วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557

บ้าไปแล้ว

หลวงพ่อนิพนธ์พูดเสมอ ว่ามนุษย์มีธรรมชาติอย่างหนึ่ง นั่นคือ ความบ้า

ปัญหาก็คือ บ้าสิ่งใดก็ทำตามสิ่งนั้น ผลก็คือ สิ่งที่บ้านั้นผิดหรือถูก

กรณีศึกษา ๓ กรณี ที่อยากหยิบยกมาให้พิจารณา เริ่มจาก พ่อแม่และลูกสาวอายุ ๓ ขวบ ที่มีปัญหาคือ ลูกสาวเป็นมะเร็งเริ่มปรากฎอาการตอนประมาณ ๓ ขวบ

ความรักลูกของพ่อแม่ ก็พาไปหาหมอ ตรวจพบว่าเด็กเป็นมะเร็งที่แกนสมองส่วนกลาง จึงเริ่มทำการรักษาตามหมอบอกทุกประการ

ผ่านไปขวบปี ด้วยความรักลูก ก็ขายทองที่มีไปทีละเส้น จนหมดทองไป ๗ เส้น หมอก็บอกว่าลูกคุณไม่สามารักษาได้อีกแล้ว เพราะมะเร็งโตเร็วมาก จนตอนนี้ ไปกดสมองส่วนกลางทำให้ไม่สามารถเดินได้ การควบคุมร่างกายจะลดลงเรื่อยๆ และขยายไปยังตา ทำให้ตาข้างขวาไม่สามารถมองเห็นได้ ให้ทำใจ

ทั้งคู่ได้ข่าวหลวงพ่อนิพนธ์ ก็พาลูกมาใช้แนวทางสมุนไพร ในขณะที่ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงก็บอกว่าพวกมึงมันบ้าไปแล้ว ตังค์ก็มี ที่ก็มี ทำไมไม่พาไปหาหมอ เอาลูกไปเสี่ยงกินสมุนไพรอะไรก็ไม่รู้ เดี๋ยวลูกก็ได้ตายห่าหรอก

ผ่านสัปดาห์แรกของการทานสมุนไพร ลูกสาวสามารถทานสมุนไพรทุกตัวที่หลวงพ่อนิพนธ์ให้ ไม่ว่ายาลูกกลอน ยาเขียว ยามะพร้าว เรียกว่าทานแบบของถูกปาก

ความตอบรับที่พ่อแม่แลเห็น ก็มีมานะพาลูกมา ผ่านไป ๗ เดือน ตอนนี้ลูกสาวแข็งแรงขึ้นจนสามารถวิ่งเล่นได้ ตาข้างขวากลับมามองเห็น เข้าไปทายทัก หนูน้อยก็ชูนิ้วสองนิ้ว บอกสู้ๆ

กรณีที่ ๒ ชายวัยชราอายุเกือบ ๙๐ ปี มีพี่น้อง ๖ คน คนโตอาศัยโรงพยาบาลเป็นบ้านเกือบ ๕ ปี จึงเสียชีวิตไป คนรองเป็นมะเร็ง เสียชีวิตไปแล้ว เหลือสี่พี่น้อง ตัวเขาจึงกลายเป็นคนโต เคยมีอาการความดันถึงขนาดน็อคกลางอากาศ ล้มลงหัวฟาดพื้น และเป็นโรคปอด มีอาการไอรุนแรง เพราะสูบบุหรี่จัดตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่ม

ลูกพามาทานสมุนไพรหลวงพ่อนิพนธ์ได้เกือบสิบปีแล้ว ตั้งแต่เริ่มทานสมุนไพร ก็ไม่เคยไปหาหมอ ไม่เคยตรวจอะไรอีกเลย

วันสารทที่ผ่านมา พี่น้องได้พบปะกัน ตอนนี้เขากลายเป็นพี่คนโตไปแล้ว วงสนทนาของคนแก่ ที่น้องคนเล็กก็ปาเข้าไป ๘๐ ปี แล้ว หนีไม่พ้น ถามสารทุกข์สุขดิบ เมื่อถามลูกของพี่ชายว่า พาไปหาหมอตรวจบ้างไหม คำตอบคือ ไม่เคย ก็ตามมาด้วยคำว่ากล่าว ทำไมไม่พาไปหาหมอเช็คบ้าง อายุขนาดนี้แล้ว เป็นลูกอย่างไงไม่ดูแลพ่อ

น้องถามเขาว่าเป็นไงบ้าง เขาก็ตอบว่า ก็สบายดี ไปเมืองกาญจน์ทุกอาทิตย์ ทานสมุนไพร ร่างกายก็ปกติดี เดินเหิรช้าบ้างตามวัย ดีที่กินได้ทุกอย่างที่อยากกิน

น้องๆ จึงบอกลูกของเขาว่า ทำไมไม่ดูแลพ่อให้ดี พาไปกินอะไรก็ไม่รู้ ... เขาก็ถามน้องๆว่า เป็นอย่างไงบ้าง คนที่สี่ บอก ตอนนี้ไปหาหมอ เดือนละ ๓ ครั้ง คนที่ห้าบอก ตอนนี้ลุกไม่ค่อยไหว ไปหาหมอให้ตรวจทุกสัปดาห์ คนสุดท้องบอก ก็ไปหาหมอเดือนละครั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันทั้งสามคน นั่นคือ หมอบอกว่าต้องงดโน่น คุมนี่่

น้องสามคนบอกแก่ลูกเขาว่า พี่น่ะแก่แล้วยังลำบากอีก ต้องเดินทาง ไปกินอะไรก็ไม่รู้ หมอก็ไม่ยอมไปตรวจ เป็นลูกอย่างไงไม่ดูแล ดูตัวอย่างเขาสามคนซิ ตอนนี้สบาย ไปตรวจทุกเดือน มีหมอคอยดูแล จะเสียก็ตรงที่จะทานอะไรตามปากไม่ได้ นั่งไปไหนไกลๆไม่ไหวแค่นั้นแหละ

กรณีที่ ๓ ลูกสาวสองคน พาแม่ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย หมอให้เข้าทำการผ่าตัด เข้าคอร์สมะเร็ง มาหาหลวงพ่อนิพนธ์

สองคนนั่งเถียงกัน คนหนึ่งก็บอกว่า พาแม่มาทำไมที่นี่ สมัยนี้หมอเขาเก่งจะตาย เครื่องมือก็ทันสมัย น่าจะพาแม่ไปหาหมอดีกว่า อีกคนหนึ่ง ก็บอกว่า เขาก็อยู่ในวงการแพทย์ เห็นมามากแล้ว ไม่มีใครรอดสักคน จะมีก็แต่ที่นี่ที่เขาได้เห็นคนรอด จึงอยากให้แม่มาที่นี่

หลวงพ่อนิพนธ์จึงพูดให้พิจารณาว่า ความเชื่อ ความบ้าของเราที่มีอยู่ ก็จะพาตนและคนรอบข้างไปในสิ่งนั้น หากแต่การจะบ้าสิ่งใดก็ต้องพิจารณาเอาเหตุเอาผล

กรรมอันหนึ่งที่มนุษย์ไม่รู้ นั่นคือการพาพ่อแม่ที่ป่วยไข้ ไปในทางที่ผิด ท้ายที่สุด พ่อแม่ก็จบชีวิตลงทั้งที่ยังไม่ถึงพรหมลิขิต ไม่ว่าจะอ้างอะไรก็แล้วแต่ ผลอันนี้ทำให้ยามตัวเราวัยชรา ก็จะเป็นโรคและถูกพาไปในทางที่ผิดเช่นกัน จะปฏิเสธกรรมอันนี้ไม่ได้เลย

ทั้งสองคนก็พิจารณาเอาว่า หากอาการที่แม่เป็นยังไม่ถึงพรหมลิขิต หากแก้ถูกก็จะทำให้อยู่จนครบพรหมลิขิตได้ หากแก้ผิด แม่ก็จะตายก่อนพรหมลิขิต

การไปพบแพทย์ ตามความเชื่อความบ้าของตน ก็พิจารณาว่าผลของทางเลือกนั้น บังเกิดแก่ผู้ใดเป็นแก่นสารให้เห็น การมาที่นี่ ก็เช่นกัน มีผลที่เป็นแก่นสารให้เห็นบ้างหรือไม่

จะพาแม่ไปที่ใดก็แล้วแต่พิจารณา หากแต่สิ่งหนึ่งที่ควรคำนึง กรรมอันเกิดจากผลการกระทำย่อมรออยู่

ธรรมของพระภูมี หลวงพ่อนิพนธ์บอกว่า สวนกระแสโลก ใช้การดับทุกข์ ด้วยวินัยทุกข์ แค่คิดจะมา ก็ต้องเผชิญคำด่า คำว่าแล้ว เฉกเช่นพระโคดมทิ้งวังมาบวช ก็ต้องคำติฉินว่าลูกอกตัญญู ทิ้งพ่อ ทิ้งแม่ เมียและลูก .... แต่ผลสุดท้ายก็พิสูจน์ให้เห็นว่า สิ่งที่บ้านั้นถูก เราท่านจึงได้มีพระพุทธเจ้า

คนทั้งโลก เขาบ้าเอาเงินไปสู้กับโรค แต่แม่ชีเมี้ยน มาเสนอทางเลือกของพระภูมี ให้หลวงพ่อนิพนธ์มาชี้ช่อง เอาธรรมมานำตน ใช้ตนพึ่งตน เพื่อสู้กับโรค มันก็บ้าเหมือนกัน แต่บังเอิญเราท่านเชื่อ จึงมาบ้าพระพุทธเจ้าเหมือนกัน ... บ้าถูก บ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีจริง ผลถูกจึงเกิด

บ้าก็บ้าซิวะ แต่ไม่โง่... เริ่มก็ต้องทนคำด่า คำว่าไปก่อน แต่หัวเราะทีหลังดังกว่า วันที่ผลเกิด คนด่าบางทีอาจไม่อยู่ด่าแล้ว คนถูกด่ายังอยู่สบายดี

เหมือนป้าแตนคนเก็บใบยา ที่เป็นมะเร็งปอดตัดไปข้างหนึ่ง มีโอกาสได้ไปสวนสมุนไพร ถูกชักชวนให้ไปเก็บใบยา คนข้างบ้านบอกมึงจะบ้า ปอดมีข้างเดียว เดินยังจะไม่ไหวเสือกไปอาสาเก็บใบยา ... ผ่านมา ๘ ปี คนพูดที่ดูสบายดี ไม่เป็นอะไรตอนนั้น ไปซะแล้ว ป้าแตนยังพาปอดข้างเดียวไปเก็บใบยาจนทุกวันนี้

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44