สัปดาห์นี้ ญาติคนไข้ท่านหนึ่ง แจ้งแก่หลวงพ่อนิพนธ์ว่า คนไข้ที่มารักษา ตอนนี้กลายเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ จะให้ทำอย่างไร
ประวัติศาสตร์ ที่ทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลัง ได้ศึกษาและเลือกทางเดิน ก็คงไม่มีค่า หากแม้นคนรุ่นหลัง ไม่คิดจะศึกษา เรียนรู้ ค้นคว้า เพื่อใช้เป็นอนุสติในการเลือกทางเดินของตน
จากอดีต มาจนถึง คุณหญิง ม.ล. พ.ญ. แสงจันทร์ จนมาถึงท่านนี้ ซึ่งเป็นถึงรองผู้ว่าการ จึงเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างน่าเสียดาย
ท่านรองผู้ว่าการ มาหาหลวงพ่อนิพนธ์ ด้วยอาการมะเร็งที่ลิ้น รักษาหมอแผนปัจจุบัน จนหมอบอกว่า "หมดทาง" ต้องทำการตัดลิ้น ด้วยความที่ไม่อยากตัดลิ้น จึงหันมาเลือกทางสมุนไพร ตามคำชวนของเพื่อนดู
แต่ทางเลือกนี้ ก็เป็นดังไก่รองบ่อน ดังเช่นหลวงพ่อนิพนธ์กล่าว ผลที่ปรากฎ เมื่อทานสมุนไพรไประยะหนึ่ง อาการมะเร็งที่ลิ้น ก็หยุดการเติบโต
แต่ผลที่ได้ ไม่เร็วดังใจหวัง เมื่อปรึกษาแพทย์ ที่เคยทิ้งเขา ก็เชื่อในสิ่งที่เขาวาดฝันให้ เพื่อให้ท่านผู้ว่าการได้สมหวังเร็วดังใจ
หมอ ให้ท่านผู้ว่าการเข้าคอร์สคีโมฉายแสง ซึ่งผู้ว่าการก็อาจลืมไปว่า หมอเคยทิ้งเขาไปแล้วครั้งหนึ่ง ด้วยฝันอันใหม่ที่หมอมอบให้นั่นเอง
ท่านผู้ว่าการ ทิ้งสมุนไพร ไปเข้าคอร์สฉายแสงคีโม ตามหมอแนะนำ ผลของการคีโม ทำให้ท่านผู้ว่าการเกิดอาการช็อค หมดสติ กลายเป็นเจ้าชายนิทรา
ญาติคนไข้ กลับมาหาหลวงพ่อนิพนธ์ เพื่อขอคำแนะนำ
ประวัติศาสตร์ เยี่ยงนี้ พบเห็นแล้ว เห็นอีก พร้อมกับคำถามที่หลวงพ่อนิพนธ์มักกล่าวว่า เมื่อเป็นดังนี้แล้ว ใครที่ต้องรับผิดชอบ
นี่แหละผลของการประมาท ไม่เรียนรู้ ความเชื่อ และศรัทธา จึงไม่เกิด เมื่อเจอสิ่งยั่วยวน ความหอมหวาน จากฝันที่เขาวาดให้ จึงไปตามเขา ผลสุดท้าย วิญญาณของรับนั่นแหละเป็นผู้รับ
และในวันเดียวกันนี้เอง ก็มีคนไข้โคมา เป็นมะเร็งที่ขั้วตับ ผ่านการรักษาจากหมอ เสียเงินไปหลายล้านบาท จนมาถึงวันนี้ วาจาอันอมตะ ก็เอ่ยออกมา คือ "ทำใจน่ะ"
เมื่อหมดทาง จึงเหลือแต่ไก่รองบ่อน ที่รักษาฟรี เป็นตัวเลือกสุดท้าย หลวงพ่อนิพนธ์บอกว่า กระนั้นก็ตาม เราก็ต้องช่วย พร้อมกับคำถามที่เราสงสัยว่า ประวัติศาสตร์หน้านี้จะเดินไปทางไหน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น