วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เรื่องของสุภาษิตโบราณ

ในคำสอนของหลวงพ่อนิพนธ์ ท่านมักจะยกคำสุภาษิตโบราณมา และแสดงความหมาย ทำให้เราคิดว่า อาจเป็นคำที่พระพุทธเจ้าท่านใช้เปรียบเทียบแต่โบราณ นานๆเข้า ความหมายอาจจะเพี้ยนไปบ้าง แต่เมื่อมารวมกัน และใช้อธิบายธรรมหมวดสมุนไพร ทำให้เราเห็นความหมายที่ชัดเจน ว่าท่านหมายถึงอะไร มีภาษิตหลายตัวที่เราฟังแล้วเห็นว่ามีประโยชน์ ก็อยากจะเก็บมาเล่าให้ฟังกันต่อ


ประโยคแรกที่หลวงพ่อนิพนธ์ท่านมักใช้บ่อยคือ "รำไม่ดี โทษปี่โทษกลอง" เหตุที่ท่านมักพูดประโยคนี้บ่อยๆ เพราะว่า คนทั่วไปจะเห็นท่าน สูบบุหรี่จัด ทานกาแฟวันละ นับสิบแก้ว จึงมักถามท่านว่า ทำไมจึงต้องทำอย่างนี้ ในเมื่อท่านสอนให้คนเป็นคนดี แต่ภาพของการสูบบุหรี่มันเป็นภาพที่ขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง เพราะสังคมสมัยนี้ เขารณรงค์ และ ชี้ให้เห็นว่า คนสูบบุหรี่เป็นคนไม่ดี

คำตอบที่เราฟัง และทำให้เราถึงบางอ้อ ก็คือ "ก็เราเป็นผู้นำ ต้องเป็นผู้ที่ทำให้ดู เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น" ท่านมักบอกว่า สิ่งเหล่านี้ เราเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ แต่มนุษย์สมัยนี้ อ้างโน่น อ้างนี่เป็นเหตุ ท่านจึงแสดงให้ดูว่า ท่านเป็นชายวัยย่าง 70 ปี สูบบุหรี่ วันละสองซอง ทานกาแฟ นับสิบแก้วต่อวัน สิ่งที่คนหรือหมอหรือใครมักจะอ้างว่า ทำให้เป็นโรคนั้นโรคนี้ ทำไมไม่เป็น สิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันคำพูดของพระพุทธเจ้าว่า "มนุษย์ต้องเป็นไปตามกรรม" ในเมื่อท่านเดินตามรอยพระพุทธเจ้า ชักชวนให้คนมาเดินตาม ไม่มีกรรมที่จะมาเป็นโรคเหล่านี้ การทำสิ่งนี้ ก็ไม่สามารถบันดาลโรคให้มาเกิดกับท่านได้

ท่านจึงชี้ให้เห็นว่า "พฤติกรรมของมนุษย์ที่สร้างกรรมต่างหาก ทำให้กรรมนั้นกลายเป็นโรคมาทำให้คนๆ นั้นเป็นทุกข์" ไม่ใช่ สิ่งนี้ สิ่งนั้น มาทำให้เป็น ดังนั้น คนที่อ้างโน่นอ้างนี่ เพื่อที่จะบอกว่า เป็นผู้ทำ ก็คือใช้คำอ้างตามตำรา "รำไม่ดี โทษปี่ โทษกลอง" นั่นเอง เพื่อหลีกเลี่ยง ปกปิด ว่าไม่ใช่ความผิดของตน แต่สิ่งหนึ่งที่เราทุกคนต้องยอมรับ คือ ความยุติธรรมของฟ้าดิน ถ้าเราไม่ผิด เราย่อมไม่ต้องมารับกรรมที่เกิดขึ้นนี้อย่างแน่นอน "ฟ้าไม่มีวันแกล้งคนที่ไม่ผิดอย่างแน่นอน"

ดังนั้น เมื่อผลผิดเกิดขึ้น กรรมเกิดรูปเป็นโรคแล้ว เราไม่รู้ว่าเป็นกรรมอะไร ต้องทำอย่างไร นั่นคือคำถามที่เราต้องการคำตอบ สิ่งนี้คือเหตุผลว่า ทำไมเราต้องมีศาสนา ต้องมีพระพุทธเจ้า ก็เพราะท่านเป็นผู้ตรัสรู้เรื่อง "กรรรม" นั่นเอง เราจึงไปหาศาสนา เพื่อเรียนรู้ และหาวิธีแก้กรรม ท่านจึงบอกว่า ถ้าเราเชื่อพระพุทธเจ้า และเอาเหตุเอาผลที่ท่านตรัสทิ้งไว้ให้ ก็ยืดอก และใช้วิธีที่พระภูมีทิ้งธรรมหมวดสมุนไพรไว้ให้ ก้มหน้าก้มตา ทานสมุนไพร และยอมรับกับอาการที่จะเกิดด้วยความอดทน สงบ และหันมาประพฤติธรรมของท่านในบางหมวดเท่าที่ทำได้ เพื่อใช้กรรมที่ทำมา "เมื่อเรายอมใช้หนี้กรรมที่ทำมา สักวันก็ต้องหมดอย่างแน่นอน" เมื่อเราไม่มีกรรม แล้วโรคจะอยู่กับเราได้อย่างไร ถ้าเราทำได้ เราก็จะประสพผลกับธรรมหมวดนี้ คือ "ความไม่มีโรค"

สรุปที่ท่านมักจะกล่าวทิ้งท้าย คือ "ไม่มีใครทำให้เราได้ และไม่มีใครทำร้ายเราได้ นอกจากตัวเราเอง" อย่าเลย .... มัวแต่โทษโน่น โทษนี่ หันกลับมาพิจารณาว่า พฤติกรรมหรือนิสัยอะไร ที่เป็นโทษกับตัวเรา ดีกว่าไหม

แม่ชีเมี้ยน พยากรณ์ว่า คนไทยไม่เอาศาสนา ทำลายศาสนา ผลกรรมอันนี้ทำให้เกิดภัยพิบัติ วันนี้คำพยากรณ์นั้นมาถึงแล้ว เริ่มด้วยน้ำ กำลังตามมาด้วยลม มองดูเป็นเรื่องร้าย แต่ในร้ายก็มีดี เพราะจากภัยพิบัติครั้งนี้ คนจะเรียกร้องหาศาสนากันระงม และจะดิ้นรนไปหาจากพระพุทธเจ้า ภัยครั้งนี้จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ คงต้องก้มหน้า และรอวันได้พบศาสนานั่นแล วันนั้นจะมาในอีกไม่ช้้า วันที่เราจะมีพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ และเราจะกลับมาใช้ พ.ศ. 1 เฉกเช่น ในอดีต จาก พระกุสันโธ พระโคนาคม พระกัสปะ มาพระโคดม เราเชื่อที่แม่ชีเมี้ยนบอก และหวังว่าเราจะมีวันที่ได้ไปกราบพระพทธเจ้าองค์ใหม่ ใครไม่เชื่อเราเชื่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44