ยิ่งไปกว่านั้น หลายท่านที่ประสพความสำเร็จในการช่วยตนจากโรคมะเร็งนานแล้ว และปัจจุบันก็ไม่ได้มาที่ชมรมอีก ก็ได้แจ้งความประสงค์ผ่านเพื่อนฝูงญาติมิตรที่ยังมาอยู่ว่า กำลังรวบรวมข้อมูล และประวัติ เพื่อมาช่วยสมทบเป็นวิทยาทานแก่คนรุ่นหลังด้วยเช่นกัน
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า ในการเปิดอาคารมะเร็ง ก็น่าจะเป็นสถานที่ที่มีประวัติผู้ป่วยที่ฟื้นฟูตนจนหาย ให้ศึกษามากมาย อย่างที่ไม่มีที่ใดในโลกมี หรือ ทำได้
ก็คงต้องถึงเวลาที่จะตีฆ้องร้องป่าว ไม่ใช่เพื่อลาภ ยศ สรรเสริญ แต่เพื่อแสดงตนเป็นทางเลือก ให้คนที่เป็นได้มีทางเลือก และที่สำคัญ มีทางรอด
เราจึงเสนอตัวเป็นตัวแทน ขอขอบคุณพระมาลัยทั้งสองร้อยท่านมา ณ. ที่นี้
ท้ายสุด จึงคิดติดตลกคนเดียวว่า ทั้งหมด กำลังถูกสอบประวัติโดยหมอ จะมีสักคนไหมที่ถามหมอที่สอบประวัติว่า แล้วทำไมหมอมาที่นี่ มาบอกเล่าให้เราท่านฟังบ้าง ...
น่าเสียดายอย่างเดียว ที่ปาฏิหารย์เหล่านี้ ยังไม่เพียงพอที่จะจุดประกายคนไทยให้ตื่นตัวได้เลย ทั้งๆที่ โรงพยาบาลที่ว่าดีที่สุดในโลก หมอที่ว่าเก่งที่สุดในโลก รวมกับคนไข้ที่รวยติดอันดับโลก อาทิ สตีฟ จ๊อบ ร่วมกั้น ยังไม่รอดเลย .... แต่ที่นี่คนรอดเป็นร้อย คนไทยไม่ตื่นเต้น ตื่นตัว...