หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า การดำเนินกิจกรรมที่ผ่านมาสามสิบปี นั่นเป็นกระบวนการลองผิดลองถูก ว่าหนทางในการดำเนินงาน ควรจะเป็นเช่นไร
บทเรียนความผิดพลาดที่สำคัญ อันเป็นเหตุที่ทำให้ท่านต้องประสพผลความเลวร้าย นั่นคือ ความเมตตาที่เกินเหตุ ทำให้ล่วงละเมิดกรรม เมื่อเห็นใครทุกข์ก็อยากช่วยไปหมด
คำชี้แนะที่แม่ชีเมี้ยนทรงให้ นั่นคือ การดำเนินตามรอยพระภูมี ต้องเลือกคน ที่มีคุณสมบัติเท่านั้น เพราะปัจจัยที่สำคัญในการประสพผลในการช่วยคนผู้นั้น นั่นคือ ต้องยื่นมือมาปรบด้วยกัน
จะไปล่วงละเมิด คนที่กรรมเขากำลังจะเล่น หมูเขากำลังจะหาม แล้วเอาคานไปสอด โดยที่คนผู้นั้นไม่ทำอะไรเลยเพื่อช่วยตน เช่นอดีต ไม่ได้อีกแล้ว
ผลแห่งการละเมิดกรรม นั่นคือ การริบอำนาจในการตัดสินใจช่วยผู้หนึ่งผู้ใดกลับไป กลายเป็นอำนาจส่วนกลางที่จัดสรรโดยฟ้าดิน ให้ตามตัวกระทำที่ทำตามคำสอนของหลวงพ่อนิพนธ์ ทำได้แค่ไหน ก็จัดสรรไปแค่นั้นแทน
บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นว่า ผู้ที่ไม่ทำ จึงกลายสภาพเป็นภาระอันหนักอึ้งของที่นี่ ต้องรีบกำจัดหรือเอาออกให้ไวที่สุด เพราะพร้อมที่จะน๊อคได้ทุกเวลา ด้วยอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่เกื้อกูลแล้ว ที่สำคํญ ไม่มีทางประสพผลในแนวทางสมุนไพรพระภูมีอย่างแน่นอน
พยากรณ์ที่หลวงพ่อนิพนธ์แจ้งให้รู้ไว้ ว่า ในอนาคต ผู้ที่ทำตนเหมือนอยู่ใกล้แต่ไม่ทำอะไรช่วยตน นั่นแหละจะโดนก่อน เสมือนเชือดไก่ให้ลิงดู
ดังนั้นอย่าแปลกใจเลย ที่อดีตคนเหล่านั้นอาจหลบอยู่ใต้ร่มของหลวงพ่อนิพนธ์ กรรมเขาก็เล่นไม่ถนัด วันนี้ ร่มของหลวงพ่อนิพนธ์ไม่มีแล้ว จะมีก็แต่ร่มของตนที่หลวงพ่อนิพนธ์สอนให้สร้างขึ้นด้วยตนเอง
นั่นคือ กิจกรรม จะเข้าครรลอง "ตนพึ่งตน" อย่างเต็มรูปแบบแล้วนั่นเอง ใครทำ ใครได้ พวกที่ไม่ทำ แล้วนึกไปเองว่าได้ อันนี้ เมื่อกรรมมาถึง ใครก็ช่วยไม่ได้ จะโทษว่าหลวงพ่อนิพนธ์ไม่เมตตา ก็ไม่ได้ เพราะแม้นแต่พระภุมี ยังทรงช่วยใครไม่ได้เลย หากผู้นั้นไม่ทำตามคำสอน