สิ่งที่ทุกรัฐบาลของชาติต่างๆดำเนิน นั่นย่อมมุ่งเน้นเศรษฐกิจเป็นสำคัญ เพราะมันถึงปากท้องของชนในชาติ ที่จะสุขหรือทุกข์ แลเป็นเงื่อนไขการดำรงอยู่ของรัฐบาล
การค้าต่างประเทศ คือเป้าหมายสำคัญประการหนึ่งของทุกประเทศ
รัฐบาลจีนนั้นได้ถูกยอมรับว่ามีอิทธิพลมากในปัจจุบัน เสมือนแผ่อำนาจการค้าของตนไปมีบทบาททั่วโลก มาวันนี้ กำลังถึงจุดหักเห ที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง ว่ามันอาจจะเป็นจุดเริ่มของวิกฤติเศรษฐกิจโลกในไม่ช้า ทั้งที่ปรัชญาคนจีน ที่สอนลูกสอนหลาน ของยุคจีนโพ้นทะเลในไทย นั่นคือ ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน
การลดต้นทุนของฝากฝั่งยุโรปและอเมริกา ที่หันเหมาผลิตในจีน กำลังถูกประเมินใหม่ จากผลพวงจากการตรวจพบว่า ชิปประมวลผลที่สั่งทำในจีน ถูกบริษัทจีน แอบฝังชิฟที่มุ่งหมายเพื่อโจรกรรมไว้ อันหมายความว่า ประเทศใดที่นำชิพนี้ไปใช้ จีนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้หมด
ผลที่ตามมาคือ สหรัฐ แลยุโรป อาทิเยอรมัน ต้องรีบย้ายฐาน และยกเลิกการให้บริษัทต่างประเทศผลิตชิปที่มุ่งหวังลดต้นทุน ด้วยผลแห่งความมั่นคง บริษัทจีนถูกห้ามจำหน่ายอุปกรณ์ที่เข้าถึงข้อมูล อาทิ หัวเว่ยในสหรัฐ
ที่สำคัญ ความเชื่อมั่น ในความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ที่คนจีนมีมานาน ถูกสั่นคลอนและกำลังถูกทำลาย นั่นคือ นับแต่นี้ประเทศที่ผลิตสินค้าเทคโนโลยี ที่กำลังก้าวเข้าสู่ ศัพท์ใหม่ คือ IOT นั่นคือ สินค้าทุกชนิดจะสามารถถูกควบคุมได้ขอเพียงมีอินเทอร์เน็ต จะไม่สามารถผลิตในต่างประเทศได้ ซ้ำร้าย อาจจะวางขายในต่างประเทศไม่ได้เลย เช่น หัวเว่ย
ถ้าทุกประเทศไม่สามารถวางใจกันได้ ระบบการค้าย่อมมีผลกระทบร้ายแรง เศรษฐกิจโลกย่อมพินาศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หลวงพ่อนิพนธ์ เล่าพยากรณ์ของแม่ชีเมี้ยน ที่กล่าวถึงยุคก่อนพระพุทธเจ้าจะอุบัติว่า สิ่งที่จะมีค่าและสำคัญต่อมนุษย์ที่สุด นั่นคือ “ความซื่อสัตย์” เพราะหาได้ยาก ด้วยนิสัยคนโลภ อยากได้ไม่สิ้นสุด คนซื่อสัตย์จึงเป็นบุคคลากรที่คนทั้งหลายต้องการ หาใช่คนมีความรู้ ความสามารถสูง เฉกเช่นปัจจุบัน
บทสรุป คนทุกวันนี้ อยากให้ลูกเรียนสูงๆ เรียนเก่ง หากแต่พฤติกรรมห่างไกลจากธรรมคำสอนมากนัก วันเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ผู้ใดมีนิสัยของพระภูมี ยิ่งมาก ยิ่งมีคุณค่า
แค่ความซื่อสัตย์ ประการเดียว หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้พิจารณา “เสมือนน้ำซึมบ่อทราย กินไม่มีวันหมด”