คนไข้ท่านนึง มีสถานะทางสังคมเรียกได้ว่า ฐานะดี ความรู้ดี เพียบพร้อมทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีลูกเป็นหมออีกต่างหาก
และก็เฉกเช่นคนทั่วไป โรคที่เป็นก็อาศัยเงินเป็นใบเบิก เพื่อไปให้ถึงฝั่งฝันคือการหายโรค แต่ผ่านวันผ่านคืน จากโรคเดียว ก็เพิ่มขึ้นเป็นสอง เป็นสาม เป็น...
วันนึง เมื่อหลายปีก่อน มีเพื่อนแนะนำว่า ลองทางแพทย์สมัยใหม่และวิธีอื่นมามากมาย หมดเงินไปก็มากมาย ไม่ประสพผล ทำไมไม่ไปลองทานสมุนไพร ของหลวงพ่อนิพนธ์ ที่ชมรมคนรักสุขภาพ เมืองกาญจน์ บ้าง เผื่อจะดีขึ้น
ทั้งที่ยังไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยิน ได้ฟัง เกี่ยวกับหลวงพ่อนิพนธ์ หรือ ชมรมคนรักสุขภาพ แม้กระทั่งเรื่องราวเกี่ยวกับสมุนไพรใดๆ เลย
เขาตอบกับเพื่อนคนนั้นว่า "โอ๊ยไม่เอาหรอก ยาหม้อไทย ทั้งสกปรก ไม่สะอาด ไม่รู้เอาอะไรมาให้กิน"
เขาพูดด้วยจินตนาการ จากภาพที่เคยเห็น และจากความคิดเห็นของตนที่มีต่อหมอสมุนไพรไทยของตน
เวลาผ่านไปอีกสองปีกว่า พร้อมกับสภาพที่ทรุดลงเรื่อยๆ จึงปรึกษากับลูก ได้ข้อสรุปที่ต้องทำใจรับว่าสภาพมีแต่ทรงกับทรุด
ลูกที่เป็นหมอจึงลงความเห็นว่า ให้ลองมาใช้แพทย์แผนไทยดู
วันนี้ของเขากล่าวให้ฟังว่า โชคดีที่เขาเปลี่ยนใจมาใช้แนวทางสมุนไพร ทำให้ปัจจุบัน อาการของเขาดีขึ้น จนแทบจะเกือบเป็นปกติแล้ว
พร้อมกับย้อนอดีตให้ฟังว่า ถ้ามาเมื่อหลายปีก่อน และไม่คิดไปเองว่า สมุนไพรของแม่ชีเมี้ยน จะโบราณ ไม่น่าเชื่อถือ ตัวเขาเองก็คงหายไปนานแล้ว แต่ก็ยังดีที่ยังมีวันเวลาให้ช่วยตนเองได้
ใครที่มีความคิด ติดตา ติดใจ มาจากหนัง ละคร ว่าสมุนไพรไทย ต้องต้มจนหม้อดำเขรอะ สกปรก ไม่รู้เอาใบอะไรมาใส่มั่ง มั่วหรือเปล่า มีมาตรฐานหรือเปล่า ...
หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า พระภูมีเขาไม่ชุ่ยหรอก โดยเฉพาะเรื่องของชีวิต เพราะถ้าพลาด ผู้ทำย่อมได้รับบาป ....
เงินก็ไม่เอา แถมยังได้บาปอีก .... "ไม่ใช่ควายน่ะ... " จึงทำอย่างนั้น