ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
หลักเหตุผล
ศาสนาพุทธ ทำไมถึงคนหลายคนไม่ชอบ แต่ก็ต้องยอมรับ ก็ด้วยเป็นหลัก เหตุและผล ที่ซึ่งพิสูจน์ได้นั่นเอง
เมื่อเหลือบศาสนาเจริญรุ่งเรืองแฝงเข้ามาในศาสนา สิ่งที่ทำพิสูจน์ไม่ได้ ก็อ้าง “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” ทั้งที่พระพุทธ ไม่เคยเอ่ยไม่เคยอ้าง มีแต่บอกอย่าเพิ่งเชื่อ ควรพิสูจน์ พิจารณาให้เห็นจริงก่อน แล้วจึงเชื่อ จึงทำ
ใครที่บอกบ้านเมืองนี้เป็นพุทธ นั่นอ้างตำรา เขาว่ากัน หากแต่ลองไปฟังนักวิชาการ ที่ชี้ให้เห็นว่า บ้านเมืองเรายามนี้ ไม่ใช่พุทธ แต่เป็นพราหมณ์บวกผี ต่างหาก มันจึงไม่แปลก มีผีบ้านผีเรือนสารพัน มีพิธีกรรมมากมาย บอกพิธีทางพุทธ แต่ให้พราหมณ์ทำก็เห็นกันมากมาย
ไม่ได้มาถกว่าอันไหนดีไม่ดี แต่กำลังชี้ว่า ถ้าเป็นยามปกติ จะทำอย่างไรไม่ว่ากัน แต่หากเป็นเรื่องของชีวิต ยิ่งตอนมีกรรม มีโรคด้วยแล้ว สิ่งที่เดิมพัน คือชีวิต ควรหรือที่จะไม่ใส่ใจในรายละเอียด ไม่พิสูจน์หรือทำให้เห็น แล้วจึงเอาชีวิตไปฝากกับสิ่งนั้น
หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้พิจารณา เรื่องของชีวิต “เหยียบเรือสองแคมสามแคมไม่ได้” เพราะจะไม่รู้เลยว่า สิ่งที่ช่วยตนได้แท้จริงคืออะไร ไม่วิกฤตก็พอทน วิกฤติมาวันใด คว้าฉวยผิด นั่นชีวิตน่ะ ที่ต้องเสียไป เหมือนพระในคอ ใครที่แขวนหลายองค์ก็พึงระวัง ถ้ามีองค์เดียว ก็รู้ได้ ถ้าพ้นภัยก็นี่แหละพึ่งได้ ถ้าไม่พ้นก็ทิ้งเสีย หาที่พึ่งใหม่
สมุนไพรพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยนนำมา แม่ชีเมี้ยนจึงชี้ว่าต้องพิสูจน์ให้คนทั้งหลายเห็น ไม่ใช่มาทานเพราะเขาเล่าว่า เขาอ้างว่าดี แล้วจึงมา จนถึงวันนี้ จึงไม่กลัว ใครอยากตรวจมา ใครอยากพิสูจน์มา
หากแต่เราแปลกใจในพฤติกรรมของหลายคน ไม่ต้องอื่นไกล แม่ของเพื่อน เป็นมะเร็ง หาหมอก็มีแต่ทรงกับทรุด ต้องผ่าต้องตัด ก็ยังไปหา เขาบอกมียาแจกที่โน่น ก็ไปกับเขาเลิกหมอ ไปกินยาแจกกินไปกินมา จากลำไส้ นี่ลามไปตับ เห็นก็เห็นว่าแม่ไม่ดีขึ้น แต่ก็ยังไปอยู่ ถ้ามาทานสมุนไพรแม่ชีเมี้ยน ใจสู้ไม่ถอยแบบนี้ ผลก็คงอยู่ไม่ไกล เสียดายคนที่มาส่วนใหญ่ ยืนระยะไม่ได้ จะเอาแต่ใจตน หายไวๆ คนที่ยืนระยะกลับไม่ชอบสมุนไพร นี่แหละหนากรรม จับคู่ไม่ได้ ผลก็ไม่มีทั้งสองแบบ
บทสรุป คนที่จะรอด ต้องศึกษา คุ้ยขุดให้เห็นจริง เมื่อนั้นจึงเกิดความเชื่อ ศรัทธา จึงมุ่งมั่นทุ่มเททำ และยอมรับความจริงว่ามันต้องใช้เวลา ถ้าหวังปาฏิหาริย์ เจอยาดี หมอดี ไม่มีทางช่วยตนได้ หาไปเถอะไม่มีวันเจอ สิ่งที่เจอก็เหมือนศาสนาพุทธในวันนี้ คือเหลือบที่หากินกับชีวิตมนุษย์เท่านั้นเอง ทั้งที่ช่วยไม่ได้ ก็บอกได้ ถ้าไม่ยอมเชื่อ ก็เอาความตาย ความทรมานมาขู่
ไม่ได้ห้าม ไม่ได้ว่า หากจะเลือกแบบไหน เป็นสิทธิ์แห่งตน ชีวิตตน หากแต่หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้พิจารณา ควรทำแบบคนฉลาด นั่นคือ อย่ามั่ว เลือกทำทีละสิ่ง พิสูจน์ให้เห็นชัด ไม่ใช่ก็ทิ้งไป อันไหนใช่ ก็คว้าให้มั่น เพียงสิ่งเดียว มิใช่เจออะไรก็เอาหมด อันไหนว่าดี เขาบอกต้นนั้นดี ก็ไปหามาทาน เขาบอกหมอนั้นดี ก็ไป เขาบอกเจ้านั้นดี ก็ไปพบ เขาบอก ... มีแต่เขาบอก นี่แลจึงยิ่งดิ้นยิ่งเหมือนลิงแก้แห ท้ายที่สุดตายไปจึงรู้ว่าสิ่งที่ตนทำล้วนพึ่งไม่ได้ ไม่เป็นแก่นสาร จะกลับมาบอกลูกหลานก็ไม่ได้
ที่สำคัญ พลาดเพียงคนเดียวก็พอไหว นี่พาลูกหลานหลงทาง ไปด้วย นอนตาหลับหรือ ยิ่งก่อหนี้ทิ้งไว้ ให้ลูกหลาน หนังเศร้ารันทดยาวไม่จบ ลำบากดิ้นรนใช้หนี้ แล้วเขาจะคิดถึงเราแบบไหน. อ้างกตัญญูคำเดียว สร้างภาระให้ลูกหลาน