วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ศาสตร์ของธรรมชาติ

ใครที่เรียนรู้ธรรมของพระภูมี ก็จะกลายเป็นปราชญ์ ไม่ถูกหลอกโดยง่าย

เมื่อเราท่านมาเรียนศาสตร์สมุนไพร หลวงพ่อนิพนธ์ก็ชี้ให้เห็นว่า ในสิ่งที่พระภูมีตรัสรู้ มาเล่าให้ฟังเสมอ โดยเฉพาะ เรื่องของธรรมชาติ ที่ต้องมีเป็นคู่เสมอ

ในธรรมหมวดสมุนไพร ทำให้เราท่านได้เรียนรู้ว่า สิ่งที่ใช้ในการดำเนินชีวิตให้เป็นปกติสุขของมนุษย์ ที่มีคู่มากับอาหาร นั่นคือ สมุนไพร

อาหารให้ความปกติสุขในการเจริญเติบโต เป็นวัตถุดิบที่ร่างกายรับ นั่นหมายความว่า ให้คุณแก่ร่างกาย

ในขณะที่สมุนไพร ให้ความปกติสุขแก่ร่างกาย โดยเป็นวัตถุดิบ ที่ร่างกายใช้ผลิดเป็นสารเพื่อแก้ไขปัญหาของร่างกาย อันเนื่องจากการโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งเป็นสารที่ไม่มีในอาหาร

หากแต่ความรู้ที่ลึกลงไป หลวงพ่อนิพนธ์ก็กล่าวว่า ประโยชน์ที่จักพึงได้จากสมุนไพร แม้นรู้ว่ามีสรรพคุณนั้นๆ หากแต่มีข้อจำกัดที่ว่า ไม่มีสมุนไพรตัวใดที่เมื่อใช้โดดๆ จะสามารถให้สรรพคุณนั้นๆได้อย่างเต็มที่เลย

นั่นคือ ต้องนำสมุนไพรอย่างน้อยก็สองชนิดมารวมกัน จึงจะทำให้สรรพคุณนั้นบังเกิดขึ้นได้ นี่จึงเป็นข้อจำกัดที่ว่า ทำไมศาสตร์สมุนไพรจึงไม่เฟื่องฟู ก็เพราะหาคนที่รู้สัดส่วนที่ถูกต้องไม่ได้นั่นเอง

ยิ่งไปกว่านั้น สัดส่วนก็เป็นอุปมาดั่งดินที่นำมาปั้นรูปพระ แต่ยังไม่ได้ปลุกเสก ก็ยังหามีคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ไม่ เป็นอีกประการหนึ่งที่สำคัญ ที่ทำให้สมุนไพรถูกกลบไว้ตลอดกาล รอจนผู้ที่มีคุณธรรมมาอัญเชิญ และพฤติกรรมของผู้ทาน ร่วมปลุกเสก จึงจักมีฤทธิ์ มีค่า เหมือนพระดินที่ผ่านการปลุกเสก โดยอาจารย์ที่มีบุญบารมีสูง ฉันใดก็ฉันนั้น

และหลวงพ่อนิพนธ์ยังชี้ให้ลึกลงไปอีกว่า ธรรมชาติ ไม่ว่า อาหาร หรือสมุนไพร มีขีดจำกัดในการดำรงคุณค่า นั่นคือ เต็มที่ก็ได้แค่การแปรรูป หากผ่านกรรมวิธีสกัด คุณค่าก็หายไป

จึงไม่ต้องแปลกใจที่ทำไมนักวิทยาศาสตร์ ไม่สามารถสกัดอาหารให้อยู่ในรูปแคบซูลให้คนกินแทนข้าว ยิ่งสมุนไพรไม่ต้องพูดถึง ผ่านเครื่องสกัด ยิ่งไร้คุณค่า หามีประโยชน์อันใดไม่

แค่ความรู้ผิวๆ แค่นี้ ก็ทำให้เราท่านเป็นปราชญ์ ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อ ไปซื้อ อาหารสกัด ยาสกัด สมุนไพรสกัด มาทานให้เมื่อยตุ้ม เสียเงินเปล่า ...

ยิ่งอาหารเสริม วิตามินสกัด .... ยิ่งไม่ต้องเสียเงินไปหามาทาน เสียเงินไม่ว่า กลายเป็นโทษกลับร่างกายอีก เพราะร่างกายไม่รับ กลายเป็นสารลอยไปลอยมา แล้วไปอยู่ในที่ไม่ควรอยู่ สร้างมลภาวะให้ร่างกาย เป็นแหล่งก่อเกิดโรคอีกต่างหาก

ใครที่เห็นมายากลแล้วทึ่ง หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า เมื่อได้มาเห็นคู่ตุนาหงันของสมุนไพรยิ่งน่าทึ่งกว่า เพราะจากสีใสๆ ของตัวหนึ่ง เมื่อใส่ตัวหนึ่งไม่ถูกส่วน ก็จักไม่เปลี่ยนแปลงอันใด หากใส่ได้ถูกส่วน จักกลายเป็น สีเหลืองก็มี สีแดงก็มี สีน้ำเงินก็มี ... ยิ่งกว่าเล่นกลเป็นไหนๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา

หลวงพ่อนิพนธ์จึงยกตัวอย่างง่ายๆให้เห็น ความฉลาดของสองฝั่งฝ่าย นักวิจัยญี่ปุ่น สามารถวิจัยได้ว่า ต้นพญามือเหล็กมีสรรพคุณในการแก้โรคกระเพาะได้ เพราะเป็นพืชชนิดเดียวที่มีคุณสมบัติ สามารถเกาะติดในที่ชื้น

นั่นหมายถึงว่า ปัญหาที่วิทยาศาสตร์แก้ไม่ได้ คือ แผลในที่ชื้น เช่นกระเพาะ ลำไส้ แม้นจะมียาทำให้แผลหายได้ แต่ยาก็ไม่สามารถฝ่าเมือก และอุปสรรคต่างๆ ไปถึงแผลได้ จึงแก้ไม่ได้

ผลจากการวิจัย ก็ยังพบอีกว่า เนื้อไม้ของต้นพญามือเหล็ก มีสารสติกนิน หรือสารที่ใช้ทำยาฆ่าหญ้า ผสมอยู่

รู้ทุกอย่างของต้นพญามือเหล็ก แต่ไม่รู้วิธีใช้ ท้ายที่สุด ก็ได้แค่รับซื้อต้นพญามือเหลืก เพื่อไปบดเป็นส่วนผสม แล้วอ้างสรรพคุณโมเมม่อมแม่มไปงั้นเอง

หากแต่ศาสตร์ของพระภูมีที่แม่ชีเมี้ยนนำมา รู้ว่าจะต้องนำใบพญามือเหล็กไปผสม่กับสิ่งอื่นใด จึงจักทำให้เกิดสรรพคุณเช่นนี้ กลายเป็นสมุนไพรเขียวให้เราท่านทาน และสารสติกนินในเนื้อไม้ของต้นพญามือเหล็ก ต้องถูกแปรเปลี่ยน แต่งงานกับสมุนไพรชนิดไหน จึงแปรสภาพกลายเป็นคุณอย่างเดียว คือมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค ฆ่าเชื้อรา นำไปเป็นส่วนผสมของยาต้ม เช่นสมุนไพรปอด

ด้วยความรู้เหล่านี้ ทำให้เราท่านเดินผ่านไปเลย เมื่อมีคนบอกว่า ทานไอ้โน่น เคี้ยวใบไอ้นี่ แก้โรคนั้น โรคนี้ ... ไม่มีทางเป็นไปได้โดยเด็ดขาด...

ใครเบื่อเรียน เบื่อฟัง ก็ช่าง แต่สำหรับเรา คำสอนของหลวงพ่อนิพนธ์ฟังไม่รู้เบื่อ ยิ่งฟัง ยิ่งพิจารณา ... ตัวเราก็ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของคนอื่น ...

แค่บอกคีโมแพงและบริสุทธิ์ ช่วยได้ ก็ฮาขำกลิ้งแล้ว แล้วสตีพ จ๊อบส์ มันไม่มีเงินจ่ายรึไง ทำไมถึงตายด้วยโรคมะเร็ง ... นี่ไม่นับคนอีกเป็นแสนในประเทศที่ผลิตคีโมน่ะ หากมีโอกาสจะพูด จะบอกว่า เก็บไว้ให้คนของคุณใช้เถอะ อย่ามาหลอกคนไทยเลย ...










ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44