ข่าวที่มักถูกประโคม โหมกระแสแลให้ดูว่าจะเป็นไปได้ในไม่ช้า นั่นก็คือการคิดค้นแนวทางที่อาจเป็นไปได้ที่จะใช้ในการรักษาโรค โดยเฉพาะโรคร้ายแรง ที่คร่าชีวิตคนเป็นจำนวนมาก หากแต่เมื่อวันเวลาผ่านไป มันก็ยังคงเป็นความหวัง ที่ยังไม่เคยเป็นจริงแม้สักครั้ง พูดง่ายๆ โหมเพื่อหางบนั่นเอง
เมื่อคนทั้งหลาย ปากบอกเป็นพุทธ แต่ไม่เชื่อสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ว่า “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” นั่นหมายถึง โรคก็เช่นกัน เป็นกรรมที่เรา ท่านทำมามาอุบัติ ให้ทุกข์ จะมีอะไรมาทำลายไม่ได้เลย เพราะสิ่งที่ศักดิ์สิทธ์ที่สุดในโลกนี้ก็คือกรรมนั่นเอง หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้พิจารณาว่า โรคตายเหล่านี้ ไม่มียารักษาโรค เพราะมนุษย์จะชนะกรรมเป็นไปไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าแก้ผิด ยิ่งกลายเป็นดินพอกหางหมู จากโรคหนึ่งเป็นสองเป็นสามสี่... มีแต่เพิ่มไม่มีลด
ความเสียหายของประเทศ อันเนื่องจากความโลภ แลทิฐิของคนบางกลุ่ม ประเทศจึงต้องเสียงบประมาณมากมาย แถมยังเสียทรัพยากรดีๆมีความสามารถ ไปก่อนเวลาอันควรมากมาย
ถ้าประเทศนี้เป็นประชาธิปไตยจริง ต้องฟังเสียงข้างน้อยที่โดดเดี่ยวแต่พูดความจริง พิสูจน์ให้เห็นมาก็มากหลาย นั่นคือเสียงของแม่ชีเมี้ยน พิจารณาเอาเถิด โลกนี้เขามีหมอไว้ทำไม เพื่อรักษาโรคร้ายด้วยวิทยาการหรือ ไม่ใช่ หากแต่มีไว้เพื่อโรคกรรมผ่านพอไหว แลอุบัติภัย เฉพาะหน้าต่างหาก หรือเพื่อศัลยกรรม แต่ถ้าจะรักษาโรคตายไม่มีทาง ไม่ต้องอื่นไกลหลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้พิจารณา ดูแต่กระดูกเถอะ ถ้าแตกหัก หมอดามหรือตัดแต่งให้ได้ แต่ไม่มียาเคมีตัวไหนจะทำให้กระดูกติดกันได้เลย นอกจากร่างกายของเราเท่านั้นที่จะทำได้ จริงหรือไม่
วันหนึ่งเมื่อเศรษฐกิจบีบคั้น รีดเลือดกับปูเป็นค่ารักษาไม่ได้แล้ว หนี้ท่วมประเทศ ที่ซึ่งตอนนี้ก็ปาเข้าไป 6.6 ล้านล้านบาทแล้ว สมุนไพรแม่ชีเมี้ยนจะเป็นทางเลือก ที่มิเพียงแต่ต้นทุนต่ำ ยังสามารถประสพผลหายโรคได้ วันนั้นแหละ คำพยากรณ์ของแม่ชีเมี้ยน ที่ตรัสแก่หลวงพ่อนิพนธ์ว่า สิ่งที่ฉันทิ้งไว้ให้ เพื่อทดแทนคุณแผ่นดินเกิด
บทสรุป วันนี้ยังมีจ่าย จะเลือกทางไหนก็ตามชอบ วันใดที่ขาดแคลน สมุนไพรแม่ชีเมี้ยนจะเสนอตัว เงินจะได้มีเหลือไปพัฒนาประเทศ น่าเสียดายว่าทำไมต้องรอถึงวันนั้นก่อน คำตอบง่ายนิดเดียว ก็คนมันโลภ มันเห็นแก่ตัว ยุคนั้น คนดี มีคุณธรรม ซื่อสัตย์ จึงมีค่ามหาศาล เขาจะเห็นค่าในสิ่งที่แม่ชีเมี้ยนทิ้งไว้ให้
วันนั้น หมอจะได้ไม่ต้องมีงานล้นมือ ประสานกัน ไปแบบชิวๆ คนป่วยก็ได้หาย หมอก็เรียนมาแล้วช่วยคนได้ ไม่ต้องไปเรียนผิดหลงทาง เรียนมาแล้วช่วยใครไม่ได้ ดั่งที่หมออำนาจ ผอ โรงพยาบาลใหญ่ต้นๆของประเทศเพื่อนหลวงพ่อนิพนธ์ ผู้ที่ตั้งฉายาให้ว่า หมอผี ในวันที่ท่านได้เรียนหมอ แต่หลวงพ่อนิพนธ์ ได้เรียนสมุนไพร แลพูดในวันที่เจอกันในวัยเกษียณว่า หมอผีมันช่วยคนได้ แต่เรากลับช่วยคนไม่ได้เลยแม้นแต่คนเดียวให้หายโรค หลวงพ่อนิพนธ์ที่ถูกเพื่อนๆที่สอบหมอได้ทั้งกลุ่มในวันนั้นหัวเราะกับฉายาหมอผี จึงแซวว่า หัวเราะทีหลังดังกว่าโว้ย