ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2557
หัวหมู่
เสียงลือเสียงเล่าอ้างอันใดพี่เอย ....อุปมาเหมือนคนเดินในทะเลทราย หาต้นไม้แหล่งน้ำไว้หลบพัก สิ่งที่เห็นสิ่งที่พบ ได้แต่สร้างความดีใจชั่วครู่ชั่วยาม เพราะเมื่อเข้าไปหาได้สัมผัส กลายเป็นภาพลวงตา
หลังจากการรวมกลุ่มกันในหมู่เศรษฐีอเมริกันที่ประสพปัญหาชีวิต โดยทุกคนที่มารวมกันกว่าร้อยชีวิตล้วนแล้วแต่มีญาติมิตรที่รักใคร่ที่มีปัญหาสุขภาพและไม่สามารถจะแก้ได้ ไม่ว่าจะทุ่มเทเงินไปสักฉันใด สรรหาวิธีการต่างๆ ที่คนในกลุ่มได้ยินได้ฟังมา ก็ล้วนล้มเหลว ดั่งภาพหลอนในท้องทะเลทราย
คนที่รัก กำลังนับวันถอยหลัง จากไปแล้วบ้าง กำลังทยอยตามกันไปบ้าง คนในกลุ่มแม้นจะมีเงินสักฉันใดก็ได้แต่เฝ้ารอปาฏิหาริย์
มาวันนี้ หนึ่งในกลุ่มได้รับเสียงเชิญชวน จากมิตรสหายอีกฟากโลกให้มาลองสมุนไพรแม่ชีเมี้ยน เสียงแผ่วเบาที่ลอยไปถึง จึงถูกตรวจสอบ และบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาดู
ผ่านไปสามสี่เดือน เมื่อผลการตรวจสอบความน่าเชื่อถือปรากฎ ทั้งจากตัวบุคคลและข้อมูลสถานทูตเดิมของสหรัฐ สัปดาห์หน้าที่จะถึง คนไข้คนแรกของกลุ่มจะถูกส่งมาทดลองทางเลือกสมุนไพรแม่ชีเมี้ยน
คนแรกที่มา ถือเป็นตัวแทนกลุ่ม และคาดหวังว่าน่าจะได้ผลเป็นที่น่าพอใจ แลหลังจากนั้นคนในกลุ่มก็จะทยอยส่งคนไข้ของตนตามมา
เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับ กลุ่มจึงได้จัดซื้อรีสอร์ทแห่งหนึ่งไว้มูลค่าประมาณร้อยล้านเพื่อการนี้ที่ไทรโยค
คนแรกที่จะมา ป่วยด้วยโรคหัวใจ เข้าขั้นวิกฤต หมอให้วาจาอมตะ นั่นคือหมดทาง และรอวัน
สามีซึ่งรักภรรยามาก ก็ไม่ได้หวังผลสูงประการใด จากคำของหมอที่บอกมา จึงขอแค่ช่วยยืดให้ภรรยาอยู่กับเขานานหน่อยก็ยังดี
งานนี้จึงกลายเป็นงานง่ายสำหรับหลวงพ่อนิพนธ์ เพราะด้วยสมุนไพรหากทานได้ สิ่งนี้ก็ได้ อยู่แล้ว หากแต่จะถึงขั้นหายก็ต้องดูรายละเอียดพฤติกรรมกันอีกที
บทสรุปเรื่องนี่ หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นว่า แล้วเราคนไทยที่ไม่มีเงินเท่าเขา ยังจะดิ้นไปหาหมอ หายาเคมีกันทำไม ถ้าช่วยได้ คนพวกนี้ไม่ว่าแพงแค่ไปนเขาซื้อแน่
ฝรั่งวิ่งจากอเมริกามาหาสมุนไพรเมืองไทย แต่คนไทยหนีสมุนไพรไปหายาฝรั่ง นี่ตลกฝืดที่เป็นจริง เมื่อไหร่คนไทยจะตาสว่างกันเสียที