ในอดีต สวนสมุนไพรที่บ่อพลอย อยู่ในแผ่นดินที่ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการสูบน้ำบาดาล ไม่ต้องเอ่ยเรื่องฝน เพราะเป็นเขตที่แล้งที่สุดของประเทศไทย ปลูกอะไรก็ตายหมด แต่เป็นแหล่งที่สมุนไพรชอบขึ้น
การขาดน้ำ ทำให้สมุนไพรเมื่อพ้นหน้าฝน จึงต้องพึ่งน้ำจากบ่อที่ขุดไว้ ซึ่งไม่เพียงพอ เนื่องจากขาดอุปกรณ์ เครื่้องมือ และทุนในการขุดบ่อให้มาก และกว้างขวางขึ้น
มาวันนี้ ก็มีคนไข้ที่ประสพความสำเร็จในการช่วยตน มาเปิดเผยตน แล้วยื่นมือมาขออาสาช่วยแก้ปัญหานี้ ทำให้ในไม่ช้า สวนสมุนไพรก็จะมีบ่อกักเก็บน้ำ จนพอใช้ได้ทั้งปี อันหมายความว่า ในหน้าแล้ง ยาเขียวก็จะยังคงมีให้ทาน
และในช่วงเวลาเดียวกัน คนไข้ชาวสวิส ที่อาการดีวันดีคืน แม้ยังไม่หาย แต่เขาก็สามารถทิ้งยาเคมี และไม่ต้องใช้ยาเสพติด ในการรักษาอาการ ซึ่งหลายสิบปี เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยทำได้เลยเสนอตัวที่จะให้ทุนประเดิม ๔ ล้านบาท ในการซื้อเครื่องที่ช่วยในการแปรรูปสมุนไพร ทำให้สามารถเก็บได้ และมีแจกทั้งปี
ยิ่งไปกว่านั้น ค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งที่กำลังเพิ่มขึ้นทุกวัน นั่นคือ ค่าแก๊ส ที่ใช้ในการอบตัว ก็ได้คนไข้ท่านหนึ่ง ที่ผ่านวิกฤตของตน แล้วเสนอตัว ท่านคือ ดร. ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานชีวมวล อันดับต้นๆ ของประเทศไทย ได้ออกแบบและเสนอแก่หลวงพ่อนิพนธ์ เพื่อให้ได้แก๊สชีวมวล มาใช้ทดแทนการซื้อแก๊ส
อะไรๆ ก็เริ่มเป็นใจ ..
หลวงพ่อนิพนธ์ จึงเน้นให้คนที่มาเดินในแนวทางสมุนไพรของพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยนนำมา ให้มีความมุ่งมั่น และตั้งใจ มีขันติ อดทน เพื่อช่วยตน
ปีนี้ เราท่านก็จะเห็นอะไรเปลี่ยนไปในทางที่ดีมากยิ่งขึ้น อย่างแน่นอน