วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ตามหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

คุณค่าของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีมากมายเหลือคณานับ เรียกว่าดุจดั่งต้นกัลปพฤกษ์ ที่หากแม้นปรารถนาสิ่งใด ก็สอยเอาได้ดั่งใจ ด้วยเหตุนี้คนทั้งหลายทั้งปวงจึงต่างมุ่งแสวงหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้ตนสมปรารถนา

นิทานศาสนายุคพระโคดม จึงถูกหยิบยกมาสอนสงฆ์เมื่อครั้งถ้ำกระบอก ครั้งพระโคดมยังทรงเป็นกษัตริย์หนุ่ม เมื่อถามคำถามนี้ ก็ได้คำตอบว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาไม่ลอยมาให้เห็นหรอก หากแต่ธรรมชาติของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นั้นอยู่ที่ดิน

ความหมายของคำสอนนี้ หลวงพ่อนิพนธ์อรรถาธิบายให้ฟังว่า หากจะมุ่งหมายหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ตน จะสมมุ่งหมายด้วยอาศัยทรัพย์สมบัติที่มีไม่ได้เลย หากแต่สมบัติที่มีค่าที่สุด อันติดวิญญาณและมีค่าในการแสวงบุญ นั่นต่างหากที่ใช้เป็นเครื่องหาบุญ

และบุญที่จะบังเกิด ด้วยหาใช่จากการสร้างปูชนียวัตถุไม่ หากแต่เป็นเพื่อการสร้างปูชนียบุคคล หนำซ้ำ กิจการแห่งบุญ มีรากฐานเริ่มที่การให้ ดังนั้น เมื่อเรียนรู้ศาสน์ของศาสนา แล้วนำไปสร้างบุญ บุญจักบังเกิด ผลจักบังเกิด จึงเกิดด้วยการให้นั้นเอง

ขยายความให้เห็นชัด นั่นคือเหตุที่อินเดียอันเป็นต้นศาสนาของพระโคดม หามีวัดวาอารามหลงเหลือให้เห็น และยิ่งไปกว่านั้น ธรรมของพระโคดมที่บรรลุมานั้น ก็แจกจ่ายสอนให้แก่สาวก โดยไม่คิดมูลค่าแต่อย่างใด

สิ่งที่เห็นเป็นประจักษ์พยานของศาสนา คือ ปูชนียบุคคล เรือนแสน ที่สำเร็จอรหันต์ หาใช่วัดวาหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆไม่

การแสวงหาบุญ จึงเป็นการกระทำที่ทุกคนทำได้ ดูเหมือนสิ่งเล็กน้อย แต่มีความสำคัญ เพราะเป็นการลดนิสัยกรรม สร้างคุณสมบัตินิสัยธรรม นั่นคือ การให้สุขแก่ผู้อื่น

ธรรมของพระภูมี จึงเรียกเป็นสายกลาง ขอย้ำ ไม่ใช่ที่กล่าวว่าตึงไป หย่อนไป นั่นมันมั่ว คำว่าสายกลาง หลวงพ่อนิพนธ์อรรถาธิบายว่า จึงหมายถึง ไม่สนว่าคนผู้นั้นจะเป็นใคร เชื้อชาติใด ศาสนาใด หากแม้นกระทำในสิ่งที่พระพุทธเจ้าบัญญัติ ย่อมเป็นบุญ และทุกคนมีสมบัติที่ใช้ในการประกอบบุญ เท่ากัน นั่นคือ นิสัยของตนนั่นเอง

คำถามที่ย้อนกลับมายังแม่ชีเมี้ยน ก็แล้วทำไมวัตถุเงินทอง หรือ อาหาร จึงให้ค่าน้อย ถูกจัดแค่ว่าเป็นทาน อรรถาธิบายว่า เพราะเหตุแห่งผลของวัตถุ หรืออาหาร นั้นก็เพียงชั่วครู่ชั่่วยามนั่นเอง ไม่จีรังยั่งยืน

หากแม้นเปรียบข้าว ก็ประทังหิวแค่วันหนึ่ง วันรุ่งขึ้นก็หิวอีก หากแต่เมื่อเทียบกับสมุนไพร ทำให้คนหายโรค และมีกำลังกลับตนเป็นคนดี ค่าจึงต่างกันมากนัก มะพร้าวลูกหนึ่ง ที่มาเป็นสมุไพร จึงมีค่ามากกว่ากับข้าวอย่างดีทั้งสำรับ และมากกว่าโบสถ์ทั้งหลัง ด้วยเหตุนี้นั่นเอง

หากไม่มีสมุนไพร ก็ไม่มีคนหายโรค หากไม่มีคนหายโรค คนก็ไม่อยากปฏิบัติธรรม ด้วยไม่เห็นผลแห่งการปฏิบัติ แล้วจะมีพระอรหันต์ หรือคนดีๆ ได้อย่างไร

อยากสัมผัสสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงต้องเรียนรู้ ต้องฟัง แล้วนำไปพิจารณา ทำในสิ่งที่ตนทำได้ เริ่มทีละน้อย วันละหนึ่งชั่วโมง แล้วค่อยๆ เพิ่มไปตามกำลังที่ทำได้ ผลก็จะใหญ่ตามการกระทำที่ทำได้

บทสรุปหลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า ตามหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แสวงไปทั่วโลก ก็หาไม่เจอ หากแต่อยากให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เกื้อหนุน ไม่ต้องไปตามหาที่ไหน สร้างคุณสมบัติ ตามบัญญัติของพระพุทธเจ้า แล้วสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะเกื้อหนุนเอง

หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ช่องทางให้เห็นว่า ผู้ที่จะประสพผลในการทานสมุนไพร จึงต้องมีคำตอบกับตนเองว่า ชีวิตและกำลังที่ได้คืนมา นั้นเพื่อการใด ... หากคำตอบนั้นตรงกับคำตอบของฟ้าดิน ไม่ว่าโรคอะไรก็ไม่น่ากลัว เพราะคุณคือ คนดีตามบัญญัติของฟ้าดิน แม้นมีโทษตาย ก็ต้องยก

ก็กรรมฆ่าคนตายที่ว่าสาหัส ของท่านองคุลีมาร ยังพ้นโทษได้ กรรมของเราท่านนั้นน้อยนิดนัก ทำไมจึงพ้นโทษตายไม่ได้เล่า

บทส่งท้ายที่แม่ชีเมี้ยน ทรงชี้ให้เห็นการหลอกของพราหมณ์ นั่นคือ ต้องสั่งสมบุญมาจากชาติก่อน ... แล้วไซร้จึงจักสำเร็จ ... ท่านยืนยันว่าไม่ใช่ เรื่องของศาสนา เอากันชาติเดียว ขอให้เชื่อ ศรัทธา แล้วทำตาม จบกันในชาติเดียวนี้แหละ

อ้ายที่พราหมณ์มันเขียน เกิดมาแล้วเดิน ๗ ก้าว นั่นมันบ้า เพราะหากทำเช่นนั้นได้แต่เกิด พระโคดมก็ไม่ต้องไปบวชตัดกิเลสแล้ว เพราะมีมาแต่เกิด ... เหตุแห่งการเขียนเช่นนั้น ก็ด้วยพราหมณ์มันทำไม่ได้ มันก็ไม่อยากให้ใครทำ คนรุ่นหลังมา เกิดมาไม่มีใครเดิน ๗ ก้าว ก็จึงคิดว่าตนเองทำตนไม่ได้ จึงไม่มีใครอยากเป็นพระพุทธเจ้า

อีกไม่นาน พระพุทธเจ้าองค์ใหม่จะประกาศตน เพื่อสังคายนาศาสนาพุทธของพระโคดมทิ้งไป เริ่ม พ.ศ. ๑ ใหม่ แล้วคอยดูว่า เมื่อครั้งท่านเกิด จักเดิน ๗ ก้าวหรือไม่ แล้วจักต้องสร้างบุญมาเหมือนพระไตรปิฏกเขียนหรือไม่

ความตั้งใจประการหนึ่ง ของการชวนคนมาทานสมุนไพรของหลวงพ่อนิพนธ์ ก็เพื่อทำตนรอพระพุทธเจ้านั่นเอง .. แล้วจะตาสว่างว่า ศาสน์ของพระพุทธเจ้า ที่ใช้ตัดกิเลส และบุญของพระพุทธเจ้า ไม่เป็นดั่งที่พระทั้งหลายทั้งปวง ในประเทศไทย สอนกันทุกวันนี้หรอก

นั่นมันบุญเก๊ สิ่งศักดิ์สิทธิ์เก๊ มันจึงช่วยตนของเราท่านไม่ได้ บุญจริงๆ นั้น หากได้สัมผัส โรคก็รีบเผ่นป่าราบแล้ว เพราะของมันแพ้ทางกัน

ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่จะแสวงหาบุญ เพื่อหนทางแห่งนิพพาน เขาจึงทิ้งบ้าน ทิ้งทรัพย์ ทิ้งทุกอย่าง ... เหมือนพระโคดมทิ้งวัง เพราะมันใช้ไม่ได้... คำเตือนจากหลวงพ่อนิพนธ์ จึงมักกล่าวว่า มาที่นี่ อยากหายโรค แล้วคิดจะเอาเงินมาซื้อโรค ... นั้นคิดผิด เพราะบาตรของพระ ไม่มีไว้ใส่เงิน มุ่งมาดปรารถนา อยากให้ใส่นิสัยกรรมของเราท่านที่มีไปต่างหาก จึงจักเป็นบุญ

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44