วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ความจริงของสมุนไพร


คำร่ำลือว่าสมุนไพรแม่ชีเมี้ยน ดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ ว่ากันไปตามปาก ตามตาที่เห็น จนทำให้หลายคนฝากความหวังไว้กลับสมุนไพรอันมหาศาล

หากแต่องค์ประกอบของสมุนไพรแม่ชีเมี้ยนที่ว่าดีนั้น กลับไม่สน ไม่เรียนรู้ หยุดแค่เพียง การทานสมุนไพรแล้วต้องหาย เท่านั้นเอง

หลายต่อหลายคน จึงไม่ประสพผลในการฟื้นฟูตน แลลืมจุดมุ่งหมายที่แท้จริง ว่าตนต้องการอะไร ในการมาพึ่งสิงศักดิ์สิทธิ์

เมื่อสืบสาวลึกลงไป นั่นคือความปลอดภัยของชีวิต มิใช่แต่เพียงจากโรคภัยไข้เจ็บ หากแต่หมายถึงความแคล้วคลาดจากภัยทั้งปวง อีกด้วยใช่หรือไม่

พระพุทธเจ้าตรัสรู้ เมื่อบัญญัติธรรมหมวดสมุนไพร ด้วยรู้รากของเหตุที่มาแห่งโรค ว่าคือกรรม ดังนั้น บัญญัติของท่าน จึงให้สิทธิ์เฉพาะผู้มีคุณสมบัติ หาใช่กวาดไปทั่ว ละเมิดหรือก้าวล้ำไป ไม่สนกรรม

บัญญํติสมุนไพร จึงใช้ไม่ได้กับทุกคน เป็นความจริงที่ปรากฎ คำถามก็คือ ก็แล้วใช้ได้กับผู้ใดเล่า หรือคนประเภทใด

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงเล่าย้อนว่า บัญญํตินี้มีเจตนาอะไร มิใช่เงินทอง มีใช่ ลาภ ยศ สรรเสริญ จุดประสงค์เดียวของพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยนทรงชี้เป้า นั่นคือ "เพื่อสร้างปูชนียบุคคล"

สมุนไพร ใดๆ จึงมีสภาพการณ์เป็นเพียงสังขาร ที่ปราศจากวิญญาณ จะมีฤทธิ์ขึ้นมาได้ ก็ต้องสร้างคุณสมบัติ เป็นวิญญาณปลุกให้มีฤทธิ์

ก็แล้วปูชนียบุคคล เป็นอย่างไร พระภูมีสรุปย่อให้เห็น นั่นคือ ผู้ใช้หลัก ตนพึ่งตน นั่นเอง แลดำรงตนอย่างเป็นสุข ด้วยการให้สุขแก่ผู้อื่นเป็นอุปนิสัย

นี่จึงเป็นเหตุให้คนหมู่มาก แม้นเห็นว่าดี แต่ก็ไม่นิยม เพราะนั่นหมายถึง ต้องกลายเป็นคนไม่ธรรมดา เพราะต้องควบคุมตน ไม่ตามนิสัย กระนั้นก็ตาม ทุกยุคทุกสมัย ก็มีคนเชื่อและทำตาม ประสพผลกันแม้ไม่มาก แต่ก็เป็นจำนวนหมื่น จำนวนแสน ให้เห็นเป็นประจักษ์ ว่าทำได้

ด้วยความจริงนี้เอง การเรียนรู้สมุนไพร แทนที่จะเน้นว่า สมุนไพรตัวนี้แก้อะไร เป็นโรคนั้นต้องทานตัวไหน ... แล้วมุ่งมั่นทานเพื่อให้หายโรค นั่นหลงทางไปแล้ว

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงชี้ให้เห็นว่า ควรจักเรียนรู้ว่า ต้องสร้างคุณสมบัติเช่นไร มีพฤติกรรมอย่างไร ต่างหาก การทานสมุนไพรจึงจักเกิดผล

บทพิสูจน์ที่มักถูกหยิบยกมาให้เห็น ไม่ต้องว่าไกลไปยังสมุนไพรของผู้อื่น ที่กินอย่างไรก็ไร้ผล หากแต่แม้นสมุนไพรสูตรพระภูมี ที่เรียนมาจากคนเดียวกัน ตำราเล่มเดียวกัน นั่นคือ แม่ชีเมี้ยน ไม่ว่า ถ้ำกระบอก หรือ พระ ๗ สำนัก ที่แตกตัวไป ล้วนแล้วมีจุดจบไม่ต่างกับสมุนไพรอื่นๆ นั่นคือ ทานอย่างไร ก็ไร้ผล

เคล็ดของการทานสมุนไพร หลวงพ่อนิพนธ์ จึงสรุปให้เห็นว่า ผู้ที่จักประสพผล ย่อมต้องเรียนรู้เรื่องบุญ แล้วพิจารณา เมื่อทำตนเป็นคนมีหลัก ก็จักกลายเป็นคนไม่ธรรมดา มีพฤติกรรมสร้างบุญ

สมุนไพรจึงอุปมาตัวปืน บุญที่ทำก็เหมือนกระสุน ทีนี้ไม่ว่าโรคอะไรก็ไม่เหลือ ...

พูดฟังง่ายๆ คือ พระภูมีต้องการคนดี คนไม่ธรรมดา นั่นคือ คนมีธรรม มีการฝืนนิสัย ผู้ทำได้จึงเรียกว่าปลอดภัย

เพราะเหตุแห่งโรคคือกรรม การช่วยให้พ้นกรรม จึงหาใช่เฉพาะการช่วยให้พ้นโรค แต่ต้องพ้นจากภัยอื่น ไม่ประสพอุบัติเหตุ ... ด้วยหากไม่เป็นโรคตาย แต่ถูกรถชนตาย ก็ตายเหมือนกัน นั่นเรียกว่า .. ไม่ได้ช่วย หรือ ช่วยไม่ได้ ผลแห่งการช่วยก็ไม่เกิด

นี่คือเหตุที่ทำไม ทั้งโลกจึงไม่มีทางรักษาโรคได้ เพราะโรคเป็นเพียงปลายเหตุ ต้นเหตุมันมาจากอำนาจกรรม นั่นเอง ที่โลกนี้ไม่มีใครชนะได้ มีเพียงอำนาจธรรม ของพระพุทธเจ้าเท่านั้นเอง

เมื่อฝรั่ง หรือใคร ก็ตาม ไม่สนพฤติกรรม นั่นคือ ก้าวไม่ถึงบุญ ก็ลืมเรื่องหายโรคไปได้เลย ไม่มีทาง

ความรู้เรื่องโรค ของฝรั่ง จึงนับว่ายังห่างไกลนัก หายารักษาโรคให้ตาย ก็ไม่เจอ

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงกล่าวเสมอ ว่า หากโรคมันหายด้วยสมุนไพรเพียงอย่างเดียว จะให้คนทั้งหลายลำบากมาทำไม นอนอยู่บ้าน แล้วทำสมุนไพรไปส่งให้ถึงหัวกระไดเลยไม่ดีกว่าหรือ ...

เบื้องหลังของอำนาจสมุนไพรที่ให้ผล จึงก่อกำเนิดมาจากคุณธรรมของคนมากหลาย ไหลมารวมกัน เรียก "ธรรมสามัคคี" ด้วยคุณธรรมนี้ กลายเป็นอำนาจ เพราะฟ้าดินเขาไม่รานน้ำใจคนดีหรอก ผู้ที่มีคุณสมบัติทานแล้วจึงช่วยตนได้ แล้วก็กลายมาเป็นหนึ่งในหมุู่ชนนี้

สมุนไพรของพระภูมี จึงมีลักษณะหนึ่งที่หลายคนไม่รู้ นั่นคือ อำนาจเขาโตได้ โตตามพลังของผู้ทำได้นั่นเอง ยิ่งมีคนทำตนได้ กลายเป็นพระมาลัยมากขึ้น ฤทธิ์ของสมุไพรก็ยิ่งมากขึ้น

เราท่านจึงมักได้ยินหลวงพ่อนิพนธ์กล่าวชวนให้มาในวันงานของแม่ชีเมี้ยน เพราะเป็นวันที่แม่ชีเมี้ยนจะพิจารณา แล้วดูผล และอนุญาติให้อำนาจของสมุนไพรมีฤทธิ์เพิ่มขึ้นนั่นเอง

หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวย้ำเสมอว่า วันไหนไม่มาไม่เป็นไร แต่วันงานแม่ชีเมี้ยน ร้องขอ เพราะนั่นคือ วันตัดสินชะตา ไม่ว่าการทำต่อ ได้หรือไม่ และถ้าได้ นั่นก็คือ ฤทธิ์ของสมุไพร ปีต่อไป จะทวีความเข้มข้นขึ้น นั่นเอง

ด้วยเหตุนี้ การเปิดศึก ย่อมต้องการฤทธิ์ของสมุนไพรอันมหาศาล จึงหลีกหนีไม่พ้น เรียกว่าเป็นภาคบังคับ นั่นคือ ถึงเวลาแล้ว ที่หลวงพ่อนิพนธ์ ต้องคัดเฉพาะผู้มีคุณสมบัติ เพื่อให้คนเหล่านั้น ยินยอมเปลี่ยนพฤติกรรมให้สอดคล้องกับบัญญํติฟ้าดิน ผลก็จักพึงเกิดแก่ผู้ทาน

เราจึงขอย้ำ คนที่อยากได้ แต่ไม่มีคุณสมบัติ ก็ทำได้แค่เพียงเป็นยักษ์หน้าโบสถ์ อยากสักเพียงใด ก็เข้ามาในโบสถ์ไม่ได้

และย้ำอีกครั้ง หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้ โอกาสที่ให้จึงมีแค่ครั้งเดียว เพราะผู้รอคิว รอเสียบเพียบ

แม้นคนเป็นโรคมีเป็นล้าน แต่ก็ไม่หวังทุกคนจะนิยมชมชอบ แค่มีผู้ประสพผลสัก หมื่นสักแสนคน ก็ถือว่า ผลงานหรูแล้ว ... เพราะคนทั้งโลก รักษาไม่ได้แม้แต่คนเดียว

คำกล่าวที่หลวงพ่อนิพนธ์มักเตือนสติ คือ "ของสูงเท่านั้น จึงดึงชีวิตที่ต่ำของเราท่าน ขึ้นที่สูงได้" พฤติกรรมที่ทำ เป็นตัวบ่งชี้ว่า สำหรับเราท่าน สมุนไพรและธรรมวินัย นั้นอยู่สูงหรือต่ำเพียงใด .... เรื่องนี้ผลจะจบอย่างไร หายหรือไม่หาย เราท่านเป็นผู้กำหนดบทเอง ใครทำ ใครได้ ทำอย่างไร ได้อย่างนั้น

อุปมา คนเป็นอัมพฤกต์ แค่คิดช่วยตน ไม่เป็นภาระลูกหลาน แค่นี้โรคก็หายไปครึ่งนึงแล้ว

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44