วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2557

เหมือนและต่าง


ธรรมชาติสร้างสองสิ่งมา นั่นคือ อาหาร และสมุนไพร

ความเหมือนของสองสิ่ง นั่นคือ จักแสดงผลก็ต่อเมื่อผ่านกระบวนการย่อยของท้อง แล้วร่างกายก็จักแยกแยะนำสารที่มีไปใช้ ตามที่ร่างกายต้องการ

หลวงพ่อนิพนธ์อธิบายให้เห็นว่า ความต่างของมันก็คือ อาหาร ไม่สนพฤติกรรมของผู้ทาน ไม่ว่าผู้ทานจะเป็นใคร เป็นอะไร ฐานะใด เมื่อทานก็ให้ผลเฉกเช่นเดียวกัน นั่นคือ ทานแล้วก็โต เหมือนกันหมด

แต่สมุนไพรหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ผลแห่งการทานสมุนไพรกลับผูกติดกับพฤติกรรมของผู้ทาน อันหมายความว่า สมุนไพรสูตรของพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยนนำมา ชนิดเดียวกัน หม้อเดียวกัน ทานเหมือนกัน แต่ผลที่ได้กลับไม่เหมือนกัน จึงบัญญัติคำว่า นี่แหละผลแห่งการกระทำกำหนด เรียกว่า "ต่างกรรมต่างวาระ"

นี่เองจึงทำให้ธรรมหมวดสมุนไพร จึงต้องมีสองขา หนึ่งคือขาสมุนไพร อีกหนึ่งคือขาบุญ ...

ก็ด้วยขาบุญนี้เอง ที่พระภูมีชี้ให้เห็นทางว่าต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ด้วยพฤติกรรมเดิมนั้นมีนิสัยกรรมนำ สร้างทุกข์ให้แก่ผู้อื่น เป็นเหตุแห่งที่มาของโรค ก็ต้องอาศัยนิสัยธรรมนำ สร้างสุขให้แก่ผู้อื่น

ตัวอย่างที่หลวงพ่อนิพนธ์ยกมาให้ดู ผลแห่งพฤติกรรม นั่นคือ การที่หมอปัจจุบัน มักจะสั่งให้คนไข้ ทำจิตใจให้สงบ ผ่อนคลาย สร้างสภาวะที่ร่าเริง แจ่มใส

กายวิภาคที่พระพุทธเจ้าทรงชี้ให้เห็นว่า ผลแห่งอารมณ์โกรธ จักทำให้เกิดสภาวะเป็นกรดแก๊สในกระเพาะ ที่หนักไปกว่านั้นนั่นคือ จักทำให้การทำงานของต่อมไร้ท่อต่างๆ หยุดทำงาน หรือทำงานไม่เป็นปกติ

นี่เป็นสาเหตุอันเป็นต้นกำเนิดของโรคต่างๆ ตามมา ด้วยความเป็นพหูสูตรของพระภูมี รู้ธรรมชาติของมนุษย์ แม่ชีเมี้ยนจึงตรัสว่า เมื่อหลวงพ่อนิพนธ์จักช่วยคนเหล่านี้ ก็จึงต้องนำสัจจะ ไม่โกรธ ให้ปฏิบัติ เริ่มจากวันละ ๑ ชั่วโมง ผลที่ได้ก็จักเกิดมหาศาลแล้ว

ความเป็นปราชญ์และรอบรู้ธรรมชาติของกรรม ธรรมบัญญัติของพระภูมี ที่ให้กระทำ เสมือนยิงนกทีเดียวได้นกหลายตัว จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า เพราะการผูกติดกับพฤติกรรมนี้เอง ในยุคุถ้ำกระบอก จึงต้องเริ่มต้นด้วยการถวายสัจจะ ในการฟื้นฟูตน

บทสรุปหลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ว่า สมุนไพรที่อื่น เขาทำเพื่อเลี้ยงตน ไม่ได้ทำเพื่อช่วยคน จะทำอย่างไร จะทานอย่างไร ก็แล้วแต่ ... หากแต่ความเป็นจริงคือ ไม่มีผลในการช่วยฟื้นฟูตน เฉกเช่นเดียวกับการทานยาหมอ ยาเคมี ... ซึ่งไม่ต้องสนพฤติกรรมใดๆ ของผู้ทานเลย หากแต่บัญญัติธรรมหมวดสมุนไพรของพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยนนำมา หากจะหวังซึ่งผลแห่งการทาน พฤติกรรมของผู้ทาน เป็นตัวกำหนดผลแห่งการทานนั้นๆ

และความเหมือนอาหารที่เด่นชัด สมุนไพรของพระภูมี จึงไม่มีเพื่อเฉพาะโรคใด เฉกเช่นอาหารที่ทาน ก็ไม่ได้ทานไปเพื่อส่วนใดของร่างกาย จึงไม่มีความจำเป็นต้องถามว่า เป็นโรคนี้ทานอะไร เป็นโรคนั้นทานอะไร ไม่มี สมุนไพรของพระภูมี จึงเป็นสูตรรอบครอบจักรวาล จัดการทั้งระบบอวัยวะ ๓๒ เป็นวัตถุดิบให้ร่างกายได้ไปฟื้นฟู สร้างภูมิ เมื่ออวัยวะสมบูรณ์ก็สามารถทำหน้าที่ในการกำจัดโรค หรืออาการที่เป็นได้เอง ตามธรรมชาติอยู่แล้ว

สมุนไพรของพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยน จึงมีสถานะ "ทำอย่างไร ได้อย่างนั้น" คำแนะนำของวิทยากรที่มักได้ยินบ่อยๆ นั่นคือ การสอนให้ไหว้ก่อนทาน เพราะการไหว้นั่นแสดงถึงว่าสิ่งนั้นเป็นของสูง หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า "ของสูงเท่านั้น จึงจะดึงวิญญาณของเราท่านขึ้นจากที่ต่ำได้"

การวางสถานะจึงเป็นสิ่งจำเป็น ... ถือไว้กับรองเท้า เก็บไว้ต่ำกว่าหมูกว่าผัก ในตู้เย็น ... สิ่งเหล่านี้ จึงเป็นคำเตือนที่ได้ยินบ่อย จนหลายคนรำคาญ แต่นี่แหละคือพฤติกรรมที่มีผลต่อคุณค่าของสมุนไพรที่จะฟื้นฟูชีวิต

เราท่านจะมีความเชื่อ มีความเห็นประการใด ก็ไม่ว่ากัน .. แต่ตอนนี้เมื่อเราท่านเผชิญโรค มาบีบคั้น ต้องการแก้ไขด้วยวิธีสมุนไพรของพระภูมี ข้อปฏิบัติเหล่านี้ จำเป็นต้องทำ วางพฤติกรรมเดิมไว้ก่อน หลวงพ่อนิพนธ์บอกว่า ดังภาษิต เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม ... นั่นคือ ต้องทำ หากต้องการช่วยตน หากแต่เมื่อก้าวข้ามพ้น ช่วยตนจนสำเร็จ จะกลับไปทำตามพฤติกรรมเดิมๆที่ชอบ ก็ไม่ว่ากัน

บทสรุปที่เราอยากย้ำคำของหลวงพ่อนิพนธ์อีกครั้ง นั่นคือ บัญญัติธรรมของพระภูมี เป็นธรรมสายกลาง บัญญัติบุญเกิดจากมนุษย์และสัตว์ ไม่จำเป็นหรอกที่จะต้องทำกับพระ หรือทำที่วัดจึงเป็นบุญ นั่นพราหมณ์มันเขียนให้ตัวมันสุขสบาย

นี่แหละคือความยาก ที่คนมากหลายทำไม่ได้ ... แต่คนที่ทำได้ ย่อมประสพผล ไม่สนหรอกว่าโรคที่เป็นจะคือโรคอะไร ขอเพียงยังมีพรหมลิขิต ย่อมถึงฝั่งความไม่มีโรคอย่างแน่นอน และก็ทุกยุคทุกสมัยก็ประจักษ์ว่า มีผู้ที่ทำได้ แม้นจะน้อย แต่ก็มีเป็นแสน เล่าขานมาจนทุกวันนี้

อย่างน้อยตอนนี้ แค่โรคมะเร็ง เราท่านก็เห็นคนประสพผลเป็นร้อย เดินให้เห็นเป็นประจักษ์

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44