หลวงพ่อนิพนธ์สรุปให้ฟัง เป็นวลีสั้นๆ ว่า "มีอุปาทาน แล้วตั้งเจตนา ทำตนจนเป็นเจตสิก แล้วอุทิศ"
งานรำลึกคุณแม่ชีเมี้ยน หลวงพ่อนิพนธ์จึงได้นำให้พวกเราท่าน ได้ลองทำ แล้วอรรถาธิบายแต่ละขั้นตอนว่าทำเพื่ออะไร เพราะเหตุใดจึงต้องทำเช่นนี้
จากคำสอนของแม่ชีเมี้ยน ยกการกระทำของพระโคดมมาให้เราท่านได้ฟัง เริ่มจากการที่พระโคดมฟังเหตุและผล ของโลกุตระแล้วเชื่อเรื่องกรรม เป็นอุปาทาน
พระโคดมจึงตั้งเจตนา ที่จะทำตนไม่สร้างกรรมขึ้นอีก
แม่ชีเมี้ยนจึงชี้ให้เห็นการกระทำของคนทั่วไป เมื่อเกิดสิ่งใดก็จะโทษนั่นโทษนี่ เป็นความผิดของผู้อื่น
พระโคดมเมื่อเชื่อเรื่องกรรมอุปาทานแล้ว ก็พยายามสร้างสติ ระวังระไว เมื่อเดินเตะหิน ก็คิดว่า เนื่องจากกรรมของเราไปทำร้ายผู้อื่น เมื่อเกิดเหตุใดๆ ก็จะพิจารณาว่าเป็นเพราะกรรมที่ตนทำมา ทำให้เกิดสติอันมหาศาล ไม่ทำการกระทำใด อันจะก่อให้เกิดกรรมใหม่
เมื่อจะทำสิ่งใด ก็จะวางเจตนา เช่นเดินธุดงค์ ว่าผลบุญที่ได้ทำจากสิ่งนี้ ขออุทิศให้...
ดังนั้น หลวงพ่อนิพนธ์นำเราท่านให้วางอุปาทาน ทำสัจธรรมคำสอนของพระภูมี จึงให้ตั้งเจตนา จะไม่โกรธ ไม่เกลียด ไม่ว่าผู้ใด ไม่อิจฉา ริษยา ผู้หนึ่งผู้ใด มีกำหนดจนถึง เที่ยงคืนครึ่ง
เมื่อเราท่านตั้งสติ ประคองสัจธรรมอันนี้ จนครบกำหนด ก็เหมือนพระโคดมเดินธุดงค์จนครบตามสัจธรรมที่ให้ไว้แล้ว
สิ่งสุดท้ายที่ต้องทำ นั่นคือ ลาสัจจะ อันหมายถึง ต้องบอกจุดหมายปลายทางของการทำนั้นๆ ว่าทำเพื่ออะไร
หลวงพ่อนิพนธ์ จึงนำให้เราท่าน ชี้เป้าหมาย นั่นคือ กล่าวบทอุทิศส่วนกุศล จากการทำตามสัจธรรม ที่ได้ตั้งอุปาทาน ได้สำเร็จเสร็จสิ้นว่า
อุทิศแด่ เจ้ากรรม นายเวร ...
ทำไมต้องรอบครอบจักรวาล ท่านอรรถาธิบายว่า โลกเราคือจักรวาล เราท่านไม่สามารถรู้ว่า อดีตชาติเราเกิดตรงส่วนไหน ทำกรรมไว้ ณ ที่ใด ในจักรวาลโลกนี้ ดังนั้น ชาตินี้เมื่อเราเกิดในแผ่นดินไทย ทำตามสัจธรรมได้บุญมา จึงต้องแผ่ให้ไปยังจักรวาลส่วนที่เราทำในอดีตไว้แล้วนั่นเอง
วิมานพรหมยมโลก แท้จริงแล้วก็คือ มนุษย์และสัตว์ทั้งหลายนั่นเอง
ก็สัตว์นั้น แท้จริงแล้วก็คือมนุษย์ที่ทำกรรมนั่นเอง เมื่อหมดกรรมก็กลายกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก เวียนไปมา ตามกรรมที่ทำมา เราท่านอดีตจึงมีการกระทำเป็นกรรมแก่ สรรพสัตว์ นั่นคือ ทั้งต่อมนุษย์และสัตว์ในโลกนี้ เพราะคนที่เราท่านมีกรรมต่อกัน ชาตินี้เขาอาจไปเกิดเป็นสัตว์ก็ได้
นั่นหมายความว่า หลวงพ่อนิพนธ์สอนให้เราท่านรู้ว่า ต้องทราบว่า จะทำอะไร ทำอย่างไร และเพื่ออะไร
เมื่อพระโคดม มีสติอันมหาศาล จนทุกการกระทำไม่ก่อให้เกิดกรรมใหม่ และเมื่อใช้กรรมเก่าจนหมด หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า นั่นหมายถึง พระโคดมจึงไม่มีที่เกิดในจักรวาลใบนี้แล้วนั่นเอง นี่แหละที่เรียกว่า "นิพพาน"
ต้องไป เพราะไม่มีที่เกิดแล้ว อันเป็นคำสอนที่แม่ชีเมี้ยนตรัสว่า พระภูมีทุกพระองค์ตรัสรู้ว่า "มนุษย์มีกรรมนำเกิด" นั่นเอง
รอยของพระโคดมนี้เอง ที่แม่ชีเมี้ยนนำมาสอนหลวงพ่อนิพนธ์ แล้วชักชวนให้เราท่านทำ เพื่อให้หลีกพ้นจากกรรม ที่ทำให้เกิดโรค
และหลวงพ่อนิพนธ์กำลังใช้รอยที่ทิ้งไว้นี้เอง กับผู้ป่วยมะเร็ง เพื่อพิสูจน์ ว่าหายมะเร็ง ไม่ใช่เรื่องยาก
ในไม่ช้า เราท่านจะเห็น คนไข้มะเร็ง นั่งทำจิตทำใจ และถูกอบรม ทำตนให้สุขแก่ผู้อื่น เพื่ออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร แล้วมาดูกันว่า มะเร็งมันจะอยู่ไหวกับผู้ทำได้หรือไม่