เมื่อมีวาสนามาพานพบ เฉกเช่นที่วิทยากรท่าน อ.อร่าม ชอบพูด แม้นว่าจะเป็นเพราะโรคภัยไข้เจ็บพามา จนเจอศาสนาก็ตามที ได้ยินได้ฟังหลวงพ่อนิพนธ์สอน รวมทั้งแกมบังคับ ให้ทำบุญแบบพระพุทธเจ้าที่แท้จริง ตามที่แม่ชีเมี้ยนนำมา
ใครจะปฏิเสธไม่ยอมรับสักฉันใด ความจริงก็คือความจริง เมื่อทำผิด ผลผิดจึงเกิด ครั้นเมื่อทำถูก ผลถูกก็ต้องเกิด แม้นจะกลบเกลื่อนสักฉันใด ก็อุปมาเหมือนเอาใบบัวมาปิดช้างตายนั่นแล
หนทางบุญ ที่คนทั้งโลก คิดเอง ทำเอง ยามช้างตาย นั่นคือ กรรมมา ใบบัวที่กล่าวอ้าง ว่าเป็นบุญใหญ่ ดีอย่างงั้น ดีอย่างนี้ จึงช่วยไม่ได้ เพราะไม่มีจริง เมื่อมา ณ. ที่นี้ แม่ชีเมี้ยนทรงตรัสเสมอว่า "ศาสน์มานั่ง ณ.ที่นี้ พูดความจริงตลอด"บุญที่หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้ทำ จึงเป็นบุญของจริง มีผลต่อการหยุดเวรหยุดกรรม หยุดโรคพยาธิที่เป็นได้
ไม่ได้ห้าม ไม่ให้คิด ไม่ให้ทำ ในแนวทางที่ตนชอบ แต่ขอให้วางไว้ก่อน มาทำบุญแบบพระพุทธเจ้า ที่แม่ชีเมี้ยนนำมา เพื่อช่วยตนก่อน พ้นแล้วจักทำฉันใด ก็ตามแต่ ไม่มีใครว่า
เมื่อหนทางในการช่วยตน อาศัยสองขา คือสมุนไพร และบุญ จึงเห็นผล การทำบุญจึงสำคัญ แต่ที่สำคัญกว่า นั่นคือ บุญที่ได้นำไปใช้อย่างไร
หลวงพ่อนิพนธ์ จึงมักยกอดีตถ้ำกระบอก ครั้งแม่ชีเมี้ยนทรงสอนพระ นั่นคือ ไม่มีอะไรฟรี สิ่งที่ได้มา เอามา ย่อมต้องมีของตอบแทน หากแต่พระไม่มีเงินทองสมบัติ สิ่งเดียวที่มีนั่นคือ บุญที่ทำได้ เมื่อรับของจากญาติโยมมา ก็ต้องใช้บุญที่มีนั้นจ่ายไป
ผลก็คือ สมัยนั้นจึงยากยิ่งที่พระจะรับของจากญาติโยม จีวรพระของพระพุทธเจ้า จึงปะแล้วปะอีก เพราะกลัวเป็นหนี้ กลายเป็นผืนนา พระถ้ำกระบอกก็เฉกเช่นเดียวกัน รองเท้าถ้าไม่เก่าขาดจนใช้การไม่ได้ ก็ไม่ยอมที่จะเปลี่ยน เพราะรู้ดีว่าบุญมีค่าสุดประมาณ ไม่ยอมเสียกันง่ายๆ
อดีตนับแต่พุทธกาล ทุกคนจึงคอยจ้องว่าเมื่อไหรพระองค์ไหนจะเปลี่ยน หรือมีสิ่งใดขาด จะได้อาศัยเกาะชายผ้าเหลือง เป็นบุญเลี้ยงตน แต่ก็ยาก ด้วยเหตุที่พระแต่ละองค์ก็ล้วนเลือกบุคคลที่ตนจักส่งบุญให้ ซึ่งก็มักเป็น พ่อแม่นั่นเอง
โอกาสได้บุญด้วยการนี้ จึงเหลือน้อย เปิดช่องให้ก็เพียงแต่ข้าวหนึ่งมื้อ ซึ่งคนไม่รู้ ก็บอกว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาขอเขากิน หากแต่ความเป็นจริง กลับกลายเป็นว่า เปิดโอกาสที่จะให้บุญเป็นเครื่องตอบแทนต่างหาก
ครั้นมาดู ณ. วันนี้ หลวงพ่อนิพนธ์เปิดทางบุญไว้ ชี้ช่องให้เห็น ก็มีคนทำตามบ้าง ไม่ทำบ้าง แต่ที่แกมบังคับ นั่นก็คือ การสวดมนต์ ถึงจะไม่เป็นกอบเป็นกำ แต่ก็มีบุญติดไม้ติดมือ ไว้ช่วยตน เต็มใจหรือไม่ก็ตาม
คำสอนที่หลวงพ่อนิพนธ์มักสอนเสมอ นั่นคือ การให้สุขเป็นบุญ ในทางกลับกัน เราท่านผู้เสวยสุข จากผลแห่งการกระทำของผู้อื่น ย่อมต้องไม่ได้มาเปล่า ก็ต้องเสียบุญที่มีให้ไป นั่นคือ ผลแห่งชูชก นั่นเอง
แม่ชีเมี้ยน ยกตัวอย่างพระโคดม ให้หลวงพ่อนิพนธ์ฟังไว้ว่า เมื่อครั้งธุดงค์ไป ถึงเวลาพักปักกลด ในเวลาบ่าย ก็ทรงไปปักกลดใต้ร่มไม้ ครั้นพระโคดมเห็นข้าวของชาวนา ออกรวงสุกรอเก็บเกี่ยว พระโคดมก็ลงไปเกี่ยวข้าวนั้น กองเอาไว้ และในร่มไม้ มีหญ้ารก ก็ถางจนเตียนโล่งน่านั่ง ครั้นเช้า ก็เสด็จไปรับบิณฑบาต ในหมู่บ้านชาวนานั้น
คำอรรถาธิบาย ทำไมต้องทำเช่นนั้น ก็เพราะจะได้ไม่มีหนี้ ทั้งๆที่พระพุทธเจ้ามีบุญมากมาย ยังกลัวเป็นหนี้เลย นี่แหละจึงเป็นเหตุให้พระถ้ำกระบอกสมัยนั้น จึงไม่กล้าเรียกร้อง และยากที่จะเปลี่ยนเครื่องอัฐบริขารง่ายๆ
แต่คนไข้ที่มา มีบุญที่ทำได้เพียงน้อยนิด กลับใช้ไปอย่างไม่กลัวหมด ทานแล้วทิ้ง ให้คนอื่นมาเก็บ หยิบเก้าอี้มานั่งได้ หยิบไปเก็บไม่ได้ เปิดพัดลมได้ ครั้นจะไป ก็ไม่ปิด .... ดูแล้วช่างน่าเสียดายบุญของคนเหล่านั้นนัก จะเหลือไว้ช่วยตนสักเท่าไร เมื่อกลับไป
โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี เมื่อใช้ย่อมต้องจ่าย หลวงพ่อนิพนธ์จึงสอนให้เราท่าน เมื่อทานสมุนไพร ทำเองก็ไม่ไหว แต่ต้องกินของเขา จึงให้ทำตน เป็นผู้ให้บางสิ่ง เพื่อไม่เป็นหนี้กัน กินพริกไทย ดีปลีเขา ก็เอามะพร้าวเราให้เขากิน เรื่องของบุญไม่คิดเรื่องแพงถูก จะมากน้อย ก็ถือเจ๊ากันไป ไม่มีใครเป็นหนี้ใคร
หลวงพ่อนิพนธ์ สอนให้สร้างบุญ เสียดายทีแม้นมีจริงแต่มองไม่เห็น ยามผลบุญดลบันดาล ให้หายเจ็บ ให้พ้นเคราะห์ ก็ไม่รู้ ... ทั้งที่เงินทั้งโลกมากอง ก็ช่วยตนของเราท่านไม่ได้ แต่บุญช่วยได้ .. มันจึงไม่เห็นค่า ไม่หวงบุญ
โลกของบุญ แม่ชีเมี้ยน สอนไว้ แม้นช้อนตกเพียงด้าม เห็นก็เก็บมาล้างแล้วใช้ต่อ ไม่ควรที่จะเมินเฉยแล้วร้องขอญาติโยมนำมาให้ใหม่ เขาละเอียดกันขนาดนี้ หวงกันขนาดนี้
หากจะฟื้นฟูตน ขาของสมุนไพรคงไม่ค่อยมีปัญหา หลวงพ่อนิพนธ์ท่านให้ครบอยู่แล้ว แต่ขาของบุญ ต้องสร้างเอง ยิ่งไปกว่านั้น สร้างได้ก็ต้องเก็บไว้ใช้ที่จำป็น อย่าไปทิ้งขว้าง ตามนิสัย ....
นี่แหละเหตุที่ทำไม ต้องพึ่งตนเอง ก็เพราะหวงบุญนี่เอง แทนที่จะต้องจ่ายบุญให้คนเก็บเก้าอี้ที่เราท่านหยิบมานั่ง ข้าไม่ให้ ข้าเอาไปเก็บเอง แทนที่จะทานสมุนไพรแต่ของผู้อื่น ข้าไม่ให้ เอามะพร้าวข้าไป .... หวงบุญสุดๆ เก็บเอาไว้ใช้ให้เวรกรรมที่ทำมา เพราะเงินล้านกรรมมันไม่มอง แต่บุญมันซ์้อได้ ... นี่แหละทำไมต้องทำบุญ และหวงบุญ
เอกลักษณ์ของบุญ คือ ความสงบ ... รักษาอาการสงบได้ ก็รักษาบุญของตนไว้ได้ ... ไม่ต้องแปลกใจเลยว่า เมื่อถึงเวลาเปิดหน้าสู้ศึกกับโรค ทำไมหลวงพ่อนิพนธ์จึงต้องให้ทำ เพราะไม่มีบุญ สมุนไพรขาเดียว ก็มองไม่เห็นฝั่งอย่างแน่นอน
เมื่อมีบุญแล้ว หลวงพ่อนิพนธ์จึงสอนว่า อุปมาเหมือนมียักษ์ในตะเกียง ทีนี้ก็สั่งซิ อธิษฐาน อยากได้อะไรหล่ะ ชี้เป้าให้บุญบันดาล .... ผลจึงเกิด
อย่าไปนั่งขอเลย ขอให้ตายก็ไม่เกิดผล หากตนของตน หาบุญไม่ได้แม้นแต่เก๊เดียว ...