ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557
จดหมายน้อยจากแดนไกล
ครอบครัวเล็กๆ สามคนพ่อแม่ลูก น่าจะเป็นครอบครัวที่มีความสุข เพราะล้วนแล้วแต่มีการงานธุรกิจที่มั่นคง และอยู่ในประเทศที่หลายคนฝันอยากอยู่อยากไป นั่นคืออเมริกา
หากแต่ความสุขเริ่มลดน้อยถอยลง เมื่อฝ่ายแม่ป่วยเป็นมะเร็ง และต่อมาไม่นานฝ่ายพ่อก็เป็นเช่นเดียวกัน
ความทุกข์เริ่มเข้ามาบดบังครอบครัว หลังจากการรักษาด้ว จากที่มั่นใจว่าวิชาการแพทย์ทันสมัย ลูกชายเริ่มจะหมดหวังลงทุกวัน กับอาการของแม่ที่ทรุดลงทุกวัน ในขณะที่พ่อก็แย่ลงตามมาติดๆ
ครอบครัวเข้าสู่วิกฤตเมื่ออาการของแม่มาถึงขั้นที่ 4 หมอให้คำอมตะคือทำใจ ในขณะที่อาการของพ่อก็เข้าขั้นที่ 3 คำสุดท้ายที่หมอให้คือ คิดว่าทางไหนพอช่วยได้อยากลองอยากทำก็ไป
ความหวังสุดริบหรี่ในการรักษาพ่อแม่ มาถึงจากเพื่อนคนไทยส่งข่าวมาให้ลองมาหาหลวงพ่อนิพนธ์ การตัดสินใจครั้งสำคัญของครอบครัวจึงเกิดขึ้น สรุปว่าแม่อาการหนักที่สุดให้แม่ลางานมา 4 เดือน มาลองก่อนสามคนจึงหอบหิ้วกันมา
4 เดือนแห่งการทุ่มเท และการเฝ้ารอฟังข่าวของสามีและลูกในการมาครั้งนี้ ข่าวที่ได้รับจากแม่ทุกสัปดาห์คือสภาพที่ดีขึ้น แม้นจะมีอาการปรากฎบ้างให้ต้องทน จนพ้นสามเดือนที่มาอยู่ในความดูแลของหลวงพ่อนิพนธ์ก็แทบจะเหมือนคนปกติ เมื่อครบกำหนดสี่เดือน สภาพของแม่ก็ไม่เหลือเค้าให้เห็นแววคนใกล้ตายเลย
แม่กลับอเมริกา และตรวจเช็คร่างกายทุกอย่างสมบูรณ์ ไม่มีเชื้อมะเร็งร่างกายปกติ สร้างความยินดีแก่ครอบครัว ทั้งหมดจึงตัดสินใจส่งพ่อ ที่เป็นมะเร็งเช่นกันมา
ด้วยอาการที่ยังไม่เลวร้ายมาก ผ่านสามเดือนฝ่ายพ่อก็บินกลับ และตรวจร่างกายผ่านฉลุยเช่นเดียวกับแม่
ความยินดีอันสุดประมาณบังเกิดแก่ครอบครัวนี้โดยเฉพาะลูกชายที่ทำงานใน UN นั่งปรึกษาหาวิธีตอบแทนคุณหลวงพ่อนิพนธ์เพราะการหายของพ่อและแม่ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เลย แถมยังได้ที่พักที่กินฟรี
สิ่งที่พวกเขารู้คือค่าใช้จ่ายอันมหาศาลที่หลวงพ่อนิพนธ์ต้องแบกรับ ดังนั้นจึงเสาะแสวงหาแหล่งทุนระดับโลกให้ ในที่สุดก็ทราบว่ามีการประกวดโครงการระดับภาคพื้นเอเซีย เพื่อขอการสนับสนุน จัดโดย CNN เป็นหัวเรือใหญ่ปีที่แล้วโครงการช่วยเด็กกำพร้าในอินเดียได้ไป
ครอบครัวเขาจึงเห็นว่าหากส่งโครงการของหลวงพ่อนิพนธ์เข้าไปน่าจะได้รับการสนับสนุนค่อนข้างจะแน่นอน เพราะมีผลต่อมนุษยชาติทั้งหมด จึงขออนุญาตและใช้ข้อมูลของพ่อและแม่ที่ได้รับการรักษาตั้งแต่เริ่มเป็นข้อมูลในการยื่นเรื่อง
ผลการพิจารณาโครงการเบื้องต้น คณะกรรมการรับเรื่อง จึงมาเก็บข้อมูลและทำเป็นสารคดีสั้นๆ ส่งเข้าประกวด ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 27 มิถุนายน ศกนี้
จดหมายน้อยจากอเมริกา จึงแจ้งเรียนมายังหลวงพ่อนิพนธ์ทราบ ท้ายจดหมายเขียนมาว่าพวกเขารู้ดีว่าโครงการนี้อาจมีเงินรางวัลไม่มากนักหรือเพียงพอให้กิจการดำเนินไปได้ตลอด กระนั้นก็ตามหากโครงการใดที่ผ่านเข้ารอบ จะได้รับการพิจารณาให้ได้รับการช่วยเหลือเป็นกรณีไป จากมูลนิธิที่ให้โดยไม่หวังผลที่ให้การสนับสนุนโครงการนี้ ซึ่งเป็นมูลนิธิระดับโลก
1 ใน 3 ของมูลนิธิที่ว่า ได้แก่ มูลนิธิของ Bill Gate เจ้าของผลิตภัณฑ์ Microsoft ดังนั้นพวกเขาจึงหวังลึกๆ ว่า โครงการของหลวงพ่อจะชนะการประกวดในระดับเอเซีย และได้รับการพิจารณาจากมูลนิธิเหล่านี้ในการให้การสนับสนุนต่อไป
มารอลุ้นอันนี้ดีกว่า ขืนรอรัฐบาลไทย เหมือนรอบอลชายไทยไปบอลโลก นั่นแล
ข่าวนี้ก็น่าดีใจ แต่หากฟ้าเขาจัดสรรมาให้ ในทางกลับกันหลวงพ่อนิพนธ์ก็บอกว่านี่คือสัญญาณว่าความเลวร้าย และมหันตภัยกำลังใกล้เข้ามาแล้วเช่นกัน อันหมายถึงยุคเข็ญก่อนที่พระพุทธเจ้าจะอุบัติมาดับนั่นเอง
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกระตุ้น ชี้ให้เห็นว่าต้องเตรียมพร้อม เรื่องโรคใช้สมุนไพร หากแต่เรื่องภัยพิบัติสิ่งเดียวที่ช่วยได้คือ ความดี ที่นี่จึงรณรงค์ให้มาทำตนเป็นคนดี ตามครรลองของพระภูมีกัน