คำสอนที่หลวงพ่อนิพนธ์มีให้เสมอ นั่นคือ ธรรมที่มีอำนาจเป็นของเป็น หรือเรียกธรรมเป็น มีเกิดมีดับ นั่นหมายความว่า สิ่งที่บัญญัติให้ทำ มีกำหนดระยะเวลา ผลบุญที่เกิด ก็มีแต่ช่วงนั้นเท่านั้น หากแต่เมื่อล่วงเลย แแม้นการกระทำอย่างเดีย,วกัน ผลก็แตกต่างกัน
จึงไม่ต้องแปลกใจ ไม่ว่าในสมัยใดๆ ผู้คนก็จึงจ้อง รอว่าเมื่อไหร่พระพูทธเจ้าจักเปิดบาตร เพราะนั่นคือนาทีทองแห่งผลบุญ ซึ่งไม่มีบ่อย หรืออาจมีแค่ครั้งเดียว
ตัวอย่างที่มักถูกหยิบยกมาให้พิจารณานั่นคือ ผลแห่งข้าวมธุปายาส ของนางสุชาดานั่นเอง
ภาพที่เห็นนะวันนี้ ก็ดูผลจากเถ้าแก่กิจการยิงเข็มตอม่อ ที่ได้รับอานิสงฆ์ จากอาคารมะเร็ง ที่หลวงพ่อนิพนธ์ อนุญาตให้ทำ ผ่านไม่ถึงเดือน ทิ้งรถเข็น มาวันนี้เดินปร๋อทิ้งไม้เท้า
ใครที่อยู่ใกล้ เห็นก็อยากทำมั่ง วันนี้เราท่าน จึงมี เถ้าแก่ที่รับจ้างเชื่อมงานระดับประทศ พาลูกน้องมาเชื่อมโครงอาคารให้ฟรี มีเถ้าแก่เนี้ยโรงแผ่นพื้นสำเร็จ มาอุทิศรับทำแผ่นพื้นมาให้
ผลจากสิ่งที่เขาเห็นเถ้าแก่ยิงเสาเข็มที่รวดเร็ว จึงเป็นโอกาสให้พวกเขาอยากทำบ้าง เพื่อคลี่คลายมะเร็งของเขา ที่แม้นมีเงินมากมาย แต่วันนี้หมอทิ้งแล้ว
เสียดายโอกาสอย่างนี้ นานๆจึงจักมีสักครั้ง คนทั่วไป หลวงพ่อนิพนธ์ก็เปิดบาตรน้อยๆ คือ บาตรสมุนไพร
แต่ประตูที่กำลังเล็กลง ใกล้จะปิด ที่ทุกคนทำ เริ่มจากความลำบากในการมา การอยู่ ดังเช่นในยุคสวนสมุนไพร ที่ต้องมาแต่เช้า เจออากาศร้อน ไม่มีร่มมากพอให้พัก สมุนไพรก็ได้น้อย
ดูเป็นความยากลำบาก แต่ผลแห่งสิ่งนั้น ก็มีผู้คนช่วยตนได้มากหลาย มาวันนี้ ความลำบากในด้านสถานที่ ก็ลดน้อยถอยลง เหลือเพียงความร้อนในห้องสวดมนต์ กับรสชาดของสมุนไพร หากแต่ปริมาณก็ยังน้อย กระนั้นก็มากกว่ายุคสวนสมุนไพรมากนัก ผลที่ได้ก็ระดับหนึ่ง
อีกไม่นาน ความลำบากนี้ก็จักหายไป มีอาคารที่นั่งสวดมนต์อย่างสบาย ไม่ร้อน สมุนไพรก็แปรรูปจนทานง่าย และมีปริมาณที่มากพอ คำสอนที่หลวงพ่อนิพนธ์ม้กเตือนอยู่เสมอว่า ในอดีตใช้สมุนไพรนำ พฤติกรรมนิดหน่อย ผลที่ได้คือคนที่สามารถยืนระยะ ต้องใช้เวลานาน คนส่วนใหญ่จึงไม่ประสพผล
ในเมื่อสถานที่พร้อม ปริมาณสมุนไพรพร้อม ยุคจึงเปลี่ยนมาเพื่อเอาผล นั่นคือพฤติกรรมต้องมาก่อน สมุนไพรตามมา
นั่นคือ อีกไม่ช้าภาพของคนที่มาจะเด่นชัด กฎกติกาข้อบังคับ จะเริ่มทยอยมา เพื่อคัดกรองให้เหลือแต่คนที่ อยากได้ อยากช่วยตนจริงๆ ผลแห่งความสำเร็จก็จักเป็นรูปธรรมเด่นชัด นั่นคือ หากไม่ใช่พรหมลิขิต ทุกคนต้องหาย เมื่อทำได้
ยุคมารับสมุนไพรเพียงอย่างเดียวใกล้จะจบลงแล้ว ใครยังไม่เริ่มฝึกเปลี่ยนพฤติกรรม ก็จักลำบาก คุณจะกลายเป็นยักษ์หน้าโบสถ์
ถึงวันนั้น บาตรน้อยๆ ก็ไม่มีให้ทำ รสชาติของสมุนไพร ก็ไม่มีให้ทน มีแต่พฤติกรรมล้วนๆ เอามาโชว์ว่าอยากได้ แล้วทำ ทำได้รับสมุนไพรไปกิน ผลก็จักมหาศาล ที่สำคัญไม่เยิ่นเย้อ เห็นผลได้ในเร็ววัน ไม่ต้องรอจนท้อ เมื่อไหร่จะหายสักที
นั่นเป็นงานยากสำหรับเราท่าน หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวเสมอ ได้สักแสนคน ก็เก่งแล้ว ... แล้วคำในสมัยพุทธกาลจะดังก้องขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้เห็นภาพว่า ทำไมจึงได้สาวกแค่นั้น "ก็ธรรมของพระภูมี แม้นจักดีสักฉันใด แต่มันทำยาก จึงกล่าวกันว่า ดีๆแต่ทำไม่ได้"
คนส่วนใหญ่ก็ยังไปหาโรงพยาบาลอยู่นั่นเอง สะดวก สบาย จ่ายเงินอย่างเดียว ไม่ต้องทำอะไร แต่ก็มีคนกลุ่มหนึ่งละ ที่ทำได้ แล้วมาเดินอวดชาวโลกให้เห็นพุทธพจน์ ว่า "ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ" มีจริง และทำได้
ยุคหิ้วกระติกน้ำแข็งกำลังจะผ่านไป ยุคคนดีศิวิไลซ์ กำลังจะมาแทน คนดีเหล่านี้ เชื่อพระพุทธเจ้า จึงเดินตามรอยคำสอนที่แม่ชีเมี้ยนนำมา กลัวกรรม จึงไม่ประมาท มีสติพึงระลึก ที่จะให้สุขแก่ผู้อื่นอยู่เสมอ เว้นซึ่งการกระทำให้ทุกข์แก่ผู้อื่น เพราะรู้แจ้งเห็นจริงแล้วว่า ใครทำใครได้
ยุคจะเปลี่ยนไปแล้ว เราท่านเตรียมหรือยัง เริ่มจากยามเข้าห้องสวดมนต์ เข้ากระโจม เข้ารับสมุนไพร รักษากรรมฐานได้ สงบได้ นี่คือจุดเริ่มพฤติกรรมการช่วยตน ที่หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้