วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ทำได้หรือ


หลวงพ่อนิพนธ์สอนอยู่เสมอว่า พระพุทธเจ้าแม้นมีอำนาจบุญญาธิการมหาศาล หากแต่จะไม่เข้าไปยุ่งกับผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติโดยเด็ดขาด

อันหมายถึง หากบุคคลผู้นั้นไม่ยื่นมือมาแล้วไซร้ พระพุทธเจ้าก็จักไม่ยื่นมือไปจับ เพื่อฉุดออกมาจากการเป็นบริวารกรรมนั่นเอง

คำอุปมาที่ใช้เปรียบเทียบ คือ ศาสนาเป็นกิ่งทอง หากเราท่านอยากเข้ามาอยู่ในร่มศาสนา ก็ต้องทำตนเป็นใบหยก จึงจะมีคุณสมบัติเข้ามาในร่มนี้ได้

ย้อนกลับไปในยุคถ้ำกระบอก ในการช่วยเหลือผู้เสพยาเสพติด ไม่ว่า ฝิ่น กัญชา เฮโรอีน ก็จะพบว่า ก่อนจะทำการรักษาฟื้นฟู พระต้องให้วางสัจจะ อันเป็นคุณสมบัติที่สำคัญ หลายข้ออยู่

ข้อหนึ่งที่ทำให้เราสงสัยเป็นอย่างยิ่ง ว่าคนยุคนี้จะทำได้หรือ นั่นคือ นับถือศาสนาพุทธตลอดชีวิต

และยังมีรายละเอียดอีกว่า จะไม่นับถือ กราบไหว้เกจิคณาจารย์ ใดๆทั้งสิ้น

สัจจะข้อนี้ ใช้กับพระ และฆราวาสบางคนที่อยากปฏิบัติตามก็รับไปทำตามความสมัตรใจ

มายุคนี้ เฉกเช่นอินเดียสมัยพระโคดม ลัทธี เกจิคณาจารย์มันเยอะเหลือเกิน จะมีสักกี่คนที่ฝ่าฟันกระแสความเชื่อนี้ เข้ามาถึงพระพุทธเจ้าได้

หลวงพ่อนิพนธ์ ชี้ให้เห็นว่า แม้นแต่วิชาการ หรือหมอ ก็เป็นส่วนหนึ่งของลัทธิความเชื่อเช่นกัน

จะมาใช้ศาสน์สมุนไพรฟื้นฟูตน หากแต่พฤติกรรมตนนั้น หมอกล่าวอะไร เชื่อหมด ทำตามโดยเคร่งครัด เสียเท่าไหร่ก็รีบจ่าย ทั้งที่ไม่เคยมีหมอคนไหนรับรองเลยว่า รักษาแล้วหายร้อยเปอร์เซ็นต์

บ้างก็เข้าทรงองค์เจ้า แก้บน ... มาทานสมุนไพร แตบนไว้โน่น เจ็ดวัด สิบวัด

หลวงพ่อนิพนธ์จึงบอกว่า สิ่งที่ท่านทำในอดีต มันเข้าข่ายละเมิดกรรม อ้างความเมตตา แล้วให้โอกาสทุกคน ช่วยหมด ทั้งที่คนส่วนใหญ่ที่ช่วยหาคุณสมบัติไม่ได้เลย

มาวันนี้ วิธีการใช้อำนาจจึงถูกเปลี่ยน ไม่ได้อยู่ในมือหลวงพ่อนิพนธ์อีกต่อไป ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติ แล้วฟ้าดินจัดสรรอำนาจไปเกื้อกูลให้เอง

ด้วยเหตุนี้ ในไม่ช้ากระบวนการกรองคุณสมบัติ คงต้องเกิดขึ้นแน่ การที่จะได้เข้าถึงอำนาจ คือ หลวงพ่อนิพนธ์ ไม่ง่ายเหมือนในอดีตอีกต่อไป

เริ่มจากการสร้างคุณสมบัติเบื้องต้นที่มูลนิธิไทยกรุณา หากไม่อยากสร้างคุณสมบัติ จะทานสมุนไพรอย่างเดียว ก็รับไป ตามความสมัตรใจ

หากทานไปแล้ว เกิดความเชื่อว่า ตนทำคุณสมบัติได้ ดูจากวันเวลา ความสม่ำเสมอในการมา อยากพัฒนาตนไปอีกขั้น

ก็ย้ายไปอยู่กับพระที่สำนักลพบุรี ให้พระแนะนำวิธีการสร้างคุณสมบัติที่ถูกต้อง ลองปฏิบัติดู

หากผ่านการพิจารณาของพระแล้วว่า พอจะมีคุณสมบัติ ก็ส่งต่อให้หลวงพ่อนิพนธ์ สอนในสิ่งที่จะทำแล้วช่วยตนแบบจริงจัง

ต่อแต่นี้ คงไม่มีอีกแล้ว เหมือนในอดีต เฉกเช่นนายพลท่านหนึ่ง ที่หลวงพ่อนิพนธ์ช่วยมาตั้งแต่อยู่ไอซียู กลับมาเดินได้ ขับรถได้ แล้วเขาก็บอกขอลาสามเดือน ไปธุระ สุดท้ายภรรยาหลวงก็แอบมาบอกว่า แท้ที่จริงพาภรรยาน้อยไปแก้บน เพราะบนไว้ว่าถ้าหายจะไปแก้บนวัด ๗ วัด ทั่วประเทศไทย

หรือ อย่างคนไข้เศรษฐีท่านหนึ่ง ที่ป่วยรักษากับหมอ จนตัวเองช่วงล่างใช้การไม่ได้ หมอทิ้ง ทั้งที่ตัวเองเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของโรงพยาบาล บังเอิญรู้จักกับเพื่อนหลวงพ่อนิพนธ์ จึงแนะนำมา

หลวงพ่อนิพนธ์ก็ค่อยๆฟื้นฟู จนกลับมาเดินไปเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ วันหนึ่งภรรยามาบอก พี่เขาไม่มาแล้ว เพราะไปหาหมอ หมอบอกว่า สภาพตอนนี้ทำกายภาพบำบัด แล้วทานยา รับรองหายชัวร์

คนเหล่านี้ ไม่มีคุณสมบัติ ไม่สนธรรมคำสอน ไม่คิดจะทำตนเอากำลังที่ได้ไปทำความดี ไม่ยอมเปลี่ยนนิสัยตน ท้ายที่สุด การช่วยคนเหล่านี้ ก็เสียเปล่า เพราะไม่รอด กลับไปตายเตียงเดิม โรงพยาบาลเดิมที่จากมา รายแล้วรายเล่า

บทสรุป ความเมตตา ของพระพุทธเจ้า ใช้เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติเท่านั้นเอง ไม่หว่านไปทั่วจักรวาล ใครมาก็ช่วย เหมือนเกจิคณาจารย์หรอก เพราะมันละเมิดกรรม

นับแต่นี้ ใครจะเข้าถึงหลวงพ่อนิพนธ์ คงไม่ง่ายแล้ว แต่หากเข้าถึง แล้วทำตาม โรคที่เป็นไม่ว่าสาหัสสักเพียงไหน ก็ไม่ยากเกินกว่าจะช่วยตนหรอก

สำนักลพบุรี ก็คงจะไม่มีคนเดินเกลื่อน เหมือนมูลนิธิ หากแต่ใครได้ไปเดิน ก็เรียกว่าโรคหายไปกว่าครึ่งแล้ว

จะมีสักกี่คนที่ทิ้งเกจิ เจ้าลัทธิได้ .. นี่แล ศาสนาจึงเป็นเรื่องของคนหมู่น้อย

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44