วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ทำแล้วแต่ไม่เกิดบุญ

เราท่าน เมื่อมาสถานที่นี้แล้ว ฟังวิธีการหาบุญของหลวงพ่อนิพนธ์ หลายคนก็เมิน แล้วคิดในใจว่า ตนก็แสวงหาบุญทำบุญมาตลอดชีวิต บางท่านอาจกล่าวอ้างได้ว่า ทำบุญทุกวัน มีคนมาขอให้ช่วยโน่นช่วยนี่ สร้างวัด สร้างโรงเรียน หนทางบุญเยอะไปหมด

มาวันนี้ ยามที่ตนของตนเกิดวิกฤต ก็แล้วบุญเหล่านั้นที่ทำมาหายไปไหนหมด ไม่มาเกื้อกูล ตนของตนบ้าง

ที่น่าแปลกกว่า ก็คือ แหล่งที่กล่าวอ้างว่าเป็นแหล่งบุญ ที่โน่นศักดิ์สิทธิ์ ที่นี่ศักดิ์สิทธิ์ ในยามที่ดีๆนั้น มาวันนี้ ยามวิกฤต กลับพาตนของตนไปโรงพยาบาล ไม่พาไปหาไปนอนในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันนั้นเลย

หลวงพ่อนิพนธ์จึงย้อนอดีตถ้ำกระบอก เมื่อครั้งโอดครวญกับแม่ชีเมี้ยนว่า ทำไมพระของแม่จึงลำบากแท้ ฉันมื้อเดียว รถเรือไม่ขึ้น อาพาธก็ไม่มียกเว้น เงินทองก็รับไม่ได้ ทีวี .. ก็ห้ามดู

คำตอบที่ได้ นั่นคือ พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้เรื่องบุญ จึงบัญญํติเป็นคำสอนว่า "ให้สุขแก่เขา สุขนั้นถึงตัว"

ขยายความให้ฟังว่า ด้วยเหตุอันนี้เอง พระวินัยของพระพุทธเจ้า จึงเป็นวินัยทุกข์ สงฆ์สาวก จึงทำตนกลายเป็นคนทุกข์ จนที่สุดในโลก เพราะไม่มีเงินแม้แต่เก๊เดียวในย่าม ไม่มีแม้แต่น้ำดื่ม มีแต่เพียงจีวร เครื่องใช้เพียงชุดเดียว จึงเป็นผู้ที่ทุกขเวทนาที่สุด

หรือย้อนกลับไปยังนางสุชาดา ทำไมข้าวมธุปายาสแค่ก้อนเดียว ที่ถวายแด่พระโคดม จึงแทบจะทำให้ผลบุญอันนั้น ทำให้นางสำเร็จเป็นอรหันต์เลย ก็เพราะหากไม่มีข้าวนั้นแล้ัวไซร้ ก็ไม่มีพระพุทธเจ้ามาสอนสงฆ์สาวก นับแสนองค์นั่นเอง อานิสงฆ์จึงมากมายนัก

อุปมาเหมือนคนผู้หนึ่ง มีน้ำแก้วหนึ่ง แล้วนำน้ำนั้นไปให้กับผู้มีน้ำเป็นตุ่ม น้ำนั้นก็ให้สุขน้อยนิด หรือแทบไม่ได้เลย แก่ผู้รับ เพราะตนมีเหลือแล้ว ในขณะที่ สงฆ์สาวก เดินธุดงค์มา ไม่มีน้ำ หิวกระหายเป็นกำลัง โยมก็นำน้ำแก้วนั้น มาให้ น้ำนั้นจึงมีค่าอันมหาศาลแก่สงฆ์รูปนั้น ให้สุขอันมหาศาล ผลมันจึงมหาศาลนั่นเอง

แปลความย้อนกลับ บุญจึงไม่เกิด หากไม่มีผู้ทุกข์ยากนั่นเอง

สมุนไพรตำราแม่ชีเมี้ยน สูตรของพระภูมี แม้นจะดีเลิศสักปานใด หากแต่ไม่มีผุ้ทุกข์ ไม่มีผู้ที่เป็นโรค ก็ไร้ค่า สร้างบุญไม่ได้เลย เช่นกัน

คนที่ไม่มีโรค จึงไม่สามารถก้าวข้ามไปยุ่งเกี่ยวได้เลย เพราะเขายังไม่ทุกข์ ไม่จำเป็นต้องพึ่งพา ศาสน์ จึงมีขอบเขต หมายความว่า ผลที่ได้ก็ต้องเกิดจากความยินยอมพร้อมใจ ... นั่นคือ ศรัทธา ความเชื่อ ต้องมาก่อน สองฝ่ายจึงต้องร่วมกัน ผลจึงเกิด

ยกการเปรียบให้ฟัง ว่า เมื่อเราท่านเป็นเจ้าของมะพร้าวสองลูก ไปให้คนหิวทาน ผ่านไปไม่นาน คนคนนั้นก็หิวอีก ค่าของมะพร้าวก็หมดไป หากแต่เมื่อนำมาทำเป็นสมุนไพร คุณค่าของสมุนไพร คงอยู่ในตัวคน ทำให้คนหายโรค ค่าจึงมหาศาล หากแต่ขณะเดียวกัน อีกคนหนึ่งไปสร้างเจดีย์ มูลค่าอันมหาศาล แต่ช่วยใครไม่ได้เลย ให้สุขใครไม่ได้เลย ผลบุญของมะพร้าวสองลูก จึงมากมายกว่าเจดีย์นัก

เคล็ดของการหาบุญ หลวงพ่อนิพนธ์จึงบอก หาคนทุกข์ให้เจอ อาทิ ครอบครัวต้องเป็นทุกข์เพราะนิสัยเราท่าน ที่โมโหร้าย โกรธง่าย แค่ไม่โกรธ ไม่ตบตี หลวงพ่อนิพนธ์ก็บอกว่า นั่นเป็นบุญแล้ว ครอบครัวก็ไม่เป็นทุกข์ พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า มองบุญอย่างมองไกล แหล่งบุญคือมนุษย์และสัตว์ ที่เป็นทุกข์นั่นเอง ให้สุขแก่เขา สุขนั้นถึงตัว บุญจึงทำได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่จำเป็นต้องทำกับพระ

หากแต่พระ ที่ปฏิบัติตามวินัยของพระภูมี เป็นผู้ทุกขเวทนายังไม่พอ ยังเอากำลังที่ได้ปฏิบัติธรรมอีก ... ผลมันจึงมาก เป็นแหล่งเนื้อนาบุญที่ดีที่สุดนั่นเอง

ปัญหาก็คือ พระสงฆ์ที่เราท่านไปสนับสนุนนั้น เดินตามใคร เพราะเห็นแต่พระที่มี มองไปทางไหน จะถวายอะไร ท่านก็มีมากซะเหลือเกิน ล้นจนไม่มีที่จะเก็บ แล้วจะหวังผลบุญจากการถวายได้อย่างไร

พระของพระพุทธเจ้า จะรอถวายจีวรสักผืน โน่นสี่ปีห้าปี เพราะท่านปะแล้วปะอีก ไม่ยอมเปลี่ยน

หากแต่สิ่งหนึ่งที่แม่ชีเมี้ยนทรงตรัส นั่นคือ การที่ชวนชักให้คนมาบริจาคสมุนไพร พระพุทธเจ้าซ่อนปมอันหนึ่งไว้ นั่นคือ เมื่อผู้ให้เป็นผู้ช่วยให้ผู้อื่นพ้นจากโรคนั้น อาทิ มะเร็ง ด้วยมะพร้าวแล้วไซร้ เจ้าของหรือผู้ให้ จะมาเป็นมะเร็งเองได้อย่างไร นี่เรียกว่า การตัดไฟแต่ต้นลม ทำซะ แล้วจะได้ไม่ต้องไปเป็นนั่นเอง ... จึงไม่แปลกที่ทำไมเรียกหลักนี้ว่าหลักปราชญ์

ไม่ได้หวังว่าทุกคนจะทำ เพราะธรรมชาติมันต้องมีชูชก และพระเวสสันดรคู่กัน หากแต่ขอให้มันสมดุลย์ก็พอ

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44