หากแต่คำถามหรือภาพที่ปรากฎ ทำไมจึงยังช่วยตนไม่ได้
หลวงพ่อนิพนธ์มุ่งเป้าไปที่จิตอาสา ที่เรียกได้ว่า ฟังรู้ แล้วพยายามที่จะทำตนตามแนวทางแสวงหาบุญของพระภูมี
แต่อะไรเล่าทำให้จิตอาสาหลายคนเดินทางล่าช้า หรือไม่ประสพผลแม้นเวลาล่วงเลยมานาน
คำอรรถาธิบายก็คือ เรื่องการแสวงหาบุญนั้น จิตอาสาพอรู้ช่องทาง แต่ที่ไม่รู้ นั่นคือ อะไรเล่าเป็นสิ่งที่ทำลายบุญที่สร้างอันนั้นไปเสียจนหมด หรือ เหลือไม่พอมาเลี้ยงตน
ก่อนจะเปิดศึกใหญ่ คือ มะเร็ง จึงต้องมีการสังคายนาจิตอาสา เพื่อยกระดับ เพราะคนเหล่านี้ อาสามาทำตนเป็นพระมาลัยโปรดสัตว์ หากแต่จะโปรดผู้อื่นได้อย่างไร ในเมื่อโปรดตนยังไม่ได้เลย
ช่วงนี้จึงถึอว่าเป็นโอกาสอันดี ที่หลวงพ่อนิพนธ์ได้ให้เจ้าหน้าที่ ทำบัญชีจิตอาสา เพื่อรายงานว่าแต่ละคนมีปัญหาอะไร มากน้อยเพียงใด แล้วจัดสมุนไพรให้เป็นรายบุคคล
แต่ที่สำคัญกว่า นั่นคือ ให้การอบรมชี้แนะว่า พฤติกรรมเช่นไร ที่ทำลายบุญที่สร้างอันนั้นไป นี่เรียกว่ารายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ที่เหล่าจิตอาสามองข้าม อันเป็นเรื่องน่าเสียดายวันเวลาที่เสียไป เพราะผลแห่งการทำมันไม่เกิด หรือเกิดก็ไม่เพียงพอนั่นเอง
ภาพใหญ่ใจความ ที่หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้จิตอาสาพิจารณา นั่นคือ หลักของพระภูมี เรียกว่า มีสัญญลักษณ์คือความสงบ ดังนั้น แม้นจักทำกิจกรรมต่างๆ ก็เลยซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้
ห้องสวดมนต์ เงียบสงัดฉันใด ห้องสมุนไพร หรือ ห้องกิจกรรมใดๆ ก็ควรเป็นเฉกเช่นเดียวกัน
ทำให้เรานึกย้อนไปเมื่อครั้งหลวงพ่อนิพนธ์ยังมีพระ คำสอนหนึ่งที่เรามักได้ยินบ่อยๆ ในการสอนพระนั่นคือ ในขณะที่ท่านทั้งหลาย กำลังนั่งทำยา ไม่ว่าตำยามะพร้าว หรืออื่นใด ในเมื่อกายพร้อม ใจพร้อม ก็ควรมีวาจาพร้อม นั่นคือ ระหว่างตำยาไป ก็สวดมนต์ไป ผลที่ได้ในการทำนั้น ก็จัดสมบูรณ์ด้วยองค์ ๓
จึงถือว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่ดีของเหล่าจิตอาสา ที่จะได้เรียนรู้รายละเอียด ในเรื่องบุญ ไม่ว่า การได้มาซึ่งบุญ รวมถึง การใดที่จะมาทำลายบุญที่ทำนั้นให้หมดลง
บุญของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่สักแต่ว่าอ้าง ทำแล้วเป็นบุญ เรื่องอื่นไม่สน กูทำแล้ว กูต้องได้ แบบนั้นเรียกว่า บุญนึกเอาเอง มันจึงเป็นลม ช่วยตนของตนไม่ได้
หลักของพระภูมี จึงเป็นหลักที่มีรายละเอียด ก้าวล้ำเกินกว่าวิทยาการใดๆ ของมนุษย์ เพราะนอกจากสิ่งที่มองเห็น ยังล้วงลึกไปถึงสิ่งที่มองไม่เห็นอีก คือ กรรม
คำเตือนสติอย่างหนึ่ง ที่เราเห็นว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง นั่นคือ อย่าประมาทกรรม อย่าประเมินกรรมต่ำ เพราะคู่ต่อสู้นี้ ไม่มีใครหรือวิทยาการใดในโลก ที่สามารถเอาชนะได้ เรียกว่ารู้เท่าทันความคิดมนุษย์หมด เพราะเป็นผู้สร้าง จึงต้องอาศัย ความคิดของพระพุทธเจ้า ที่เรียกว่า มนุษย์เหนือโลก เอามานำ จึงจักชนะได้
หากแต่ กว่าจะชนะได้ ก็เรียกว่าหืดจับ ต้องอาศัยน้ำอดน้ำทน มากมาย ผู้ใดหวังว่า สมุนไพรดี อย่างอื่นไม่ต้อง ... แค่เริ่มก็แพ้แล้วตั้งแต่ในมุ้ง อย่างดีก็แค่ยืดวันแพ้ไปก็เท่านั้นเอง
หลวงพ่อนิพนธ์ จึงมักกล่าวว่า คนไม่รู้ ทำไม่เป็น ทานมากสักฉันใด ก็แพ้อยู่ดี คนรู้ แล้วทำเป็น ไม่ต้องทานมากหรอก แถมยังจบเร็วอีกต่างหาก ... เมื่อโอกาสมาแล้ว ก็ขอให้จิตอาสา คว้าไว้ เพื่อการทำตนเป็นพระมาลัยจักได้สมบูรณ์ เริ่มต้นที่โปรดตนเองนี่แหละ