วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554

ผลแพ้ชนะ วัดกันที่ใจ

เกือบสี่เดือนก่อน ผู้คนเล่าขานถึงคุณปรียานุช ในการรักษาตัวด้วยวิถีทางสมุนไพรกันมากมาย หนึ่งในนั้น ที่รู้ดีถึงรายละเอียดเพราะเป็นเพื่อนกันมานาน กับคุณนุชนั่นเอง จึงอยากจะทดลองเส้นทางสายนี้ เพราะรู้แก่ใจดีว่า สภาพคุณนุชย่ำแย่กว่าเขาสักปานใด ตัวเขาเองเป็นแค่โรคเก๊าต์ เบากว่ากันเยอะ หลังจากไตร่ตรองแล้วจึงให้คุณนุชพามาหาหลวงพ่อนิพนธ์

ชายรูปร่างสูงใหญ่เดินทะมัดทะแมง ที่ผ่านการเป็นโรคเก๊าต์มานับสิบปี ได้เข้าพบหลวงพ่อนิพนธ์ เพื่อขอรับการรักษาด้วยสมุนไพร คำถามแรกที่หลวงพ่อนิพนธ์ถามเขาคือ แน่ใจหรือที่จะใช้วิธีนี้ เขาตอบว่าแน่ใจ หลวงพ่อนิพนธ์จึงบอกเขาว่า ถ้าแน่ใจและเอาแน่ ก็ไปซื้อรถเข็นเตรียมไว้ได้เลย ชายร่างสูงใหญ่ร้องเอ้ย ขึ้นมาทันใด พร้อมพูดสวนออกไปว่า ทำไมผมต้องใช้รถเข็น ในเมื่อผมเองก็เดินได้ปกติ

คำตอบที่ได้รับคือ ก็คุณกินยาระงับอาการเอาไว้ ทำให้ร่างกายไม่สามารถช่วยตัวเอง โรคก็ยังไม่รุนแรง ยาที่ทานเข้าไปคุมยูลิคของคุณ ก็สามารถยังสามารถกดอาการไว้ได้อยู่่ แต่ถ้าอยากรู้จริงๆ ก็ต้องหยุดยาเคมี และทีนี้ร่างกายก็จะแสดงปฏิกิริยา อาการก็จะปรากฎ ยิ่งทานสมุนไพรเข้าไปคุ้ยด้วยแล้ว อาการลงแดงจะเกิดขึ้น เขาก็เก็บความสงสัยนี้ไว้ ว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาต้องนั่งรถเข็น ซึ่งไม่เคยเลยในชีวิต แต่ก็ไปซื้อหามาไว้

ด้วยวัยที่ยังไม่มากนัก และสภาพร่างกายที่ยังสมบูรณ์ การตอบสนองของร่างกายกับสมุนไพรของเขา ใช้เวลาเพียงเดือนกว่าๆ อาการลงแดงก็ปะทุ เขาต้องนั่งรถเข็นจริงๆ และมีอาการปวดรุนแรง ขนาดที่เจ้าตัวบอกว่า แม้แต่ลมพัดผ่านยังเจ็บ หลวงพ่อนิพนธ์ให้สติว่า หลักของพระภูมี คือ ทุกข์วันนี้ เพื่อสุขวันหน้า ในขณะที่หลักของวิทยาศาสตร์ เขาสุขวันนี้ เพื่อทุกข์วันหน้า ดังนั้น หายหรือไม่หายไม่มีใครช่วยได้ วัดกันที่ใจ ถ้าทนไม่ไหว ก็กลับไปให้หมอฉีดยา อาการปวดก็จะหายไป ด้วยความมุ่งมั่น และอดทน ต่ออาการลงแดง เขาต้องนั่งอยู่บนรถเข็น สองสัปดาห์ หลังจากนั้น จึงเริ่มหัดเดิน ด้วย walker อีก 15 วัน จึงทิ้ง walker เปลี่ยนมาใช้ไม้เท้าธรรมดา อีกสองสัปดาห์

ทุกวันนี้ เริ่มกลับมาเดินได้ปกติ แม้ยังมีอาการเสียวคงอยู่นิดหน่อย แต่เมื่อเทียบกับตอนลงแดง ก็ผิดกันราวกับฟ้าดิน ธรรมชาติของเขาเริ่มกับมา พร้อมกับการหวนไปกินเป็ด กินไก่ ได้อีกครั้ง เขาได้ความสุขทั้งสุขภาพ และความสุขจากการกิน พร้อมกับดีใจที่ตัดสินใจถูก ไม่กลับไปพึ่งยาเคมีอีกครั้ง ในขณะที่ความปวดแล่นไปทั่วร่างกาย แม้ยามขยับตัว

วันนี้ เขาได้เป็นตัวอย่างแก่คนที่จะเดินตามมา บอกให้ทุกคนที่ได้เห็น และได้รู้ในสิ่งที่เขาผ่านมา ว่า คำของหลวงพ่อนิพนธ์ที่ว่า สัญญาณที่จะบอกเราว่า โอกาสหายมาถึงแล้ว คือเมื่อประตูนรกของการลงแดงเปิด ความเข้าใจที่เรียนรู้จากหลวงพ่อนิพนธ์มา จำทำให้เรามีน้ำอดน้ำทน และเห็นประตูสวรรค์ เมื่อนั่น เราจะเป็นอิสรภาพอีกครั้ง ไม่ต้องเป็นทาสของเคมีอีกต่อไป เราจะได้สัมผัส สุขของพระพุทธเจ้า "กินเป็นสุข นอนเป็นสุข จากความไม่มีโรค เป็นฉันใด" ใครก็ช่วยเขาไม่ได้ เขาต้องพึ่งตัวเอง แพ้ชนะ จึงวัดกันที่ใจตัว

 แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้คนอาจไม่รู้ คือความมุ่งมั่นในความอยากหายของเขา ทำให้เขามาทุก พฤหัส และอาทิตย์ และทำกิจกรรมทุกอย่าง ตามที่เรียนรู้มาจากเพื่อน คือ คุณปรียานุช ไม่ปล่อยให้เวลาที่เขามาผ่านไปโดยไร้ค้า ในขณะที่บางคน มาทานสมุนไพรสักพัก ก็ถามว่า หยุดได้ไหม ไม่มีเวลา รอนาน ซึ่งก็ไม่แปลก ที่เขาจะคิดเช่นนั้น สิ่งที่เราเห็นในคนๆ นี้คือ เขาประสพผลสำเร็จ เพราะเขาคิดว่า ชีวิตเขามีค่า เขาจึงทุ่มเทในการกอบกู้ เรียนรู้และทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ และก็ไม่น่าแปลกที่เขาจะประสพผลสำเร็จ หลวงพ่อนิพนธ์ จึงมักย้ำว่า ต้องเรียนรู้ และเอาเหตุผลไปไตร่ตรอง เมื่อคิดได้ เราจะมีน้ำอดน้ำทน และมีมานะในการทานสมุนไพร รวมทั้งต่อสู้กับอาการที่พึงจะเกิดในอนาคต ผู้ที่เรียนรู้และทำได้ ย่อมประสพผลด้วยตัวเขาเองอย่างแน่นอน พระพุทธเจ้าจึงเรียนหลักนี้ว่า ตนพึ่งตน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44