ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
นิทานสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ความเป็นจริง หรือจะเรียกว่าปาฏิหาริย์ ซึ่งเกิดไม่ได้เลย หากไร้ซึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์เกื้อกูล หากแต่เราท่านพยายามที่จะมองสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่าต้องมาจากฟากฟ้า ความคิดนี้ จึงบังตาปาฏิหารย์เบื้องหน้าของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปสิ้น
หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็น ว่าการที่คนป่วยจำนวนมากมารวมตัวกัน แลสามารถทำกิจกรรม โดยที่ไม่มีเหตุอันใดเลย ไม่ต้องมีหมอ มีพยาบาล มีเครื่องมือแพทย์ ห้องฉุกเฉิน อะไรทำให้เป็นเช่นนั้น ไม่ใช่ตัวท่าน เพราะตัวท่านเองก็อาศัยสิ่งศักดิ์สิทธิ์เกื้อกูลเหมือนกัน นั่นจึงหมายความว่า สถานที่นี้ มีคุณสมบัติให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เกื้อกูล การกระทำที่มารวมตัวกัน เป็นไปตามครรลองคลองธรรม ฟ้าบัญญัติ ทุกคนจึงรอดปลอดภัยนั่นเอง
ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง หากแต่มองไปในโลก ที่ไหนเล่าจะกล้านำคนป่วย จำนวนมากมารวมตัวกันเช่นนี้
คำตอบที่ได้ คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เขามีตามธรรมชาติอยู่แล้ว นั่นคือ กรรม ศักดิ์สิทธิ์ และ ธรรมศักดิ์สิทธิ์ เป็นของคู่กันมากับจักรวาล มนุษย์สร้างไม่ได้ อันหมายความว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่มนุษย์สร้างขึ้นเอง อุปโลกขึ้นเอง จึงเป็นเพียงแต่ความคิด เป็นลม ช่วยตนของตนไม่ได้
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่มนุษย์สร้าง จึงมีความศักดิ์สิทธิ์เฉพาะตอนที่มีกรรมดีเท่านั้นเอง หากยามใดกรรมชั่วมาถึง ความเลวร้ายปรากฎ มนุษย์ ก็พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างไม่ได้เลย ภาพที่เห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน นั่นคือ ยามกรรมมา แทนที่จะพาไปหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โน่น ไปโรงพยาบาลมั่ง ไปหาอะไรก็ได้ที่คิดว่าพึ่งได้ แต่ไม่พาไปหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันนั้นเลย
แม่ชีเมี้ยนตรัสว่า การเชิญสิ่งศักดิ์สิทธ ิ์มาคุ้มครองตน หาต้องใช้บาลีบทใดไม่ สิ่งเดียวที่พระพุทธเจ้าใช้ นั่นคือ "คุณธรรม" หากสร้างคุณสมบัตินี้ได้เมื่อใด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมเกื้อกูลเอง จึงมีคำกล่าวว่า คนดี ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ก็ด้วยผู้นั้นมีคุณสมบัติ ทำตนจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์เกื้อกูลนั่นเอง
คำพรที่แม่ชีเมี้ยนทรงประทานให้หลวงพ่อนิพนธ์ เมื่อครั้งที่ให้กลับมานำตำราออกจากถ้ำกระบอก แล้วจะละสังขารจึงตรัสว่า "ตำราของแม่ ยิ่งให้ ยิ่งเจริญ"
คำพรนี้ถูกท้าทายมาตั้งแต่ปี ๓๐ ครั้งหลวงพ่อนิพนธ์เปิดสำนักอีกครั้ง ที่แผ่นดินของพ่อ ที่ อ.เมือง จ.ลพบุรี แม้นในขณะนั้น สภาพของตนเอง ก็เรียกว่าขัดสนยิ่งนัก หลายคนจึงกล่าวว่า อย่างเก่งก็ไม่เกินสองปี สำนักของหลวงพ่อนิพนธ์ต้องเจ๊งอย่างแน่นอน
ผ่านไปสองปี คนเหล่านั้นก็บอกว่า กูว่าไม่เกิด ปี ๓๕ มันเจ๊งแน่ มา ณ.วันนี้ก็พิสูจน์คำพรของแม่ชีเมี้ยนได้เป็นอย่างดีว่า "ยิ่งให้ ยิ่งเจริญ" ไปทำที่ไหน ที่นั่นก็เจริญ
แม้นสถานที่นี้ เรียกได้ว่าย่อส่วนของพุทธศาสนาครั้งพุทธกาลมา หากแต่การฟังธรรมวินัยที่แท้จริงเมื่อครั้งพุทธกาล พิจารณาที่ทำได้ แล้วนำไปปฏิบัติ เมื่อทำได้ ก็จักได้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เกื้อกูล บ้านร่มเย็น เมืองร่มเย็น ไม่ต้องดิ้นรนไปหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ใดหรอก ... หนึ่งเดียวที่เป็นของจริง พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทำให้เห็นแล้ว ว่า "ธรรม" คือสุดยอด และของจริง พาไปนิพพานได้ แค่หายโรค ... นั้นคือ น้ำจิ้ม ของแถมที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เขาให้แก่คนที่มี "คุณธรรม" เพราะมันคือ เครื่องหมายของคนดีนั่นเอง
ไม่ต้องใช้ หมอชีวก อะไรนั่นหรอก ด้วยการปฏิบัติธรรมอันนี้ พระพุทธเจ้าและสงฆ์สาวก จึงมีเอกลักษณ์ ที่เป็นผู้ไม่มีโรค แม้นจักอายุขัย แก่สักปานใด ก็ปฏิบัติกิจของสงฆ์ จนครบอายุขัย ไม่มีตาแก ตาฝ้าฟาง หลังโกง เดินไม่ไหว ให้เห็น แม้นแต่องค์เดียว
หากแต่บทเริ่มของคุณธรรม หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า แม่ชีเมี้ยนชี้เคล็ดให้เห็น ว่า มีบ่อเกิดมาจาก ความกตัญญู นั่นเอง อันเป็นกระไดขั้นแรกของผู้ปฏิบัติ
เราจึงไม่แปลกใจเลย ในบทสนทนาของการสัมภาษณ์แม่ชีท่านหนึ่ง ที่ป่วยเป็นมะเร็งมดลูก จนเน่า เนื้อหลุดออกมาเป็นชิ้นๆ มีเลือดไหลตลอดเวลาเดิน และมีกลินโชยออกมา ความตอนหนึ่งว่า "สิ่งที่ทำให้แม่ชีมีมานะ อดทนต่อสู้กับอาการ และยืนระยะในการทานสมุนไพรมาได้ถึง ๔ ปี ก็คือ ความตั้งใจที่รู้ว่าสิ่งที่หลวงพ่อนิพนธ์อยากได้ นั่นคือ คนหาย ก็อยากทำตนให้หาย เพื่อให้ท่านชื่นใจว่ามีคนทำได้ ครั้นเมื่อตนทำได้ ผ่านการตรวจเชื้อซ้ำอีกหลายหน หลายโรงพยาบาล จนทุกหมอกล่าวเหมือนกันว่า ร่างกายของแม่ชีตอนนี้เป็นปกติ ไม่มีเชื้อมะเร็ง จึงมาเรียนหลวงพ่อนิพนธ์ ให้ท่านได้ชื่นใจ ว่ามีคนทำตามคำสอน แล้วประสพผล"
จากคนที่หมอบอกว่า อย่างเก่งก็อยู่ไม่เกิน ๔ เดือน ตอนนี้อยู่มา ๔ ปีกว่า และที่สำคัญ แววท่าจะตายยากเสียด้วย
เราจึงขอย้ำอีกครั้ง .... กระไดขั้นแรก ของคุณสมบัติ การเป็นคนดี มีคุณธรรม จนสิ่งศักดิ์สิทธิ์เกื้อกูล ... แม่ชีเมี้ยนทรงตรัสว่า เริ่มกันที่ คำว่า "กตัญญูู" หากไม่มี หรือข้ามกระไดขั้นนี้ไปแล้วไซร้ ช้าเร็วก็ตกบันได
นี่แหละจึงเป็นเคล็ดในการแสวงหาสมุนไพร ที่แม่ชีเมี้ยน สอนหลวงพ่อนิพนธ์ ในยามเดินป่าหาสมุนไพร ให้หลับตาประกาศต่อฟ้าดิน ว่าเจตนาในการมาอัญเชิญเพื่อการใด เมื่อลืมตามา จะเห็นประกายของต้นสมุนไพรเรืองแสงปรากฎตนออกมา แล้วให้เอาผ้าไปผูกทำเครื่องหมายไว้
นี่แหละ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงใช้ไม่ได้กับทุกคน เพราะเขามีกรรมศักดิ์สิทธิ์ เป็นเจ้าของอยู่แล้ว ฉันใดก็ฉันนั้น สมุนไพรเมื่อทานแล้ว ก็หาให้ผลแก่ทุกคนไม่ เพราะผลที่จักบังเกิด มีเฉพาะคนทำได้เท่านั้นเอง .... สมุนไพรเขามีวิญญาณ เป็นสิ่งศักดิสิทธิ์ตามธรรมชาติ มีคุ่มากับโลก คนชั่วจะมาลักกิน ขโมยกิน เอากำลังไปทำความชั่วอีก ... ไม่มีทาง
ศาสน์สมุนไพร จึงไม่ใช่ใครก็ทำได้ เพราะต้องอาศัยสิ่งศักดิ์สิทธิ์เกื้อกูลนั่นเอง
คนที่ทานแล้วไม่ประสพผล จะโทษสมุนไพร โทษแม่ชีเมี้ยน โทษพระพุทธเจ้า โทษคนทำ หาได้ไม่ สิ่งที่ต้องโทษก็คือ คนของคน นั่นเอง ที่ทำไม่ได้ ไม่มีคุณสมบัติให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาเกื้อกูล ...เพราะสมุนไพรหม้อเดียวกันที่ทาน ผู้อื่นเขาทานแล้วประสพผล อย่ารำไม่ดี โทษปี่โทษกลอง