วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ฟังรู้

องค์ประกอบที่สำคัญ ที่หลวงพ่อนิพนธ์มักบอกกล่าวย้ำเตือนเสมอ นั่นคือ การฟัง

เพราะผลผิดถูก หรือแพ้ชนะ ย่อมเกิดจากการกระทำที่ผิดถูก นั่นเอง แลการกระทำที่ทำ ย่อมเป็นผลสืบเนื่องจากความคิดความเข้าใจ และนำไปพิจารณา เพื่อสั่งให้ตนของตนกระทำ

จึงเห็นได้ว่า หลวงพ่อนิพนธ์ไม่เคยเบื่อหน่ายที่จะพูด แม้นจะพูดหลายๆ รอบก็ตาม และทุกวัน

หลายคนถามว่าทำไมไม่อัดเทป แล้วเปิดให้ฟัง คำอธิบายที่หลวงพ่อนิพนธ์ให้ก็คือ นั่นมันของตาย ของตายไม่มีฤทธิ์ ช่วยอะไรใครไม่ได้ การพูดสด เป็นของเป็นที่เกิดจากความเมตตา คุณธรรม เกิดผลทั้งผู้ให้และผู้รับ

เมื่อจุดเริ่มของผลแพ้ชนะ ผู้ใดไม่ฟัง การกระทำก็ไร้ผล ไม่ต้องใช้หมดดู ก็ทายผลได้เลย เข้าข่ายประเภทที่หลวงพ่อนิพนธ์จัดว่าพวกกินเล่น ทำใจได้เลยว่า เสียเปล่า

หากแต่อยากฟัง อยากรู้ ควรจะทำตนให้มีที่ว่างเปล่าในสมอง เตรียมรับสิ่งใหม่ เหมือน นักเรียนที่มาเรียนนั่นเอง

เมื่อฟังรู้ พฤติกรรมเราท่านก็จะเปลี่ยนไปในแนวทางของพระภูมีทีละน้อย เมื่อเริ่มทำก็จะคุ้นเคย แม้นทำแล้วจะทุกข สติที่เกิดจากเหตุผลก็จะย้ำเตือนให้อดทน

เรียกว่าอุปสรรคใหญ่นั่นคือ การทำใจยอมรับเหตุและผล

หลวงพ่อนิพนธ์จึงยกตัวอย่าง คุณหมอ ๒ ท่าน ที่มาฟัง แล้วยอมรับ ก็ก้มหน้าก้มตาทำตามคำสอนที่ได้ยินได้ฟัง เพื่อช่วยตน นั่นคือ ต้องลดทิฐิมานะของตน ลงอย่างมหาศาล

หมอท่านแรก ที่เป็นหมอรักษามะเร็ง แต่ตัวเองยามเป็นมะเร็ง ก็แก้ไขตัวเองไม่ได้ เมื่อมาใช้แนวทางนี้ ก็ใช้มานะอดทน ยืนหยัดทานสมุนไพร และยังทำตนให้สุขแก่ผู้อื่น ขนมะพร้าวมาให้ทุกสัปดาห์ ตามกำลัง และยังทำหน้าที่เผามะพร้าวให้คนไข้อื่นๆทานด้วย ... ผ่านเดือนปี หมอก็ช่วยตนจนหายมะเร็งจากแนวทางนี้ได้

หมออีกท่าน เป็นหมอจักษุแพทย์มือต้นๆ ของประเทศ ประสพปัญหาตา ก็แก้ให้ตนไม่ได้ ปรึกษาอาจารย์ของตน ที่เป็นจักษุแพทย์ระดับโลก ก็ส่ายหน้า มาวันนี้ หมอมาใช้แนวทางสมุนไพร ก็ทำตนเป็นประโยชน์ ดูแลคนเข้ากระโจม ทำความสะอาดกระโจม สภาพของตนดีขึ้น เห็นคุณค่าในแนวทางนี้ หมอก็เริ่มพาคุณแม่มา ญาติๆมา จนปัจจุบัน นั่งมาเต็มรถ ๖ คน

๑๔ คนฟังรู้ ฟังเข้าใจ นั่นหมายความว่า ทางหลุดพ้นจากโรค ก็คือการทำตนเป็นพระเวสสันดร ให้สุขแก่ผู้อื่น จึงไม่แปลกว่า ทำไมหมอทั้งสอง ยอมเก็บความรู้ของตน ไม่นำมาใช้ที่นี่ แล้วใช้ความรู้พระภูมีที่หลวงพ่อนิพนธ์สอน และทำตาม ... ผลของการเป็นพระเวสสันดร ทำให้หมอทั้งสอง แก้ไขฟื้นฟูช่วยตนเองได้

ก็ขนาดคนทั้งสองเป็นหมอ ยังลดตนมาล้างกระโจม นั่งปลอกมะพร้าว เผามะพร้าว ให้ใครที่ไม่รู้จักได้

หลายคน เราก็ไม่เห็นว่าจะมีสถานะอันใดมากมาย กลับนิ่งเฉย ...

จึงคิดว่าเหตุแห่งการนิ่งเฉย เพราะคนเหล่านั้น คิดแต่พึ่งผู้อื่น เมื่อมาสถานที่นี้ ก็คิดแต่พึ่งสมุนไพร จึงปิดกั้น ไม่ยอมฟังคำสอน เมื่อไม่ฟัง ก็ไม่มีสิ่งใดให้พิจารณา และต้องทำ เพื่อช่วยตน ...

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงย้อนอดีต แม่ชีเมี้ยน ทรงตรัสให้ฟังว่า เด็กจะรู้หนังสือ ก็ต้องมีครูสอนฉันใด การช่วยตนก็ต้องอาศัยผู้รู้สอนฉันนั้น จะมาแบบรู้ได้ด้วยตนเอง ทำเอง เป็นไปไม่ได้ ... เมื่อไม่มีความรู้ สิ่งทีทำจะมุ่งหวังผลในการทำ ย่อมเป็นไปได้ยากยิ่ง หรือ เป็นไปไม่ได้เลย

นี่จึงเป็นหลักในการเลือกคบคน หรือดูคนอย่างหนึ่งที่ศาสนาสอนไว้ คนใดที่แม้นแต่ตนเองยังไม่คิดช่วยตน ต้องหลีกหนีให้ไกลคนประเภทนี้ จะหวังให้เขามาช่วยเราเป็นไปไม่ได้แน่ คนที่บอกว่ารัก แต่ยามที่เราต้องช่วยตน กลับชักชวนให้กระทำในสิ่งที่ทำลายตน คนนั้นยิ่งน่ากลัว

หากเราท่าน กำลังอยู่ในกรรมฐาน คนที่รักเรา ต้องส่งเสริมเราให้ดำรงกรรมฐานอันนั้นได้ หากแต่มาทำให้กรรมฐานเราแตก ชวนเราคุย ชวนเราเล่น เมื่อกรรมฐานเสีย นั่นคือ ชีวิตที่จะแตกดับตาม จะเรียกคนที่ทำให้ชีวิตเราแตกดับว่าเป็นคนที่รักเราได้หรือ

เราจึงเห็นว่า อ้ายคนที่บอกรักท่าน กำลังฆ่าท่านอย่างเลือดเย็น นั่นคือ เชือดด้วยรอยยิ้ม แล้วพาท่านไปลงนรก

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงมักให้สติว่า "เวลาทุกข์ ทุกข์คนเดียว เวลาเจ็บ เจ็บคนเดียว ใครก็ช่วยไม่ได้"

หลายคนเบื่อที่จะฟัง แต่สำหรับเราฟังไม่รู้เบื่อ

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44