วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ดูรอย


ศาสตร์สมุนไพร มีที่มาที่ไป มีประวัติศาสตร์ ไม่ใช่ยาผีบอก ไม่ใช่นั่งเทียน นึกฝันเอาเอง ไม่ใช่คิดค้น สรุปความว่า ไม่ได้เกิดจากความคิดมนุษย์ทั่วไป ที่อยู่ใต้กรรม หากแต่แม่ชีเมี้ยนกล่าวว่า ศาสตร์อันนี้ มนุษย์เหนือโลก เหนือกรรม คือ พระภูมีทรงบัญญัติขึ้น จึงมีอำนาจชนะกรรม ชนะโรคได้

เพื่อธรรมหลุดพ้น เจ้าชายสิททัตถะ ต้องทิ้งเมีย ทิ้งลูก ทิ้งวัง มานอนกลางดิน กินกลางทราย เสียสละตนอันมหาศาล จึงบรรลุ และเมื่อบัญญัติธรรมหมวดสมุนไพร ก็ทรงสอนให้ แม้นว่าสิ่งที่ให้จะสูงส่ง ก็ให้โดยไม่มีราคาค่างวดแม้นแต่รูปีเดียว

เมื่อแม่ชีเมี้ยนนำมาถ่ายทอด ผู้ที่รับ จักเดินรอยอื่นได้อย่างไร ก็ต้องเสียสละตน และทำให้สถานเดียว จึงจะรักษาซึ่งอำนาจธรรมไว้ได้ เพราะแม้นจะเป็นของให้ แต่แม่ชีเมี้ยนก็ทรงเตือนว่า พระภูมีสาปธรรมของท่านอันมหาศาล นั่นคือ "ผู้ใดทำให้ ผู้นี้นยิ่งเจริญ ผู้ใดทำขาย ยิ่งทำยิ่งฉิบหาย"

แปลกลายๆ ก็หมายความว่า ผู้ที่จะมาเรียนรู้ แล้วนำไปทำ ก็ต้องแลกด้วยชีวิต แบบสุดขั้ว ทำถูกผลถูกมหาศาล ทำผิดฉิบหายแน่ ไม่เว้นแม้นแต่ชีวิตตัวเอง

คำเตือนสุดท้ายที่แม่ชีเมี้ยนทรงสอนหลวงพ่อนิพนธ์ จึงกล่าวว่า "ให้ดูตัวอย่างพี่ชายเอ็ง"

สัญญา หรือ สัจจะ นี้เอง ที่ทำให้ไม่ต้องเกรงว่า ตำรานี้จะมีใครมาขโมยเรียน หรือ สมุนไพรที่ทำ จะมีคนมาลักขโมย เอาไปขาย

เมื่อมาถึงผู้ทาน ที่จะเป็นผู้ที่รับอำนาจธรรมหมวดสมุนไพร หลวงพ่อนิพนธ์จึงมักสอนให้ทำตัว เป็นเสมือน กิ่งทอง ใบหยก เข้ากันได้ ด้วยการลดพฤติกรรมบางสิ่งบางอย่าง เริ่มต้นจากเอกลักษณ์ของผู้มีธรรม นั่นคือ ความสงบ ไม่ดิ้นไปตามกิเลส ตามความอยากของตน

หากแต่การควบคุมตัวในระยะแรก ก็ย่อมเป็นการยากอยู่ ดังนั้น เพื่อให้ทุกคนได้ทำ ก็ใช้การสวดมนต์ ภาคบังคับ นั่นคือ บังคับให้สงบ บังคับให้ใจนิ่งกับบทสวดมนต์ และบังคับ ให้พูดสิ่งดีๆ นั่นคือ ธรรมคำสอนของพระภูมี

ถึงไม่ได้มาก อย่างน้อย การกระทำก็สำเร็จเป็นตน เป็นมรรคเป็นผล สักช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก็ยังดี

เพราะจะหวังในการสอน แล้วให้ควบคุมนิสัย ก็ไม่รู้ว่าจะฟัง แล้วไปพิจารณา และทำ เมื่อไหร่ เหมือนข้าวรอฝน ยากจะหวังได้ แม้นว่าผู้ใดทำ จะเกิดผลอันมหาศาลก็ตาม

นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราคิดว่า ทำไมพระโคดมจึงคิดอดอาหาร เพราะพิจารณาธรรมของท่านแล้ว ทำได้ยากยิ่ง เฉกเช่นหลวงพ่อนิพนธ์ ที่ชอบปลีกวิเวก แต่กลับถูกแม่ชีเมี้ยนให้มาทำสมุนไพร ก็ล้วนแล้วแต่ต้องมาหาบุญกับมนุษย์ เพื่อช่วยตน นั่นหมายความว่า ธรรม หรือ ธรรมชาติ ต้องมีคู่ อยู่โดดเดี่ยวจักไม่เกิดผล

เมื่อพิจารณาคำสอนที่ได้ ทางเดินสายธรรมหมวดสมุนไพร จึงเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องทำตนเป็นพระเวสสันดร ให้สุขกับผู้อื่น หากจะหวังผลสุขที่ย้อนกลับมายังตน ด้วยการหายโรค

ความคิดที่ไม่อาจเป็นจริงได้ นั่นคือ การเลือกที่จะมาทานสมุนไพรเพียงอย่างเดียว โดยไม่สนสิ่งอื่นใด จึงเป็นความคิดที่ผิด แม้นผลจากการทาน จะบังเกิด ก็หาใช่ความปลอดภัยแก่ชีวิตไม่ เพราะท้ายที่สุด ก็ไปไม่รอด ด้วยภาษิต หนีเสือ ปะจรเข้

เราจึงไม่แปลกใจ ในหลวงพ่อนิพนธ์ ที่ไม่ท้อแท้เบื่อหน่ายในการสอน เพราะอยากให้ผู้ที่มาประสพผล หาใช่เพียงการหายโรค แต่ไกลไปถึงความปลอดภัยของชีวิต นั่นคือ มิใช่จะหวังรอดจากตายห่า แต่ต้องกลับไปตายโหง นั่นเอง

เพราะตัวอย่างนับจากอดีตถ้ำกระบอก มาจนทุกวันนี้ ก็มีนับไม่ถ้วน สำหรับคนที่คิดเช่นนั้น

วิกฤติของชีวิต ย่อมแลกด้วยการใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน ใครที่คิดว่าหายโรคแล้วชีวิตจะปลอดภัย คิดผิดมหันต์

ตัวอย่างของคนไข้ที่หลวงพ่อนิพนธ์ยกมาให้ฟังบ่อยครั้ง ก็คือ จับหยี ผู้ซึงเป็นโรคมะเร็งร้ายแรง นับว่าเป็นผู้มีมานะในการทานสมุนไพรอย่างดีคนหนึ่ง จนประสพผลสำเร็จในการหายมะเร็ง แต่หลวงพ่อนิพนธ์ก็มักกล่าวเตือนว่า ควรทำตนให้สุขแก่ผู้อื่นบ้าง อย่าวางใจในโรคที่หาย แล้วจะไม่เป็นอะไร

จับหยี บอกว่า ผมขอกลับไปทำธุรกิจก่อน ไว้มีเวลาจะมาทำ จะมาช่วย ไม่นาน ครอบครัวจับหยีก็ส่งข่าวมาว่า จับหยีประสบอุบัติเหตุตาย ขณะนั่งรถส่งของไปกับลูกน้อง ปรากฎว่า เมื่อถึงไฟแดง ลูกน้องเลี้ยวรถ จับหยีตกลงจากรถ ด้วยประตูปิดไม่แน่น ตกลงไปศรีษะกระแทกเสียชีวิต

ศาสตร์แห่งธรรมหมวดสมุนไพร มีต้นที่มาทุ่มเทแลกมา ด้วยชีวิต และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เป็นผู้มีธรรม ให้สุขแก่ผู้อื่น ... ไม่ว่าผู้ทำ หรือผู้ทาน จักหนีรอยนี้ไปได้อย่างไร ไม่มีทาง

ดังนั้น บทสรุปที่หลวงพ่อนิพนธ์สอน จึงมักชี้ให้เห็นว่า กิ่งทอง ใบหยก ที่ว่า นั่นคือ การเปลี่ยนตนเป็นปูชนียบุคคล ตามคำสอนของพระพุทธเจ้านั่นเอง ที่ดำรง เพื่อให้สุขผู้อื่น

ผู้ใดมีคุณสมบัติดังนี้แล้ว เมือมาทานสมุนไพร หากแม้นยังไม่ถึงพรหมลิขิต แม้นว่าหมอทั้งโลก จะบอกว่าไม่มีทาง ก็รอดได้ ดั่งปาฏิหารย์ ... ไม่สนว่าจะด้วยโรคอะไร

เพราะแม่ชีเมี้ยนทรงชี้ให้เห็นว่า โรคทุกชนิดพระภูมีตรัสรู้แล้วว่าเป็นบริวารของกรรม เมื่อธรรมของพระภูมีชนะกรรมได้ ย่อมหมายความว่าสามารถชนะทุกโรคได้อย่างแน่นอน ไม่ต้องสงสัย ....

ผลแพ้ชนะ จึงเป็นบทพิสูจน์ว่า ธรรมของพระภูมี เป็นเรื่องเฉพาะตน รู้ได้เฉพาะตน ทำอย่างไร ได้อย่างนั้น ผู้ทำได้ เท่านั้น จึงจักเป็นผู้ชนะ

และการชนะ ไม่ได้หมายถึงเฉพาะการดำรงอยู่ได้โดยปราศจากโรคเท่านั้น หากแม้นพรหมลิขิตถึงกำหนด นั่นก็คือหมดอายุขัย การตายด้วยการไม่มีโรคมาบีบเค้นจนตาย นั่นก็คือการชนะโรค ชนะกรรม เช่นกัน

ศาสตร์อันนี้ จึงมีค่ามหาศาล ควรค่าแก่การทุ่มเททำ เพราะเป็นลาภเพียงอย่างเดียว ที่สามารถนำติดวิญญาณไปได้ หาใช่จบกันชาตินี้ชาติเดียวไม่ ...

ศาสตร์ธรรมหมวดสมุนไพร หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นเสมอว่า เป็นการทานเพื่ออนาคต ... ไม่ว่าชาตินี้ หรือ ชาติหน้า ... เป็นการตัดสัญญาโรค ที่ตามติดเรามาทุกภพทุกชาติ เป็นสัญญาใหม่ ที่จะได้สังขารที่บริสุทธิ์ไม่มีโรค รอเราท่านอยู่

สติที่พระภูมีทรงทิ้งไว้ให้พิจารณา ... ในการเดินตามธรรมหมวดนี้ จึงตรัสว่า " ทุกข์วันนี้ สุขวันหน้า อย่าท้อใจ"

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44