สมุนไพรของแม่ชีเมี้ยน ท่านบอกว่าเป็นสมุนไพรที่มีวิญญาณ ดังนั้นจึงต้องมีหนึ่งเดียว ถ้านับถ้ำกระบอก และพระ 7 สำนักที่แตกออกมา รวมทั้งหลวงพ่อนิพนธ์ ก็มี 9 แห่ง หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า เดิมความศักดิ์สิทธิ์ อยู่ที่ถ้ำกระบอก ด้วยสัญญาของแม่ชีเมี้ยนกับท่านจำรูญ เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ถ้ำกระบอก เมื่อท่านจำรูญ ผิดคำสาบาน การจะถอนสัญญา ก็คือ ต้องหมดลมหายใจของท่าน แม่ชีเมี้ยน จึงเรียกหลวงพ่อนิพนธ์ไปหา และให้นำตำราออกมาจากถ้ำกระบอก พร้อมกับสิ้นสุดลมหายใจของท่าน ในปี 12 นี้เอง
ด้วยเหตุนี้ สมุนไพรถ้ำกระบอกจึงเสื่อมลง พร้อมกับตำนานที่จางหายไปจากประเทศไทย ส่วนพระอีก 7 รูป ที่แตกไปและทำสมุนไพร ก็ไม่ประสพผลเช่นกัน หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า แม่ชีเมี้ยนยอมที่จะดับขันธ์ตัวเอง เพื่อที่จะให้สมุนไพรมาเกิดใหม่กับท่าน ด้วยสัญญาที่จะไม่นำสมุนไพรไปขายหรือตีราคา นั่นคือเหตุผล ที่ทำให้หลวงพ่อนิพนธ์ทำแจกฟรี เพื่อให้สรรพคุณสมุนไพรยังคงอยู่ จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ยาเขียวทั้ง 9 แก้ว มีที่มาที่เดียวกัน สูตรเดียวกัน แต่มีเพียงแก้วเดียว ที่มีสรรพคุณ หรือ มีวิญญาณ
ท่านให้อรรถาธิบายเรื่องวิญญาณสมุนไพรว่า คือการรับรู้จิตใจของผู้ทาน และให้ผลตามความคิดนั้นๆ จุึงยกตัวอย่างคนไข้ผู้หญิงที่มีฐานะคนหนึ่ง ป่วยเป็นเบาหวานรุนแรง ไปรักษามาทั่วโลกก็ไม่หาย เมื่อมาถึงท่าน ท่านก็จัดสมุนไพรเบาหวานให้ไปต้มทานเองที่บ้าน ดังนั้น ที่บ้านจึงมีหม้อดินเพื่อใช้ในการต้มยา คนไข้ท่านนี้มีลูกชายคนหนึ่ง เมื่อเห็นหม้อดินต้มยา ก็หัวเราะขบขัน ชวนเพื่อนมาเที่ยวบ้าน เพื่อให้มาดูหม้อดิน และกล่าวกับเพื่อนๆ ว่า ที่บ้านมีหม้อดินแม่นาค จนเพื่อนๆ แซวว่า ครัวบ้านเอ็งราคาเป็นล้าน ดันเอาหม้อดินแม่นาค มาตั้ง ช่างเป็นเรื่องน่าขบขันยิ่ง ไม่นานนัก คนไข้หญิงก็หายจากโรคเบาหวาน จนเวลาผ่านไปสิบปี คนไข้รายนี้ได้กลับมาหาหลวงพ่อนิพนธ์อีกครั้ง เรียนท่านว่า ลูกชายของเขา ป่วยเป็นเบาหวานเฉียบพลัน ทำให้มีอาการตาบอด สมุนไพรสูตรเดียวกันที่รักษาแม่เขา กลับไม่ให้ผลอะไรเลยแก่ลูกชาย อันเนื่องจากความคิดของเขานั่นเอง ท้ายที่สุด เบาหวานก็พรากเขาไป ท่านจึงกล่าวว่า สมุนไพรมีวิญญาณ ผู้ทานคิดอย่างไร ผลก็เป็นอย่างนั้น จึงช่วยเขาไม่ได้นั่นเอง
ท่านจึงย้ำว่า สมุนไพรสนับสนุนคนดี เพราะไม่เช่นนั้น คนใจบาป ก็จะมาหลอกทานสมุนไพร เมื่อหายแล้ว ก็จะไปทำบาปอีก แม่ชีเมี้ยนตรัสว่า สมุนไพรนี้เป็นสูตรของพระพุทธเจ้า มีวิญญาณ ก็คงไม่สนับสนุนให้คนเหล่านั้น ประสพผลในการหายโรคเป็นแน่แท้ ดังนั้น การทานสมุนไพรที่ได้ผล จึงหลีกเลี่ยงการสวดมนต์ และนำธรรมของพระพุทธเจ้าบางประการไปปฎิบัติไม่ได้เลย จะมาหลอกกินมากเท่าใด ก็ย่อมไม่เป็นผล แต่ผู้ที่มาฟังสิ่งที่ท่านสอน แล้วนำไปปฎิบัติ การทานสมุนไพร ก็ทำให้เกิดปาฎิหารย์โดยธรรมชาติ โรคอะไรก็มีโอกาสหายได้ ตามผลแห่งการกระทำนั้นๆ ผลสำเร็จในการทาน จึงขึ้นกับผู้ทานนั่นเอง ที่เป็นตัวกำหนด ว่าจะเลือกทำเช่นไร ผลก็จะเป็นเช่นนั้น
ตัวอย่างอีกท่านหนึ่ง ซึ่งหลวงพ่อท่านมักยกมาให้ฟังเสมอ คือ ลูกศิษย์ของท่านสมัยถ้ำกระบอก คือ สองพี่น้องชาวอินเดีย นามสกุล แซมมี คนพี่หลังจากเลิกยาเสพติดได้ ได้บวชเป็นพระลูกศิษย์ของหลวงพ่อนิพนธ์ ได้ช่วยเหลือในการจัดทำสมุนไพร และขอวิชาการดูหมอจากท่าน ท่านก็ได้สอนให้ หลังจากปี 12 เมื่อปรากฎการณ์ถ้ำแตก คนพี่ คือ ท่านโกวินทะ แซมมี ได้แยกตัวออกไปตั้งสำนักของตนเอง อันโด่งดัง ในเขตกำแพงแสน คือ "วัดไผ่รื่นรมย์" โดยในระยะแรกได้มีการจัดสมุนไพร ให้แก่ญาติโยมเช่นกัน แต่เมื่อไม่ประสพผล จึงได้เลิกราไป ท้ายที่สุด สิ่งที่ทำให้วัดนี้โด่งดังมีชื่อเสียง คือ การดูหมอที่แม่นมาก เวลาผ่านไป เมื่อท่านทราบข่าวของหลวงพ่อนิพนธ์ จึงได้มาหา และเรียนว่า ตัวท่านเองตอนนี้เป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ 3 เส้น อยากให้ท่านช่วยรักษา ท่านจึงกล่าวว่า เมื่อก่อนท่านเป็นฆราวาส การทำกรรมย่อมเป็นไปโดยไม่รู้ จึงสามารถช่วยท่านได้ เมื่อท่านได้มาเรียนธรรมะของพระพุทธเจ้า นับว่าเป็นผู้รู้ และได้นำธรรมของท่านไปก่อให้เกิดกรรมขึ้น สมุนไพรของท่านก็คงช่วยไม่ได้อย่างแน่นอน จึงปฏิเสธไป หลังจากนั้น เมื่อปลายปีที่แล้ว ข่าวมรณะภาพของท่านจากภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบฉับพลัน หลังจากทำบอลลูนได้เพียงเส้นเดียวก็ปรากฎ เรื่องนี้ จึงเป็นอุทาหรณ์ได้อย่างดีว่า อะไรคือองค์ประกอบในการทานสมุนไพร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น