ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
ตาคน กับ ตาฟ้า
ความนิยมชมชอบในสิ่งไร ย่อมบ่งบอกถึงนิสัยของหมู่ชนนั้นๆ นั่นเอง สิ่งที่สะท้อนให้เราเห็นได้ชัดคือ สิ่งเดียวกัน มันจะมีค่าหรือความหมาย อย่างไร ก็ด้วยถ้ากลุ่มชนนั้น เอาเหตุเอาผล มันก็ต้องมีค่าเฉกเช่นเดียวกัน ไม่ว่าใครจะเป็นผู้พูด แต่ถ้ากลุ่มชนนั้น ไม่เอาเหตุเอาผล ยึดความชอบของตนเป็นหลัก สิ่งเดียวกันนั้น ก็เลยมีค่าที่ต่างกัน
ท่านนิพนธ์ พระถ้ำกระบอก เมื่อห้าสิบปีก่อน กับ คุณนิพนธ์ ชายไทยอาวุโส ในปัจจุบัน ก็คือคนๆเดียวกัน สิ่งที่ท่านพูดสอน ก็เฉกเช่นเดียวกันกับเมื่อในอดีต องค์ความรู้ทั้งหมดล้วนไม่ใช่ของท่าน หากแต่เป็นของพระพุทธเจ้า ที่แม่ชีเมี้ยน นำมาให้ คำสอนเหล่านี้ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย ยังคงความจริง และยังคงสัจธรรมไว้ไม่เปลี่ยนแปลง แต่เมื่อคนพูดเปลี่ยนสถานะ คนฟังก็เปลี่ยนความน่าเชื่อถือ
ทั้งที่คุณค่าของสิ่งที่ท่านพูดยังคงเดิม แต่ก็ยากที่จะสร้างศรัทธา และความน่าเชื่อถือ แม้จะมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ยืนยันในคำพูดอย่างมากมาย ย่อมแสดงถึง หมู่ชนคนไทยมีนิสัยอย่างไรได้ดี
เราจึงเห็นคนที่มองว่า การเข้าสวดมนต์ และการเข้าฟังหลวงพ่อนิพนธ์ เปรียบประดุจดัง ขุมนรกของเขาเหล่านั้น เป็นเรื่องน่าเบื่อ และคิดอยู่เสมอ ว่าเมื่อไหร่จะจบสักที ซึ่งก็ไม่น่าแปลก เพราะคนเหล่านั้น มาเพียงเพื่อต้องการสมุนไพรเท่านั้นเอง อย่างอื่นไม่สน
ด้วยตาคน ที่มอง ทำให้เรื่องไม่ธรรมดา เป็นธรรมดา คำพูดที่ยากจะหาฟังได้ และมีความหมายแก่ชีวิต ก็กลายเป็นไร้ค่า
แต่หากเจอผู้ที่เอาเหตุเอาผลด้วยแล้ว และไม่มีโอกาสที่จะมาฟัง ย่อมเล็งเห็นในคุณค่า และดิ้นรน เราจึงไม่แปลกใจ ที่เราเห็น บริษัท ห้างร้าน ใหญ่ๆ ได้เชิญ คุณปรียานุข ให้นำคำสอนของหลวงพ่อนิพนธ์ ไปบรรยาย และเล่าประสพการณ์ ให้แก่บุคคลากรของเขาได้รับรู้รับฟัง โดยยอมที่จะเสียค่าใช้จ่ายไม่น้อย ในการนี้
ความน่าเสียดายของเรา ที่พบเห็น เมื่อคนไข้ มาถึงสถานที่นี้ ไม่ว่าด้วยเหตุใด กลับไม่ได้รับอะไรกลับไปบ้านเลย ในขณะที่คนที่ไม่เคยมา อยากที่จะมา เขากลับดิ้นรน แม้จะไม่สามารถเชิญหลวงพ่อนิพนธ์ไปได้ ก็ขอตัวแทนก็ยังดี
อุปสรรคนี้ บังเกิดขึ้น ก็ด้วยตาเราที่มองเห็น แล้วจิตไม่รับ ความศรัทธา จึงไม่เกิดนั่นเอง โดยไม่พิจารณา เอาเหตุ เอาผล ใดๆ ทั้งสิ้น อันเป็นเรื่องน่าเสียดายยิ่ง
ยกตัวอย่าง ค่าของคำพูด เพียงประโยคเดียวที่ท่านสอน คือ "ให้เชื่อพรหมลิขิต ไม่ถึงที่ตาย โรคห่าอะไรก็พิฆาตไม่อาสัญ" ที่คนไข้ เป็นนายทหาร ระดับพันโท ซึ่งเป็นโรคหัวใจรุนแรง เมื่อทานสมุนไพรได้ระยะหนึ่ง ก็ปรากฎอาการลงแดง ตัวซีด เล็บเขียว จนภรรยาตกใจ และเรียกรถพยาบาลมารับ เขากลับพูดคำนี้ให้พยาบาลฟัง และนอนอยู่เฉยๆ ที่หน้าหิ้งพระ จนเวลาผ่านไป ร่างกายก็เริ่มฟื้นกลับเป็นปกติ อยู่มาอีกหลายปี จนทุกวันนี้ ก็ยังมาช่วยงานที่ชมรมทุกสัปดาห์ และมักเล่าเรื่องราวนี้ ให้คนไข้ที่มาร่วมงานฟังเสมอๆ
ด้วยตาคน เราจึงไม่แปลกใจ ว่า คำพูดที่ถ่ายทอดคำสอนของแม่ชีเมี้ยน ที่มีคุณค่าต่อชีวิตมหาศาล ในยุคนี้ จึงมีคนฟังน้อยกว่าในยุคถ้ำกระบอก และเมื่อเทียบกับ ละคร หรือ คอนเสริต ด้วยแล้ว ที่ให้คุณค่าเพียงแค่ความสนุกชั่วครู่ ชั่่วยาม จึงมีคนต่างกันมหาศาล
วันนี้เราจึงถึงบางอ้อว่า ทำไมสาวกของพระพุทธเจ้า จึงมีน้อย แค่แปดหมื่นกว่า ในขณะที่โทรทัศน์ประกาศทุกวัน สาวกผี มีมากกว่า สามร้อยล้านคนทั่วโลก ก็เพราะ "ผิด มันพาไปหาผิดนั่นเอง"
และเราจึงเข้าใจที่หลวงพ่อนิพนธ์พูดว่า ในขณะที่บวช และเชื่อมั่นในวาทะศิลป์ของตนเองนั้น จึงคิดว่า สามารถทำให้คนมานิยมชมชอบ ในพระพุทธศาสนา ได้มากมายอย่างแน่นอน แต่วันเวลาได้พิสูจน์ และประจักษ์ แก่ท่านว่า "เรื่องของพระพุทธศาสนา เป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม เฉพาะคนที่เอาเหตุเอาผล และรับความจริง ที่สำคัญ อยากได้ต้องทำเอง"
ภาพที่ปรากฎย้อนอดีตสองพันกว่าปี จึงฉายกลับมาอีกครั้ง ในอินเดีย ที่มีพระพุทธเจ้าไปอุบัติ จึงอยู่ท่ามกลางลัทธิมากมาย ห้อมล้อมท่าน เมื่อเทียบคนกันระหว่างสองฝั่งแล้ว คนในอินเดีย แปดหมื่นกว่า เดินตามพระโคดม ส่วนที่เหลือ อีก ร้อยล้านคน เดินตามใคร
แต่ตาฟ้า ก็ไม่ได้เหลือบแลไปในหมู่คนมากเลย กลับดูแลคนของพระพุทธเจ้า ทำให้ลัทธิใด ก็ล้มพระพุทธเจ้าไม่ได้ โรคอะไร ก็มาแผ่วพาน ท่านและคนแปดหมื่นกว่าของท่านไม่ได้เลย จนทำให้คนทั่วไป แม้จะไม่นับถือ แต่ก็ไม่กล้าล่วงล้ำกล้ำเกินนั่นเอง
ในขณะที่คนไทยวันนี้ สร้างรูปพระพุทธ มาวางขายแบกับดิน เอาธรรมของท่านนิดหน่อยมาปะหน้าแล้วซ่อนความคิดของตนเข้าไป แล้วก็เอามาขายกิน สิ่งเหล่านี้ทำกันเกลื่อนบ้าน เกลื่อนเมือง เย้ยน้ำใจชาวพุทธที่แท้จริงมหาศาล
แล้วเมื่อตาฟ้าเขาเห็น จะเกิดอะไรขึ้น ....... มันเลยเถิดจากการทำกรรมกับมนุษย์แล้ว ตอนนี้มันทำกรรมกับศาสนาแล้ว บังเอิญเขาเป็นของจริง มีบุญญาธิการจริง ที่สำคัญ พระพุทธเจ้าองค์ใหม่เขากำลังจะอุบัติแล้ว จึงไม่น่าแปลก ที่แม่ชีเมี้ยนท่านพยากรณ์ ถึงภัยที่ ดินฟ้า อากาศ เขาจะลงโทษมนุษย์ ในกรรมที่ทำ ให้หลวงพ่อนิพนธ์ฟัง และมาชักชวนคน ให้หันกลับมาเชื่่อ พระพุทธเจ้า และหยุดการกระทำเหล่านั้นเสีย เพื่อความปลอดภัยของชีวิต
ตาคน มองเห็นไม่ชอบก็เลิกราไปในสิ่งที่ตนชอบ แต่ตาฟ้า มองเห็นไม่ชอบพฤติกรรมของมนุษย์ แล้วทนไม่ได้ ภัยที่พึงเกิดจึงรุนแรงนัก เพราะฟ้าดินเขาพิโรธ .....
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวเตือน ให้เร่งรีบนำธรรมคำสอนกลับมาปฏิบัติด่วน เพราะ ภัยที่เราเห็นจากน้ำ ..... เอ้อ...... มันแค่ยกแรกเท่านั้นเอง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น