สารเคมี มีความเป็นพิษในตัว ดังนั้นเมื่อตกที่ใดในร่างกาย นั่นทำให้อวัยวะส่วนนั้นๆ เสียไป หรือ เป็นแหล่งที่พักของโรค
เมื่อหันมาใช้แนวทางสมุนไพร ร่างกายมีความสามารถและพร้อม ก็จะทำการให้สารเคมีเหล่านี้ลอยตัว อาจไปอยู่ในเลือด หรือ ออกทางผิว
ผลที่ปรากฎ และมักทำให้คนโทษว่าเกิดจากการทานสมุนไพร นั่นคือ อาการที่เกิดจากพิษของสารเคมีเหล่านี้ เช่น แสบร้อนไปทั้งตัว การพุออกตามผิว หรือ เป็นจ้ำๆสีม่วง เป็นดวงๆ เกิดขึ้น
แทนที่จะดีใจที่ร่างกายมีความสามารถในการไล่พิษเหล่านี้ ซึ่งบ่งบอกว่าร่างกายเราท่านมีความแข็งแกร่งเพียงพอ ที่จะรับอาการที่เกิด ไม่ให้เป็นโทษแก่ร่างกาย จะต้องทนก็เพียงแต่อาการพิษนั้นจะถูกร่างกายแก้ไข ซึ่งหากหมดลง ร่างกายก็จะเคลียร์ กลับเป็นปกติ
สิ่งที่ปรากฎ หลายคนมักไม่ยอมรับ ไม่ยอมให้เกิด และยิ่งไปกว่านั้น กลับบอกว่าเป็นสิ่งไม่ดี
คนที่คิดจะมาใช้แนวทางสมุนไพร หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า ต้องยอมรับความจริง กรรมที่ทำมา เราท่านต้องรับบ้าง จะปฏิเสธไม่รับเลย เป็นไปไม่ได้ ดังนั้น การปฏิเสธไม่ยอมรับ ไม่ยอมให้เกิดเลย คิดว่า ทางเลือกนี้จะทำให้หายโดยสบาย ผลก็คือ เมื่ออาการเกิด ก็กลายเป็นอกตัญญู กับสมุนไพรที่กำลังให้คุณ เป็นโทษสมุนไพร เสียคุณสมบัติไป
พระพุทธเจ้าจึงให้สติแรก เมื่อมาใช้แนวทางสมุนไพร คือ "ทุกข์วันนี้ สุขวันหน้า"
นี่แหละเป็นข้อพิสูจน์ว่า ทำไมการทานยาเคมี จึงตกในช่องกรรม ทำลายชีวิตตน ก็เพราะมันเป็นพิษนี้เอง เพียงแต่มองไม่เห็น กว่าจะรู้ อวัยวะก็พังแล้วนั่นเอง
อย่าสงสัยเลย ข้อปฏิบัติแรกในการทานสมุนไพร จึงชี้ไปที่การต้องหยุดทานยาเคมี