ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
ลงแดง
หลายคนเคยได้ยินคำนี้จากคนเสพยาเสพติด ถึงไม่เคยเห็น ไม่เคยเป็น แต่ก็รับทราบว่าเป็นอาการที่ต้องทุรนทุราย ทรมาน จนอยากตาย
ในวงการแพทย์แผนใหม่ ไม่มีคำๆ นี้อยู่ แต่กลับมาอยู่ในการแพทย์สมุนไพร ก็เนื่องด้วยเหตุ ด้วยแนวทางของสมุนไพร ในการแก้ไขอาการของโรค ที่คนไข้เป็นอยู่นั้น เรียกว่าเป็นศึกแรกที่เจอ ส่วนอาการอีกอย่างหนึ่ง คืออาการที่เกิดจากสะสมจากเคมี ซึ่งหลวงพ่ออธิบายว่า เป็นศึกด้านที่สอง
ดังนั้น เมื่อมาใช้แนวทางสมุนไพร จึงต้องลดศึกลงให้เหลือเฉพาะโรค สมาชิกใหม่จึงมักได้รับคำแนะนำ ให้หยุดยาเคมี ทั้งนี้ก็เพื่อหยุดศึกด้านที่สอง อันเนื่องจากยาเคมีเข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกัน หรืออวัยวะของร่างกาย ไม่ให้บุบสลายมากไปกว่านี้อีก
ผลก็คือ เมื่อหยุดการทานยาเคมี ร่างกายก็จะขาดสารยา ทำให้เกิดอาการขึ้น เนื่องจากการขาดสารยาเคมีนี้เอง อาการเช่นนี้ เราเรียกว่า "ลงแดง"
ดังนั้น อาการลงแดง จะรุนแรงมากน้อยขนาดใด ก็ขึ้นอยู่ปริมาณและชนิดของสารเคมี ที่ทานเข้าไป รวมถึงระยะเวลาที่ใช้สารเคมีนั้นๆ
ในแนวทางของสมุนไพร หลวงพ่อนิพนธ์ กล่าวว่า การจะกำจัดสารเคมีให้ออกจากร่างกาย ก็ต้องหยุดยาเคมี และรอจนกว่าจะเกิดอาการลงแดง ซึ่งจะทำให้สารเคมีเหล่านี้ลอยตัว และถูกดึงออกจากร่างกายได้โดยง่าย
เมื่อร่างกายได้รับสมุนไพร ก็จะเสริมสร้างภูมิต้านทานขึ้น เมื่อพร้อม ก็จะทำการขับสารเคมีเหล่านี้ออกจากร่างกาย ดังนั้น คนไข้จึงปรากฎอาการ คนที่ไม่เข้าใจ ก็จะคิดไปว่า เป็นผลจากการทานสมุนไพร ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ จนอาจทำให้เลิกทานเลยก็ได้
แท้ที่จริงแล้ว เมื่อเกิดอาการลงแดง นั่นแสดงว่า ร่างกายมีภูมิและพร้อมที่จะต่อสู้อาการจากสารเคมีแล้ว นั่นเอง อาทิเช่น คุณปรียานุช ที่ได้เขียนลงในหนังสือ ว่า เมื่อหลวงพ่อนิพนธ์ สั่งให้เธอหยุดทานยานอนหลับ ที่อยู่คู่กับเธอมาถึงยี่สิบปี ทำให้มีอาการลงแดงเกิดขึ้น และนอนไม่หลับอยู่ถึงเจ็ดวัน หลังจากนั้น ก็หลับเป็นตายสองวันเต็มๆ จนในวันที่สิบ กระบวนการตื่นและหลับของเธอ จึงกลับมาเป็นเหมือนคนปกติ คือนอนวันละแปดชั่วโมง
อาการนี้ ในแต่ละคน จึงหนักเบาไม่เท่ากัน หรืออาจไม่มีเลยก็ได้ เมื่อมาใช้แนวทางสมุนไพร แต่ที่มักพบ ก็ในกลุ่มคนที่เป็นโรคเก๊าต์ รูมะตอยด์ รูมาติซั่ม จำพวกนี้ ก่อนหายมักจะมีอาการลงแดง ข้อบวม จนอาจต้องใช้รถเข็น ชั่วคราว เมื่อภูมิของร่างกายเอาชนะได้ ก็จะเป็นการหายที่ถาวร
เห็นได้ชัดเลยว่า แนวทางของพระพุทธเจ้า ที่ตรัสว่า "ทุกข์วันนี้ สุขวันหน้า" เป็นความจริง เมื่อเราผ่านอาการลงแดงได้ และหายโรค เราจะหายถาวร และไม่กลับมาเป็นโรคนั้นๆอีก เพราะร่างกายเรามีภูมิแล้วนั่นเอง
ถึงที่สุด วงการแพทย์สมัยใหม่ ก็ยอมรับว่า ไม่มีสิ่งไรที่รักษาโรคของมนุษย์ ได้ดีไปกว่า "ภูมิต้านทานของมนุษย์" นั่นเอง
การที่เราใช้ยาเคมีต่อไป ย่อมหมายถึง เราไม่ยอมลงแดง นั่นทำให้เราเป็นทาสของยาไปตลอดชีวิตนั่นเอง หลวงพ่อนิพนธ์ จึงเรียกยาเคมีว่า "ยาเสพติด" เพราะเมื่อเริ่มทานแล้ว มันหยุดไม่ได้นั่นเอง ดังนั้น ฝรั่งไม่ต้องรบกับเราให้เหนื่อยหรือตายเปล่า เพียงแค่หยุดส่งยาให้ คนไทยก็ตายเป็นเบือแล้ว
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
พ่อเป็นโรค หอบ-หืด พ่นยา เช้า เย็น
ตอบลบอยากให้พ่อหาย ถ้าหยุดยาพ่นแล้ว
ต้องกินสมุนไพร ที่มีอยู่ในบ้าน-ท้องถิ่น
ตัวใดบ้างค่ะ