วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ร่วมด้วยช่วยกัน

ทางออกที่แม่ชีเมี้ยนชี้ไว้ให้ นับจากถ้ำกระบอก คือการบำบัดยาเสพติด ที่ในสมัยนั้น ลูกศิษย์คือ ท่าน พ.ท.อรัญ เป็นผู้ดำเนินการติดต่อ ประสานงานกับสถานทูตสหรํฐให้ มาวันนี้ เส้นทางนี้ปิด เพราะจะทำการขอซ้ำไม่ได้

ดังนั้น คณะกรรมการปัจจุบัน หลังจากทราบข่าวเพื่อหาช่องทางนำเงินทุนนอกมาสนับสนุนเฉกเช่นถ้ำกระบอก เพื่อให้คนไทยได้มีสมุนไพรเป็นทางเลือก และได้ปริมาณ ก็ต้องเบนเป้าไปยัง โรคอื่นที่เป็นปัญหาระดับโลกแทน

จนกระทั่ง คนไข้สองผัวเมียที่เป็นมะเร็ง ซึ่งเป็นคนไทยแต่ไปอาศัยอยู่ในสหรัฐ ได้บินมาฟื้นฟูตนจนหาย มีลูกชายทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐ ได้สืบเสาะ และพบว่า ตอนนี้มีกองทุนที่สนับสนุนการรักษาโรคมะเร็ง ซึ่งในอดีตมีรัฐบาลจากหลายประเทศ ได้เคยส่งผลงานเข้ามาเพื่อขอการสนับสนุน แต่ยังไม่มีที่ไหนได้รับ เพราะไม่ผ่านการทดสอบ จึงเรียนกลับมายังหลวงพ่อนิพนธ์เพื่อส่งผลงานยื่นเสนอเข้าไป

มาวันนี้ การเก็บข้อมูลผู้ป่วยมะเร็งที่ผ่านการฟื้นฟูมา และประสพความสำเร็จ จึงมีความสำคัญ ในการที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยที่จะมาใช้ทางเลือกสมุนไพรแม่ชีเมี้ยนในอนาคต

วันนี้ ชมรมจึงได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งตัวผู้ป่วยเอง และที่สำคัญนั่นคือ ลูกหลานของคนไข้ที่เป็นหมอ ก็ได้ขันอาสามาเป็นผู้สัมภาษณ์เอง เพื่อเก็บข้อมูลให้ถูกต้องตามหลักทางการแพทย์

วันพฤหัส ก็จะมีแพทย์หญิง มาทำการสัมภาษณ์ ในขณะที่วันอาทิตย์จะเป็นแพทย์ชาย ร่วมกับทีมเป่าจินจง ของคุณปรียานุช ที่จะทำการเก็บข้อมูลเหล่านี้ เพื่อขอการสนับสนุนประการหนึ่ง และเพื่อทำเป็นสารคดี ให้คนที่มาทีหลังได้ศึกษา เรียนรู้ เพื่อเป็นกำลังใจ

หากแต่ประวัติศาสตร์ของศาสนา ก็ย่อมต้องมีหลายด้าน จนเกิดคำสุภาษิตที่พระพุทธเจ้าตรัสเป็นเครื่องเตือนใจคนมาแต่โบราณ

ผู้ป่วยหลายคน อาจวางเฉย ไม่สนใจในกิจกรรมนี้ หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า นี่แหละเป็นเหตุที่ทำให้เกิดสุภาษิต หนีเสือ ปะจรเข้ เพราะคนเหล่านี้ ที่แม้นว่าจะช่วยตนจนผ่านพ้นวิกฤตของโรคมะเร็ง แต่ทำตนวางเฉย กูไม่เกี่ยว กูไม่อยากยุ่ง กูรอดแล้ว คนอื่นช่างมัน พฤติกรรมเยี่ยงนี้ พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ขาดเสียซึ่งคุณธรรม ความเมตตา อันเป็นหลักพื้นฐานที่ใช้ค้ำจุนโลก

ธรรมจักรของศาสน์จะหมุนต่อไปไม่ได้เลย หากทุกคนคิดอย่างนี้หมด เหมือนพระพุทธโคดม เมื่อครั้งสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า หมดกิเลส พิจารณานิสัยมนุษย์ พิจารณาธรรมของตน เห็นว่ามนุษย์คงทำได้ยาก จึงตัดสินพระทัยอดอาหารเพื่อเข้านิพพาน

แต่เมื่อฟ้าดินให้สติ จึงกลับมาฉัน และเริ่มโปรดสัตว์ อาศัยเมตตาอันมหาศาลนั่นเอง

หน้าที่หนึ่งของพระอรหันต์ จึงต้องแยกย้ายกันออกไปโปรดสัตว์ ให้เป็นทางเลือก ไม่บังคับว่าจักต้องนับถือศาสนาพุทธ พิจารณาชอบก็เอาไปปฏิบัติ ศาสน์จึงขจรขจายไปทั่วโลก

เฉกเช่นกัน ธรรมหมวดสมุนไพร หากผู้ที่ช่วยตนเห็นแก่ตน ไม่ทำตนเป็นพระมาลัยโปรดสัตว์แล้วไซร้ เท่ากับปิดทางคนให้มีโอกาสได้เข้ามาสัมผัส มาได้โอกาสเช่นเดียวกับตน

ผลอันนี้ มีความหมายเช่นไร หลวงพ่อนิพนธ์อรรถาธิบายว่า จะขาดเสียซึ่งคุณสมบัติ คือ ความมีเมตตา ซึ่งครั้งหนึ่งตนก็เคยได้รับเมตตาจากผู้อื่นเช่นกัน กรรมอันนี้จักย้อนมา แม้นจะหนีพ้นมะเร็ง ก็เกิดโรคอื่นแทน จึงเป็นที่มาของภาษิต หนีเสือ ปะจรเข้

ด้วยเหตุนี้เอง พระภูมี จึงสอนการทำตนเป็นพระมาลัย เพื่อให้ผู้ใช้ธรรมสมุนไพรหลังจากช่วยตนแล้ว หนีเสือแล้ว จักได้ไม่ต้องเจอจรเข้อีก ด้วยการทำตนให้มีผลแก่ผู้อื่นต่อไป เป็นวัฐจักรที่ไม่รู้จบรู้สิ้น เกิดบุญคุ้มตรองตนไปตลอดนั่นเอง

ไม่ใช่คำขู่ แต่เอาพุทธประวัติมาให้พิจารณา ไม่อยากทำตนเป็นพระมาลัยก็ไม่ว่า ... เพราะที่นี้ไม่มีค่าตอบแทนใดๆ นอกเสียจากบุญอันเกิดจากการทำตามคำสอนของพระภูมีเท่านั้นแล

หมอยังโดด ขออนุญาติร่วมวง พร้อมกับคำกล่าวที่กล่าวแก่หลวงพ่อนิพนธ์ว่า ไม่เคยเห็นที่ใดในโลกที่จะรวมคนไข้มะเร็งมาไว้ในที่เดียวกันมากขนาดนี้ ... นี่แค่โหมโรง ตอนนี้ ยอดเฉพาะคนป่วยมะเร็ง แปดร้อยกว่าคนแล้ว

บทสรุปที่หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวคือ หน้าที่ของพระมาลัย คือ แสดงตนเพื่อให้ผู้อื่นได้พิจารณา อันเป็นการให้โอกาส ให้กำลังใจ ที่จะใช้หนทางบุญของพระพุทธเจ้าเพื่อช่วยตน เมื่อกล่าวแล้วผู้ฟังพิจารณาเลือกหรือไม่ ไม่จำเป็น ... กระนั้นก็ตาม ต้องมีคนที่เชื่อและทำตาม แล้วประสพผล เป็นรุ่นๆต่อไป เหมือนการบำบัดยาเสพติดในยุคถ้ำกระบอก

กงล้อธรรมจักรจึงเคลื่อนไปด้วยแรงแห่งเมตตานี้... ผลที่เกิดย่อมมหาศาล พาหนีจรเข้ได้นั่นเอง ... เพราะคนมีเมตตา มีคุณธรรมของพระภูมี คุณสมบัตินี้ ..กรรมเขาไม่ยุ่ง


ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44