หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นว่า ผู้ที่จะประสพความสำเร็จในศาสตร์ของพระภูมี ไม่ว่าจะเป็นการหายโรค หรือการจะมีได้ซึ่งนิสัยของพระพุทธเจ้า อันจักทำให้ตนเป็นคนดีในแบบพุทธศาสนา คุณสมบัติที่สำคัญประการหนึ่ง นั่นคือ "การเป็นคนจริง"
คนจริงเป็นเช่นไร หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้พิจารณาคือ บุคคลที่เอาเหตุแลเอาผลนั่นเอง และที่สำคัญกว่า คือ ยอมรับ และแก้ไขในสิ่งผิดของตน
หากแต่คนทั้งหลายทั้งปวง มักจะไม่เอาผล หรือปฏิเสธผล ที่ตนไม่ชอบ พูดฟังง่าย ท่านก็ชี้ว่า ผลดีเอาเข้าตัว ผลชั่วกูไม่รับ
ท่านอาสิก็อธิบายให้ฟังว่า ดูสิคนทั้งหลาย หากถูกรางวัล หวยเบอร์ใหญ่ หุ้นขึ้น ปรับเงินเดือน ไม่มีใครปฏิเสธ แต่ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ ไม่ยอมรับเลยแม้นแต่น้อย ต้องรีบหายากิน ยาใดที่ทำให้หายได้เร็ว ยานั้นก็กลายเป็นพระเจ้าสำหรับตน หมอใดแก้ให้หายได้ หมอนั้นก็กลายเป็นผู้วิเศษสำหรับตน ไปจนกระทั่ง พิธีกรรม ความเชื่อใด ที่ทำให้ตนหายได้ ก็พร้อมยินดี
มันจึงไม่แปลก ที่ในวันนี้ เขาอ้างว่า อยากหายโรค มาอมหัวแม่ตีนกูสิ แล้วมึงจะหาย คนแห่แหนกันไปเข้าคิว แน่นขนัด
หลวงพ่อนิพนธ์ ชี้ให้พิจารณา ว่า "ผลย่อมเกิดแต่เหตุ" ลำพังปฏิเสธผล คือปฏิเสธกรรมชั่วที่ตนทำไว้แล้ว นั่นเอง ก็สาหัส แต่ยังไม่ยอมแก้สาเหตุ ปล่อยให้สร้างกรรมต่อ นี่ยิ่งสาหัสกว่า
ท่านจึงชี้ให้ดูว่า สมัยถ้ำกระบอก คนพันคน หาคนเป็นมะเร็งสักคน ก็ยากยิ่ง สมัยนี้คนพันคน มะเร็งกว่าครึ่ง เพราะอะไร เพราะมนุษย์สมัยนี้ ปฏิเสธผล กรรมปวดเล็กๆน้อยๆ ไม่กี่ชั่วโมง ไม่กี่วัน ไม่เอาไม่รับ กินยาแก้ปวด รวมกันไป รวมกันมา เสมือนน้ำขังไว้ในเขื่อน วันหนึ่งเขื่อนพัง มันไม่มาปวดหัว เล็กๆน้อยๆแล้ว ทีนี้มันมาเป็นมะเร็งเลย
บทสรุป เมื่อแม้นแต่ผลเล็กน้อยยังปฏิเสธ จะหาคนจริงที่ยอมรับก็ยากแล้ว ทำจริง ก็ยอมรับ ยอมใช้ ยิ่งจะหาคนที่จะสาวพฤติกรรมอันเป็นเหตุที่มาแห่งผล เพื่อแก้ไขยิ่งยาก แต่ก็นั่นแหละ แม่ชีเมี้ยนตรัสว่า "กรรมมันเกิดจากนิสัย" หากจะจบแค่สมุนไพร ไม่ดับที่ต้นเหตุคือนิสัย วันหนึ่งมันก็จะย้อนคืนมาอีกเป็นแน่แท้
ใครที่ไหน วัดไหน ความเชื่อไหน ลัทธิใด จะสอนวิธีสะเดาะห์เคราะห์เยี่ยงไร หาพ้นไม่ ถ้าไม่แก้นิสัย ทิ้งนิสัยเดิม แล้วน้อมนำนิสัยของพระภูมีมาใส่ตน สะเดาะห์ให้ตายก็ไม่พ้นเคราะห์ ทำเท่าไร ก็ไม่หายโรค
เพราะสิ่งที่สู้ ท่านอาสิชี้ ไม่ใช่โรค แต่มันคือ "กรรม"
หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นในคำพังเพย "หมองู ตายเพราะงู" แปลความให้ฟัง คือ คนที่สอนให้สะเดาะห์เคราะห์ รักษาโรค แบบนั้นแบบนี้ ท้ายที่สุด ตัวมันเองนั่นแหละ ยังเอาตัวไม่รอดเลย มิใช่แช่ง แต่ผลกรรมที่ทำนั่นแหละจะย้อนกลับไป ด้วยสอนผิด ผู้อื่นเชื่อ ทำตามแล้วไม่เป็นผล ผลอันนั้นแหละจะไปฆ่าหมองู
สถานที่ของแม่ชีเมี้ยน จึงพูดความจริง ไม่มีเหลี่ยม ไม่มีมุม แต่ก็ไม่บังคับใคร ให้เชื่อ ให้ทำตาม ฟัง พิจารณา ถ้ามีเหตุมีผล เชื่อ ก็ทำตาม แล้วดูผล
ปัจจัยที่สำคัญประการหนึ่งในสาม ของการฟื้นฟู หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ว่า คือการทำตนเป็นคนจริง เราทำไว้แล้วเราต้องรับ นั่นคือ ต้องขันติ อดทน ต่ออาการที่พึงเกิด มิใช่ด้วยผลแห่งสมนไพร แต่เป็นผลจากโรค จากกรรมที่ทำไว้แล้วนั่นเอง ใครทนได้ ผ่านได้ ก็หายโรคได้