ไก่ได้พลอย เป็นสุภาษิต ที่ทำให้เราได้เห็นการเปรียบเทียบอย่างชัดเจน กับภาพที่ปรากฎ ในการทำกิจกรรมต่างๆ ในชมรม
หลวงพ่อนิพนธ์ จึงมักสอนเสมอว่า เพราะคนที่มาไม่รู้ว่า สิ่งต่างๆที่ทำ มีผลต่อชีวิต มหาศาลเพียงใด ค่าของการกระทำดั่งพลอย จึงไร้ค่า มองไม่เห็น สู้ข้าวเปลีือก คือของตลาดนัดไม่ได้เลย มันถูก ซื้อไปกินก็ดี ซื้อไปขายก็กำไร
เมื่อคิดดังนั้น การกระทำจึงไม่เน้น ไม่มีสติควบคุมตัว จากการกระทำที่สูง สามารถยกชีวิตตนจากภัยกรรมภัยเวรได้ จึงกลายเป็น การกระทำที่ธรรมดา เหมือนปกติทัวไป อยากมาก็มา อยากคุยก็คุย
ผลก็คือ ความตั้งใจเดิม ที่มาเพื่อหาชีวิต เพราะมีชีวิต จึงมีทุกสิ่ง หากไร้ชีวิต สิ่งต่างๆ ก็ไม่รู้กลายเป็นของใครแล้ว กลายเป็นยอมทิ้งชีวิต ไปหาสิ่งอื่นก่อน ... มาเพื่อของถูก มาเพื่อหาเพื่อนคุย มาเพื่อ... ช่างน่าเสียดายนัก
ทั้งๆที่ความเป็นจริง สิ่งเหล่านั้น ไปหาที่ไหนก็ได้ แต่ชีวิต ... ไม่มีที่อื่นให้หาแล้ว นอกจากแผ่นดินของแม่ชีเมี้ยน
จึงไม่เข้าใจว่า คนเหล่านั้น มาให้เสียเวลา เสียเงิน เพื่ออะไร ... สำคัญที่สุด เปลืองสมุนไพรโดยหาผลไม่ได้เลย ...
บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็น ว่า คนเหล่านั้น ประมาทเกิน มิสำนึกเลยว่า สิ่งที่กำลังสู้อยู่คือ กรรม ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ ปกครองมนุษย์ ที่สำคัญ หาคนในโลกนี้ ที่มีความรู้ ความสามารถ เอาชนะไม่ได้เลย จะมาชนะด้วยการกระทำแบบนี้หรือ
กว่าจะซึ้ง ก็ยามใกล้หมดลม หมดกำลัง ... กลับมาบอกลูกหลานไม่ได้แล้ว .... ตัดสินใจเลย อยากได้ชีวิต ก็ทำ ไม่อยากได้ ไม่อยากทำ ก็ไปหาแนวทางที่ชอบ หาหมอ หาเจ้า .... ไม่ว่ากัน ตามสบาย
คนเหล่านั้นไม่กลัวกรรม แต่คนที่นี่ หลวงพ่อนิพนธ์สอนให้กลัวกรรม เขาจึงกลัวว่า คนเหล่านั้น ที่มีพฤติกรรมท้ากรรม มันจะมาตาย มาเป็นอะไรในสถานที่นี้ ให้คนอื่นที่ไม่เข้าใจ ไม่รู้ ในการกระทำของคนเหล่านั้น ใจตก จนหลุดลอยเสียโอกาสไป ... ไม่แปลกเลย ที่ทำไมแค่คุย อ่านหนังสือ เล่นโทรศัพท์... จึงถูกว่า และเป็นไปได้ เขาไล่เลย ...
หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นเสมอ อยู่ใต้ฟ้าอย่าท้าฝน เกิดเป็นคนอย่าท้ากรรม ... ถ้าคุณเป็นคนไม่กลัวกรรม ที่นี่ไม่เหมาะกับคุณ ... เชื่อเถอะ เพราะมาแล้วจะเสียอารมณ์ ที่ถูกดุถูกว่า ได้ยินได้ฟังอะไร ก็ขัดเคืองนิสัยสันดานไปหมด ... เพราะมันรับไม่ได้