วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

พระถ้ำกระบอก เป็นพวกนอกรีตจริงหรือ



ชนวนเหตุสำคัญประการหนึ่ง ในยุคต้นของถ้ำกระบอก ที่ทำให้คนบางคนบางกลุ่มไม่พอใจ นั่นก็คือ การไม่ขึ้นกับกรมศาสนา ยิ่งไปกว่านั้น วัตรปฏิบัติของพระ ที่แม่ชีเมี้ยนนำมา ที่ผู้คนได้พบเห็น ล้วนเลื่อมใส ศรัทธา ก่อให้เกิดการหลั่งใหลของผู้คน พระที่เคยบวชเล่าให้ฟังว่า วันหนึ่งๆในยุคนั้น มีผู้คนแห่แหนมาถ้ำกระบอก เป็นเรือนหมื่น ทุกวัน

ถ้ำกระบอก จึงเป็นสำนักสงฆ์ ตลอดมา ไม่อนุญาตให้ตั้งเป็นวัด ตราบจนท่านจำรูญ และท่านเจริญ ละสังขาร

ความเข้มข้น ในพงศาวดารตอนหนึ่ง ที่ถูกเล่าขานมานั่นคือ การจับพระถ้ำกระบอก ไปไว้ที่วัดพระศรีมหาธาตุ ดอนเมือง แล้วตั้งพระระดับสมเด็จ มาสอบ หลวงพ่อนิพนธ์ ที่เป็นตัวแทนพระถ้ำกระบอก

หลวงพ่อนิพนธ์เล่าให้ฟัง ความตอนหนึ่งว่า พระเหล่านั้น แจ้งข้อหา ว่าวัตรปฏิบัติของพระถ้ำกระบอก นั้นเป็นพวกนอกรีต เพราะ “ใช้สัจจะ” ไม่ใช้ศีล หลวงพ่อนิพนธ์อรรถาธิบายแย้งว่า ศีล นั้นเป็นของพราหมณ์ มีมาก่อนพระพุทธเจ้าจะประสูตเสียอีก พระไตรปิฎกที่อ้างกัน ก็เขียนชัด ว่าให้ พ่อและแม่ของท่าน ไปถือศีล เพื่อให้สมปรารถนาในการมีบุตร ใช่หรือไม่


นั่นยังไม่ใช่ประเด็น ที่สำคัญกว่า บุคคลที่รับศีล เมื่อทำไม่ได้ ย่อมผิดข้อมุสาด้วยใช่หรือไม่ คือ พูดแล้วทำไม่ได้ หรือไม่ทำ ก็แล้วมาสอนให้รับศีล ไม่ฆ่าสัตว์ ที่ซึ่งแม้นแต่พระพุทธเจ้ายังทรงทำไม่ได้ แม้นจะทรงมีสติระมัดระวังสักฉันใด เดินทางไปไหน ในอดีต ล้วนต้องเหยียบใบไม้ ก็แล้วใต้ใบไม้มีตัวอะไร สัตว์อะไร ระวังสักฉันใด ก็อาจพลาดเหยียบตายได้ มิผิดศีลไปแล้วหรือ

พระถ้ำกระบอก พิจารณาคำสอนของแม่ชีเมี้ยน ว่า พระพุทธเจ้าใช้ “สัจจะ” คือ พูดและทำในสิ่งที่ตนพอทำได้ แล้วทำตาม แทนที่จะรับศีลไม่ฆ่าสัตว์ที่หาคนทำได้ไม่ มารับเป็นไม่ฆ่าสัตว์ใหญ่ เป็นต้น อันนี้แหละพอทำได้จริง แทนที่จะรับ “ไม่มุสา” ถามหมอสิ วันหนึ่งมุสากี่รอบ ถ้าบอกแล้วคนไข้อาจรับไม่ได้ แต่ถ้าหมอ รับสัจจะ ไม่ติเตียนใคร นี่หมอพอทำได้ ที่ซึ่งพระเห็นพ้องกันว่า เป็นสิ่งที่ตนพอทำได้ และน่าจะเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า มากกว่าด้วยเหตุว่า พิจารณาผลแห่งการกระทำ ถ้าทำได้ ลดนิสัยของตนลงได้จริง

การยกอดีตมาเล่านี้ ไม่ได้มุ่งหมายจะ ขัดแย้ง โต้แย้ง หรือ ว่าคำสอนใดถูกผิด เพียงแต่ชี้ให้เห็นว่า ทำไมพระถ้ำกระบอก จึงทำเช่นนั้น ส่วนท่านใดจะเลือกทำแบบไหน ชอบแบบไหน ก็ทำกันไป

นี่แล จึงเป็นที่มา ว่า ทำไมการมามูลนิธิครูบาอาจารย์ท่านอาสิ จึงสอนให้สร้างบุญ ด้วยการทำสัจจะ เพราะเชื่อว่า “การลดนิสัยตน แล้วมาใช้นิสัยของพระพุทธเจ้า บางสิ่งบางอย่าง เมื่อพูด แล้วทำได้ นั่นเป็นบุญ” การสวดมนต์ จึงเริ่มที่กล่าว ให้คำสัญญา มีดินฟ้าอากาศ เป็นพยาน เมื่อพูดแล้วทำ เมื่อทำได้ เกิดเป็นบุญ จึงเอามาช่วยตนได้ อุทิศได้ ปลุกเสกสมุนไพรของตนได้

ใครจะว่านอกรีต ไม่เป็นไร หลวงพ่อนิพนธ์บอก “ให้ดูผล” ก็ในเม้่อทำแล้วเกิดผล ช่วยตนได้ จะบอกว่าไม่ดีได้อย่างไร เมื่อดีแล้วควรหรือไม่ที่จะทำต่อ รักษาสิ่งดีๆไว้กับตน

บทสรุป ศาสตร์พระภูมี มีอ้างเอ่ยมากมาย จนหาแก่นให้พบ นั้นยาก แต่ศาสตร์นี้เป็นหลักปราชญ์ ของปลอมจะปลอมเนียนเสิ่นเจิ้นสักฉันใด แม่ชีเมี้ยนชี้ “ให้ดูที่ผล ใช่กับตนได้” นั่นแหละของจริง

หลายคน ถามว่า สมุนไพรที่ทาน ทานมานานแล้ว แรกๆก็ดี หลายปีเข้า ตอนนี้เริ่มจะเอาไม่อยู่ ปัญหานี้เราเคยถามหลวงพ่อนิพนธ์ ท่านตอบให้พิจารณาว่า “สมุนไพรนั่นแค่มัมมี่ จะมีฤทธิ์ก็จำกัด ต้องปลุกเสกด้วยบุญญาธิการที่ตนทำ ทำได้แค่ไหน มีฤทธิ์เท่านั้น” นี่แลทำไมศาสตร์นี้ไม่กลัวคนขโมยสมุนไพร เพราะเอาไปก็ไร้ผล ด้วยต้องใช้ “ธรรม” นำหน้า





นี่แลทำไมต้องมาหาศาสนา มารับสัจจะ เพราะคำที่ไม่มีหาไม่ได้ในโลกคำเดียว นั่น คือ “บุญ” ที่ใครมีช่วยตนพ้นทุกข์ได้




จะทำแบบไหนก็ไม่ว่ากัน จะบอกว่าคำสอนนี้ผิด ก็น้อมรับ หนังนี้เป็นหนังยาว ไม่รู้ก็ถอยออกไป ยืนดูศาสนา เมื่อวันเวลา ถึงก็รู้เอง รอพระพุทธเจ้าอุบัติในพม่า นั่นแหละของจริงปรากฎ ก็จะรู้ว่าคำสอนแม่ชีเมี้ยน ถูกหรือผิด นอกรีตหรือไม่

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44