ในขณะที่คนไทย กำลังทำตัวเป็นไทยเฉย แต่หารู้ไม่ว่าคนรอบนอกเขาตื่นตัวขนาดไหน
แค่ใกล้ๆ พื้นที่ ตอนนี้ เรื่องของชมรมคนรักสุขภาพ กลายเป็น talk of the town โจษจันร่ำลือ ในพม่า โดยเฉพาะในคณะรัฐบาลและฝ่ายค้านของพม่า ที่ตื่นตัว และรวมหัวกัน ให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่หนึ่งละ
และในวันงานรำลึกคุณแม่ชีเมี้ยน เราท่านอาจจะได้เห็นคณะใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ที่ขออนุญาตหลวงพ่อนิพนธ์บินมาเพื่อคุยความ รวมทั้งนำคนไข้มะเร็งมาให้ทำการรักษา นี่ก็เป็นอีกคณะหนึ่ง
โอกาสเดียวกันนี้ คนไข้ชาวสก็อตแลนด์ ก็จะพาคนไข้บินมารักษาด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เมื่อสอบความข่าวคราวที่มา ก็พบว่า คนไข้ที่จะมานี้ เป็นเพื่อนกับโรเบิร์ต วิศวกรชาวสก็อต ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย โดยผ่านการผ่าตัดของหมอมาหลายครั้ง จนหมอบอกว่าไม่สามารถผ่าได้อีกและกำหนดว่า คงจะอยู่ได้ไม่เกิน ๓ เดือน ปรากฎว่า คนไข้กลุ่มนี้คือ เพื่อนที่มารับโรเบิร์ตกลับ หลังจากมาฟื้นฟูสุขภาพครบ ๓ เดือน และเห็นว่า โรเบิร์ตแข็งแรง กลับไปทำงานได้ และอยู่อย่างปกติจนทุกวันนี้ จึงติดต่อขอมา
ยังมีคนไข้อีกหลายประเทศ ที่บินมาและรับการรักษาอยู่ แต่หลวงพ่อนิพนธ์ก็ไม่อยากให้เป็นที่รับรู้มากนัก
คนเหล่านั้นเห็นอะไรในที่นี้ ... ลองพิจารณา
ฉะนั้นจงภูมิใจ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเขียนหน้าประวัติศาสตร์ วันใดที่ลูกหลานได้อ่าน ก็จะบอกพวกเขาได้ว่า เราท่านก็เป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์นั้น ... เป็นผู้ทานที่ดี เป็นผู้ให้การสนับสนุน หิ้วมะกรูด มะพร้าว หิ้วขวดมาให้ ในตอนนั้น ... และที่สำคํญ ได้กลายมาเป็นคนดี ตามคำสอนของพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยนนำมา
ที่สำคัญกว่า นั่นคือ ยามใดที่ธรรมคำสอนของพระภูมีองค์ใหม่ ปรากฎ ก็จักภูมิใจได้ว่า สิ่งที่ทำอยู่หาได้ผิดแผกจากแนวอันนั้นเลย