ประวัติศาสตร์ของถ้ำกระบอก และเหตุของความล่มสลาย น่าจะยังพอมีคุณค่า ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา และพึงระวัง มิให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยได้
พฤติกรรมของพระ เมื่อครั้งที่ยังไม่เปิดถ้ำ นั่นคือ การได้เข้าเฝ้าแม่ชีเมี้ยน ฟังคำสอน และสิ่งที่จะพบเห็นเสมอนั่นคือ การเข้าคิวกันเพื่อแย่งกันตำหมากให้แม่ชีเมี้ยน ที่ขณะเทศน์จะฉันท์หมากเร็วมากนั่นเอง
หากแต่เมื่อเปิดถ้ำ ญาติโยมมากันมากมาย พระทั้งหลาย ล้วนแล้วแต่ไปนั่งรอพบ รอคุยกับญาติโยม หาพระมาตำหมากให้แม่ชีเมี้ยนไม่มีเลย
หลวงพ่อนิพนธ์ยกอุธาหรณ์นี้มาให้ฟังบ่อยครั้ง และชี้ให้เห็นว่านี่คือเหตุแห่งความล่มสลายของถ้ำกระบอก
มาวันนี้ คนที่มา ในตอนแรก ก็เฉกเช่นกัน มาทำไม คำตอบคือ มาหาสมุนไพร มาหาธรรมคำสอนของพระภูมี มาหาแม่ชีเมี้ยน เพื่อนำสิ่งเหล่านี้ไปช่วยตน จึงมาหาหลวงพ่อนิพนธ์
อยู่มาอยู่ไป กลายเป็นว่า เมื่อมาถึง แทนที่จะไปหาในสิ่งที่ตั้งใจมาหาแต่เดิม กลายเป็นเลี้ยวไปหาตลาดนัด ไปหาเพื่อนใหม่ที่เจอในชมรม เพื่อได้คุย ไปหาโน่น หานี่ แทน ...
ก็แล้วสิ่งที่เดิมตั้งใจมาหา ก็เลยกลายเป็นเรื่องสำคัญรองๆ ลงไป
จนท้ายที่สุด บางคนก็ถูกกลืนกินไป มาแล้วไม่เคยแม้กระทั่งไปกราบแม่ชีเมี้ยน กราบพระภูมี กราบครูบาอาจารย์ ตามความตั้งใจเดิมที่มา เพื่อช่วยตนเลย
พฤติกรรมเหล่านี้ มันกำลังเดินไปในแนวของพระถ้ำกระบอก นั่นคือประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอย
และผลสุดท้ายของพระถ้ำกระบอก ก็ล้วนแล้วแต่ตายด้วยโรคทั้งหมดทั้งสิ้น หาใครประสพผลในการทิ้งแม่ชีเมี้ยนไปหาญาติโยมได้สักองค์ไม่
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า เมื่อจะออกจากบ้านตั้งสติให้ดีว่า เราท่านมาสถานที่นี้ทำไม เมื่อมาถึงควรจะไปหาสิ่งใดก่อน
บทสรุปที่หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นนั่นคือ "ไม่มีเขาเราลำบาก"
เฉกเช่นพระถ้ำกระบอกเมื่อไร้เสียซึ่งแม่ชีเมี้ยน ก็หัวปักและล่มสลายในที่สุดนั่นเอง