้เข้ามาฟื้นฟูสุขภาพ เต็มตัว

หลังจากเริ่มรับคนไข้มะเร็ง คนไข้อัมพฤกต์ ชุดแรกเข้ามา สาธารณสุขอำเภอก็เริ่มเข้ามาป้วนเปี้ยน ให้เห็นดังเช่นเคย

แต่หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า ตอนนี้ไม่สน หากจะโดนดำเนินคดีตามกฎหมาย ที่รับคนไข้โดยไม่มีใบอนุญาตจัดตั้งสถานพยาบาล เพราะเมื่อถึงวันนั้น ทางรัฐบาลพม่าก็เปิดรับ รออยู่แล้ว

ดังนั้น วันอาทิตย์ที่ผ่านมา คนไข้หนัก โดยเฉพาะคนไข้อัมพฤกต์ที่ต้องการฟื้นฟูตน หากมีช่วงเวลา และมีพี่เลี้ยง ก็ให้มายื่นความจำนงค์ที่เจ้าหน้าที่ เพื่อขอเข้ารับการฟื้นฟูได้

รายล่าสุดที่หลวงพ่อนิพนธ์รับไว้ ก็จัดว่าเป็นคนมีฐานะ หากแต่ด้วยความมีฐานะนี้เอง ทำให้สภาพของเขาที่พึ่งวิทยาศาสตร์ ความทันสมัยของทางการแพทย์ จนอาการเบาหวานของเขาอยู่ในขั้นวิกฤต และถูกหมอทิ้ง พร้อมกับคำกล่าวสุดท้ายว่า นับจากวันนี้เป็นต้นไป คนไข้ไม่สามารถทานอะไรได้อีก นอกจากมันต้มวันละประมาณ ๖ ชิ้น เท่านั้น แล้วก็รอวัน

หลวงพ่อนิพนธ์จึงเน้นย้ำว่า มาถึงวันนี้ ไม่จำเป็นต้องง้อคนไข้อีกแล้ว และไม่จำเป็นต้องเกรงกฎหมายอีก นั่นคือ การประกาศจุดเริ่มที่จะเน้นให้สมุนไพรโดดเด่น คนไข้ใดที่หมอทิ้ง คุยกันรู้เรื่อง แล้วทำตาม เชื่อในแนวทางนี้ จากเหตุและผลที่ให้ มาสู้กัน

ในทางกลับกัน คนไข้ที่มาแล้วไม่คิดจะทำตาม ด้วยประการใดๆก็ตาม ถึงเวลาแล้วที่จะต้องโละออกไป เพราะเป็นภาระที่สิ้นเปลือง และสูญเปล่า ทั้งผู้มาและผู้ให้

กติกาที่ตั้ง โดยเฉพาะห้องสวดมนต์ที่ต้องการความสงบ อันเป็นแนวทางของพระภูมีที่บัญญัติขึ้นเพื่อช่วยตน ก็จะไม่มีเจ้าหน้าที่คอยเตือนให้รำคาญ หากแต่จะมีกรรมการดูจากกล้อง แล้วทำหน้าที่คัดกรองคนที่ไม่มีคุณสมบัติ ออกไปแทน

ทั้งนี้เพื่อให้เหลือแต่แก่น หากแม้นจะมีคนเหลือไม่มาก ก็ไม่เป็นไร แต่เชื่อได้ว่า คนที่เหลือ เมื่อเชื่อ และทำตาม ต้องประสพผลในการช่วยตนอย่างแน่นอน ไม่สนว่าจะเป็นโรคอะไร

และด้วยความไม่เอื้ออำนวยของกฎหมายไทยนี้เอง ทำให้การจัดตั้งศูนย์ชุมพร มีความเป็นไปได้ยากในขณะนี้ หากแต่ก็โชคดี ที่คณะกรรมการสายอีสาน ร่วมกับสมาชิกเก่าที่ประสพผลในการฟื้นฟูตน ที่เป็นเชื้อสายเจ้าของประเทศลาว กำลังรวมตัวกันจัดตั้งศูนย์ขึ้นที่ชายแดนไทยลาว ในเขตประเทศลาวขึ้น

หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า หากโครงการนี้เกิด ก็จะให้ชื่อว่า "บ้านมุทิตา"

วันนี้ฟังข่าวแล้วยิ่งห่อเหี่ยว คนไทยแบ่งฝ่ายกันสร้างม๊อบ หากแต่เพื่อใคร เพื่ออะไร กลับมาถามใจตนกันบ้างหรือไม่

สำหรับเรา ประเทศที่ใครๆดูถูกว่าล้าหลัง ป่าเถื่อน กำลังรวมตัว เพราะเห็นสิ่งดีๆที่อยู่ในประเทศไทย ไปไว้ในบ้านตน กลับไม่มีม๊อบคนไทย ที่จะหวงแหนสิ่งนี้เลย รอวันให้กฎหมายดีดสิ่งดีงามนี้ไปยังเพื่อนบ้าน .... ยิ่งดูก็ยิ่งเศร้า อะไรบังตาคนไทยกันหนอ

จึงอยากเตือนว่า คนที่ท่านกำลังไปต่อสู้ ฝ่ายรัฐบาลเก่า ออกกฎหมายทำให้วัตถุดิบที่นำมาทำสมุนไพรกลายเป็น วัตถุต้องห้าม ฝ่ายรัฐบาลใหม่ ก็สนับสนุนแต่แผนปัจจุบัน หามีใครเหลียวแลสิ่งดีนี้ที่แม่ชีเมี้ยนทิ้งไว้ให้ไม่ ดังนั้น ตอนนี้ยังมีโอกาสที่สมุนไพรแม่ชีเมี้ยนยังอยู่ในประเทศไทย ก็รีบทาน รีบฟื้นฟูตนให้รอดปลอดภัย เพราะไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกนานเท่าใด หากถึงวันที่แผ่นดินนี้ไม่มีใครเอา หรือ คนทำเขาเบื่อแผ่นดินไทย อยากทานก็ไปพม่า ไปลาว แทนน่ะพี่น้อง



ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44