วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

อย่าสับสน

พระภูมีสอนให้เรา เมตตาตนเองก่อน เพื่อให้ได้เรียนรู้สิ่งที่ถูก เมื่อนำไปปฏิบัติ ผลที่ได้จึงจะถูก

หากแต่การเมตตาตน ไม่ใช่การเห็นแก่ตัว แล้วไปเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น

ตรงกันข้าม ยิ่งเราเมตตาตนเอง อยากให้ตนมีสุขสักเท่าใด ยิ่งต้องน้อมนำธรรม หมวด "ให้สุขแก่เขา สุขนั้นถึงตัว" มาปฏิบัติจนเป็นนิสัย หรือ สัญชาตญาณ มากยิ่งขึ้น

หาใช่ เมตตาตน แล้วดูแลแต่ตนเอง ให้ได้รับสิ่งดีๆ ก่อนผู้อื่น นำของผู้อื่นมาปรนเปรอตน ใช้ความรู้ที่มีเอาเปรียบผู้อื่น คงไม่ใช่สิ่งที่พระภูมีสอนเป็นแน่แท้

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงได้ยกตัวอย่าง แม่ค้าขายผัก กลัวผักจะเน่า ขายไม่ได้ จึงนำไปแช่สารฟอมาลีน เพื่อให้ดูสด หรือฉีดยาฆ่าแมลง เพื่อให้ดูสวย แล้วนำไปขายได้ราคาดี

แม่ค้าผู้นั้นกลับมาบ้านด้วยความภาคภูมิใจ ในกำไรที่งอกเงยขึ้น และมีเงินซื้อสิ่งของมาปรนเปรอตนและครอบครัว ได้มากขึ้น

แต่เมื่อผลของการทำเช่นนั้น ทำให้ผู้อื่นเกิดแผลในกระเพาะ รายแล้วรายเล่า จนสะสมกรรมย้อนกลับมาให้แม่ค้านั้นเป็นมะเร็ง

คนผู้นั้น เมื่อมาหาหลวงพ่อนิพนธ์ ก็กล่าวอ้างว่า ตนไม่เคยฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต ทำไมจึงมีกรรมเช่นนี้ได้

ก็ด้วยพฤติกรรมสร้างทุกข์ให้ผู้อื่น จะเรียกเงินที่ได้น้ั้นว่าเป็นสิ่งที่ให้สุขหรือทุกข์ แก่แม่ค้านั้น

ดังนั้น ผู้ที่คิดจะเมตตาตนอย่างแท้จริง หลวงพ่อนิพนธ์จึงสอนว่า คือผู้ที่อยากมีสุข จึงคิดและทำสิ่งที่ให้สุขแก่ผู้อื่นเสมอนั่นเอง เพราะเขาเชื่อในพระภูมีสอน ที่ว่า "ให้สุขแก่เขา สุขนั้นถึงตัว"

เมื่อไม่คิดจะทำร้ายแม้แต่คนอื่น เขาจะคิดทำร้ายตน ด้วยการทานเคมี ให้ไปทำร้ายอวัยวะ ตับไตไส้พุงได้อย่างไร

ตรงกันข้าม หากแม้ตัวเอง ยังทำร้ายตัวเองได้ เชื่อได้หรือว่า เขาจะไม่ทำร้ายเรา แน่ใจหรือว่าเขาคือคนดี ยิ่งได้มาเป็นผู้นำด้วย เราจะวางใจคนคนนี้ได้หรือ

เส้นทางเมตตาตน จึงเดินสวนทาง กับเห็นแก่ตัว อย่างสิ้นเชิง นั่นเอง อย่าไปเหมารวมกันอย่างเด็ดขาด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44